Biz news

'โนเกีย'ไตรมาสที่3/2565กับ6ผลงานเด่น ประเดิมติดตั้งSINETครั้งแรกในกัมพูชา



จดหมายข่าวโนเกีย ประจำไตรมาสที่ 3 พ.ศ. 2565

1. โนเกีย และ SINET ติดตั้งเครือข่ายความเร็วสูงแบบ XGS-PONสำหรับองค์กรเป็นครั้งแรกในประเทศกัมพูชาSINET ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตชั้นนำของประเทศกัมพูชาเลือกโนเกียเป็นผู้ติดตั้งเครือข่ายเชิงแสงแบบพาสซีฟ (Passive Optical Network: PON)
เพื่อตอบรับกับอุปสงค์ด้านบรอดแบนด์ความเร็วสูงพิเศษสำหรับองค์กรที่เพิ่มขึ้นโดยโซลูชัน XGN-PON ของโนเกียจะเริ่มติดตั้งเพื่อใช้งานในเมืองหลวงอย่างกรุงพนมเปญเป็นที่แรกก่อนที่จะขยายไปยังเมืองและภูมิภาคต่าง ๆ ในประเทศกัมพูชา เมื่อการติดตั้งพร้อมสำหรับใช้งานเครือข่ายแห่งอนาคตของ SINETนี้จะสามารถตอบสนองความต้องการด้านขีดความสามารถของเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นและยังสนับสนุนการใช้งานในรูปแบบใหม่ ๆ เช่น เมืองอัจฉริยะและระบบการขนส่งเที่ยวเปล่าแบบ 5G (backhauling)

2. บล็อก: ร่นเวลาให้เห็นผลเร็วขึ้นด้วยชุดปฏิบัติการงานบริการยุคใหม่โนเกีย อธิบายถึงวิธีที่ซอฟต์แวร์การปฏิบัติงานแบบดิจิทัลของโนเกียซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ระบบพื้นฐานคลาวน์และตั้งโปรแกรมได้เองนั้นสามารถช่วยให้ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารสามารถปรับแต่งหรือปรับโฉมบริการใหม่ในรูปแบบของ 5G หรือที่ล้ำหน้ากว่านั้นได้โนเกียแสดงให้เห็นว่าบริษัทกำลังช่วยผู้ให้บริการ PLDT/ Smartของฟิลิปปินส์ลดค่าใช้จ่ายได้อย่างไรและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านปฏิบัติการและเสริมความว่องไวของเครือข่ายได้ผ่านการปรับให้การจัดการวงจรทั้งหมดของทั้งการปฏิบัติงานเครือข่ายและส่วนงานบริการลูกค้าเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด

3. บล็อก: 5G และคลาวด์ ที่เน็กซัส ณจุดระหว่างการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและอุตสาหกรรม 4.0โนเกียได้รับการยอมรับในฐานะพันธมิตรทางด้านสื่อและการสื่อสารแห่งปีของไมโครซอฟท์ประจำปี 2565 (Microsoft’s 2022 Media and Communications Partner)ซึ่งรางวัลนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศในด้านนวัตกรรมและโซลูชันสำหรับการใช้งานของลูกค้าบนแพลตฟอร์มไมโครซอฟท์ อาชัวร์ (Microsoft Azure)ความร่วมมือนี้เป็นการนำนวัตกรรมด้านโทรคมนาคมมารวมกับแพลตฟอร์มมาตรฐานระดับโลกของไมโครซอฟท์ อาชัวร์เพื่อขับเคลื่อนงานที่พวกเขาร่วมมือกันและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัล
นอกจากนี้ยังเป็นการต่อยอดสู่ความร่วมมือในโดเมนอื่นที่จะช่วยขับเคลื่อนเครือข่ายและคลาวด์ในอนาคตอีกด้วย

4. บล็อก: เปิดรับอุตสาหกรรม 4.0อย่างราบรื่นโดยไม่กระทบการปฏิบัติงานที่สำคัญโนเกีย ได้พัฒนาพิมพ์เขียวทางธุรกิจแนวตั้งแบบเฉพาะ (vertical-specificblueprints)บนพื้นฐานของการปฏิบัติที่ดีที่สุดซึ่งเป็นแนวทางสำหรับองค์กรเชิงอุตสาหกรรมอาทิ การประมวลผลผู้ผลิต ท่าเรือ สนามบิน สาธารณูปโภคด้านพลังงานและผู้ประกอบการเหมืองแร่แบบหลุมลึกหรือเหมืองแบบเปิดด้วยแนวทางที่ดีที่สุดในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

5. เจาะลึก: ประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับ “เมตาเวิร์ส”ดอเรียน แบงค์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Looking Glass Labsอธิบายว่าเมตาเวิร์สจะเป็นไปอย่างไรในอนาคตเขาได้กล่าวถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง non-fungible tokens (NFT)และเทคโนโลยีบล็อกเชนกำลังวางรากฐานให้กับเมตาเวิร์สเนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นเสมือนเบ้าหล่อสำหรับการพัฒนาเว็บในยุค Web 3.0ที่ข้อมูลและอัตลักษณ์ถูกบริหารจัดการโดยผู้ใช้เขายังทำนายด้วยว่าเทคโนโลยีระบบสัมผัสอย่าง haptic technology
จะกลายมาเป็นกระแสหลักเพราะผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับเมตาเวิร์สและการตอบสนองกับผิวหนังของมนุษย์ด้วยเทคโนโลยี hapticจะทำให้พวกเขารู้สึกและสัมผัสได้ถึงประสบการณ์แห่งโลกดิจิทัล

6. การให้บริการด้านซอฟต์แวร์ SaaSของโนเกียมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยการรับรองระบบความปลอดภัยGSMA หลักโซลูชัน iSim Secure Connect ของโนเกีย ได้รับการรับรองโดย GSMAหลังจากที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการการจัดการกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูลและการป้องกันข้อมูลได้อย่างเป็นระบบและต่อเนื่องการรับรองนี้ช่วยให้ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารและองค์กรมีความมั่นใจในการใช้ระบบ iSim Secure Connect ที่อยู่ในบริการด้านซอฟต์แวร์แบบ SaaSของโนเกีย และยังเป็นการปูทางสู่การรับรองเชิงอุตสาหกรรมอื่น ๆแก่บริการซอฟต์แวร์ SaaS ของโนเกียอีกด้วย