In Bangkok

กทม.รุกเตรียมแนวทางป้องกันผลกระทบ เหตุสารเคมีรั่วไหลในจ.นครปฐม



กรุงเทพฯ-สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.เตรียมพร้อมแนวทางป้องกันผลกระทบจากเหตุสารเคมีรั่วไหลใน จ.นครปฐม

นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กล่าวกรณีเหตุสารเคมีจากโรงงานรั่วไหลในตำบลขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐมว่า สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย พร้อมรถปฏิบัติการกู้ภัยสารเคมีและวัตถุอันตราย เพื่อเตรียมความพร้อมการตอบโต้เหตุสารเคมีรั่วไหล เมื่อได้รับการร้องขอ รวมทั้งเตรียมการรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่เขตรอยต่อกับจังหวัดนครปฐม อาทิ เขตหนองแขม เขตทวีวัฒนา และเขตตลิ่งชัน ตามแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย กทม. และจากการติดตามรายงานสถานการณ์ของสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 กรมควบคุมมลพิษ พบสารเคมีที่รั่วไหลเป็นสารกลุ่มอะโรเมติก เบนซีน ไดฟีนีล ออกไซด์ และ ไบฟีนีล ซึ่งสารเคมีดังกล่าวมีน้ำหนักเบา ลอยไปในอากาศได้ระยะไกล หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอากาศคลื่นไส้ เวียนศีรษะ ส่งผลต่อทางเดินทางหายใจ และแนะนำให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและอยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก หากพบความผิดปกติทางร่างกายควรพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ ทั้งนี้ ประชาชนที่พบเหตุสารเคมีและวัตถุอันตราย หรือเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ สามารถแจ้งเหตุทางสายด่วน 199 หรือ 1555 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวว่า สำนักสิ่งแวดล้อมได้ประสานสำนักอนามัย สำนักงานเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุสารเคมีรั่วไหลดังกล่าว ซึ่งสำนักอนามัยได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจประเมินผลกระทบต่อสุขภาพในพื้นที่เขตทวีวัฒนา  โดยพบค่าสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและได้รับแจ้งจากแหล่งเกิดเหตุว่า สถานการณ์ยุติแล้วจากปัจจัยสภาพภูมิอากาศ ความเร็วลม ทิศทาง ปริมาณสารเคมีที่จัดเก็บ ผลกระทบเรื่องกลิ่นสารเคมีประมาณ 7 กิโลเมตร ภายในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบเล็กน้อย กลิ่นจาง โดยพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง คือ เขตหนองแขมและเขตทวีวัฒนา 

นายดิชา คงศรี ผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้ลงพื้นที่บริเวณที่ได้รับผลกระทบ คือ โรงเรียนวัดปุรณาวาส โรงเรียนมัธยมปุรณาวาส และศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนวัดปุรณาวาส ปรากฏได้รับกลิ่นชัดเจนมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ จึงประสานงานแจ้งให้โรงเรียนสั่งปิดเรียนและแจ้งผู้ปกครองมารับบุตรหลานกลับบ้าน รวมทั้งประสานให้ทุกชุมชนประชาสัมพันธ์แนะนำประชาชนสวมหน้ากากอนามัยโดยเคร่งครัด เพื่อป้องกันผลกระทบจากสารเคมี ทั้งนี้ ชุมชนวัดปุรณาวาสซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงตามทิศทางลม ได้ประสัมพันธ์เสียงตามสายให้ประชาชนทราบถึงสถานการณ์และประสานศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนวัดปุรณาวาส เพื่อให้ผู้ปกครองมารับเด็กกลับบ้านทั้งหมดจำนวน 136 คน 

นางมณีวรรณ ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการเขตหนองแขม กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบชุมชนและบ้านเรือนประชาชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่รอยต่อจังหวัดนครปฐม  ได้แก่ ซอยกระทุ่มล้ม หมู่บ้านร่มประดู่ แขวงหนองค้างพลู  เขตหนองแขม ซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานที่เกิดเหตุสารเคมีรั่วไหลประมาณ 16.35 กิโลเมตร จากการสอบถามผู้พักอาศัยบริเวณดังกล่าวไม่พบผู้ที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ได้แนะนำและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่เขตหนองแขมป้องกันตนเอง โดยหลีกเลี่ยงการออกนอกอาคาร หรือหากจำเป็นให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดกิจกรรมกลางแจ้ง และ ให้ระมัดระวังกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง และเด็กเป็นพิเศษ หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ในทันที