In Global

ความผูกพันของ‘สี จิ้นผิง’ ต่อวัฒนธรรม: 'พวกคุณปักด้วยเข็มทีละเส้น ช่างวิเศษเหลือเกิน!'(9) 



เดินเข็มดึงด้ายอย่างรวดเร็วเพื่อรังสรรค์ผ้าปักหลากสีสัน เช่น แดง เขียว น้ำเงินและสีอื่นๆ  ใช้วิธีการเย็บปักถักร้อยที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ลวดลายงานปักเปี่ยมด้วยความหมายต่างๆนานาซึ่งมีทั้งลายมังกรกับหงส์ ลายปลากับนก และลายผีเสื้อ เป็นต้น นี่ก็คือ “เหมียวซิ่ว”หรืองานปักชาวม้ง ผลงานศิลปะและงานฝีมือที่มีมาช้านานของชนเผ่าม้งในจีน

ในฐานะหนึ่งในศิลปวัฒนธรรมประจำชนเผ่าที่มีมาแต่ดั้งเดิมที่ได้รับเลือกให้อยู่ในบัญชีรายชื่อมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ระดับชาติชุดแรกของจีน งานปักชาวม้งในทุกวันนี้ได้ก้าวออกจากภูเขาและเผยแพร่ได้อย่างยอดเยี่ยม 

เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจงานและศึกษาค้นคว้าในมณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนนั้น นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีนได้เดินทางไปที่หมู่บ้านฮว่าอู ตำบลชนเผ่าม้งซินเหริน อำเภอเฉียนซี (ปัจจุบันคือเมืองเฉียนซี) เมืองปี้เจี๋ย เครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมที่วิจิตรสวยงามของชนเผ่าม้งได้ดึงดูดความสนใจของสีจิ้นผิง "นี่ทำด้วยมือหรือ? ราคาเท่าไหร่? ขายดีมั้ย?"

“มีทั้งงานปักด้วยจักรและงานปักด้วยมือ ถ้าปักด้วยจักรราคาชุดละ 1,000 กว่าหยวน ส่วนงานปักมือชุดหนึ่งขายได้ 18,000 หยวน ไม่เพียงแต่พี่น้องชาวม้งเท่านั้นที่จะซื้อและสวมใส่ แต่นักท่องเที่ยวจำนวนมากก็ชอบเช่นกัน” เผิงยี่ ผู้สืบทอดงานปักชาวม้งในหมู่บ้านฮว่าอูแนะนำให้สีจิ้นผิงฟัง 

"เหมียวซิ่วมีทั้งความดั้งเดิมและความทันสมัย พวกคุณปักด้วยเข็มทีละเส้น ช่างวิเศษเหลือเกิน!" สีจิ้นผิงกล่าวให้กำลังใจแก่ทุกคนในการพัฒนาและเผยแพร่งานปักชาวม้งให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้นว่า นี่เป็นทั้งอุตสาหกรรมและวัฒนธรรม หากพัฒนาได้ดีนอกจากสามารถสืบสานวัฒนธรรมประจำชนเผ่าและวัฒนธรรมดั้งเดิมแล้ว ยังสามารถสร้างคุณูปการแก่การบรรเทาความยากจนผ่านการสร้างธุรกิจและการพัฒนาชนบทให้เจริญรุ่งเรืองได้อีกด้วย

“ท่านเลขาธิการสีจิ้นผิงใช้คำว่า 'วิเศษ' เพื่อแสดงความชื่นชมต่อ 'หนึ่งเข็มหนึ่งด้าย' ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการรับรองงานปักชาวม้งในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้เท่านั้น แต่ยังได้สะท้อนให้เห็นถึงความเอาใจใส่ของท่านเลขาธิการใหญ่ต่อการสืบทอดและพัฒนาวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยอีกด้วย” หลิวรุ่ย หัวหน้าสำนักงานพิเศษด้านงานปักเงินของเมืองข่ายลี่ มณฑลกุ้ยโจว ซึ่งทำงานด้านการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยกล่าว

เผิงยี่กล่าวว่า “ดิฉันจะไม่มีวันลืมสายตาที่จดจ่อของท่านเลขาธิการใหญ่ขณะชมงานปักชาวม้ง ความห่วงใยและเอาใจใส่ของท่านที่มีต่องานปักชาวม้งได้ปลุกความทรงจำทางวัฒนธรรมประจำชนเผ่าของผู้คนทั้งหลาย” 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เผิงยี่ได้เดินทางไปทุกแห่งหนในมณฑลกุ้ยโจวมาแล้ว เพื่อเยี่ยมเยียนผู้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้และศิลปินพื้นบ้าน เรียนรู้ ซึมซับและหลอมรวมศิลปะและเทคนิคการปักที่แตกต่างกัน เช่น งานปักลายหางม้าของชนเผ่าสุ่ย งานปักด้ายจิ๋วของชนเผ่าม้งในพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้มณฑลกุ้ยโจว และงานปักสองด้านในพื้นที่ซงเถา เป็นต้น 

ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา มณฑลกุ้ยโจวได้ดำเนินมาตรการที่ทรงพลังหลายประการอย่างจริงจัง เช่น การจัดตั้งทีมนำด้านภารกิจการพัฒนาอุตสาหกรรมงานปักชาวม้ง การกำหนดเป้าหมายการพัฒนางานปักชาวม้งในด้านความเป็นอุตสาหกรรม ความทันสมัย ความเป็นสากล และการสร้างแบรนด์ การบ่มเพาะผู้สืบทอดวัฒนธรรมประจำชนเผ่าในท้องถิ่นอย่างแข็งขัน ตลอดจนการทุ่มเทสนับสนุนวิสาหกิจงานศิลปหัตถกรรมของชนกลุ่มน้อยที่มีเอกลักษณ์ เป็นต้น นำมาซึ่งความมีชีวิตชีวาแห่งการพัฒนางานปักชาวม้งอันเก่าแก่ 

“ท่านเลขาธิการใหญ่กล่าวว่างานปักชาวม้งมีทั้งความดั้งเดิมและความทันสมัย ซึ่งทำให้เราได้ค้นพบจุดเน้นในการสืบทอดและการพัฒนาวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อย การพัฒนาท่ามกลางการสืบสานนั้น เราต้องขับเคลื่อนการหลอมรวมและการสร้างนวัตกรรมอย่างแข็งขัน เพื่ออัดฉีดพลังชีวิตให้กับมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากยิ่งขึ้น” ปัจจุบันนี้ เจิงเสียงฮุ่ย รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยชนกลุ่มน้อยสังกัดวิทยาลัยข่ายลี่มณฑลกุ้ยโจว กำลังรวบรวมและแยกแยะอย่างเป็นระบบ รวมทั้งศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับความสำเร็จในการพัฒนางานปักชาวม้งในยุคใหม่ 

ปี 2021 งานปักชาวม้งได้ปรากฏตัวในงานแฟชั่นเซี่ยงไฮ้วีค ทุกวันนี้ ร้านค้าบนอินเทอร์เน็ตและร้านค้าออฟไลน์ต่างๆ ต้อนรับผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ชื่นชมและใช้ศิลปะอันงดงามของชนเผ่าม้งในชีวิตประจำวันของพวกเขา 

------------------------------

คำประกอบภาพ
สีจิ้นผิงลงพื้นที่ตรวจงานที่หมู่บ้านฮว่าอู  อำเภอเฉียนซี (ปัจจุบันคือเมืองเฉียนซี) เมืองปี้เจี๋ย มณฑลกุ้ยโจว เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ปี 2021 

เผิงยี่ ผู้สืบทอดงานปักชาวม้งในหมู่บ้านฮว่าอู 

----------------------------------

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน(CMG)