In Bangkok

กทม.เฝ้าระวังพร้อมให้ความช่วยปชช. ได้รับผลกระทบสารเคมีรั่วไหลนครปฐม



กรุงเทพฯ-สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.เฝ้าระวัง พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในกรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุสารเคมีรั่วไหลใน จ.นครปฐม

นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามอาการและให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานที่จังหวัดนครปฐมว่า สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอยู่ระหว่างประสานสำนักงานเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ เขตหนองแขม เขตทวีวัฒนา และเขตตลิ่งชัน หากพบว่ามีประชาชนได้รับอันตรายจากสารเคมีและต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล สามารถขอรับการช่วยเหลือเยียวยาตามข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง การสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ.2536 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งระเบียบ กทม.ว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2564 สอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๒๗๑ ๒๑๖๒ และโทรสาร ๐ ๒๒๗๑ ๒๑๕๙

นายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวว่า สำนักสิ่งแวดล้อม ได้ประสานสำนักอนามัย และสำนักงานเขต ตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหล รวมถึงติดตามสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุสารเคมีรั่วไหลดังกล่าว โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยสำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย ได้ลงพื้นเฝ้าระวังมลพิษทางอากาศในเขตที่มีพื้นที่ใกล้เคียงจังหวัดนครปฐม อาทิ เขตภาษีเจริญ และเขตทวีวัฒนา โดยสุ่มตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว ซึ่งผลการตรวจวัดมีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเฝ้าระวังความเข้มกลิ่นและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในบริเวณใกล้เคียง หากได้รับผลกระทบ หรือมีอาการแพ้สารเคมีให้พบแพทย์ทันที

นางอณุสรา ชื่นทรวง ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กทม. กล่าวว่า  สำนักพัฒนาสังคม ได้ประสานสำนักงานเขตทวีวัฒนา เพื่อแจ้งศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนวัดปุรณาวาสและผู้ปกครอง ขอให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง หรือหลีกเลี่ยงการออกนอกอาคารและไม่ควรอยู่ในบริเวณพื้นที่โล่งแจ้ง รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันระบบทางเดินหายใจ หากมีอาการผิดปกติทางร่างกาย ควรพบแพทย์เพื่อประเมินอาการที่สถานพยาบาลใกล้บ้านและขอให้ติดตามสถานการณ์ข้อมูลข่าวสารเหตุสารเคมีรั่วไหลดังกล่าวจากทางราชการ หรือสื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง

นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา  กทม. กล่าวว่า สำนักการศึกษา ได้ประสานสำนักงานเขตทวีวัฒนาติดตามและเฝ้าระวังนักเรียนที่ได้รับผลกระทบในโรงเรียน (รร.) วัดปุรณาวาสและ รร.มัธยมปรุณาวาส หากพบนักเรียนได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว ให้ประสานศูนย์บริการสาธารณสุขพื้นที่ที่ดูแลทันที รวมทั้งให้งดการจัดกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภทในห้วงเวลาที่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย และปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น การออกกำลังกาย หรือเรียนวิชาพลศึกษา ให้ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนภายในห้องเรียน หรือห้องประชุมแทน

นายดิชา คงศรี ผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตทวีวัฒนา ได้ประสานสถานีดับเพลิงตลิ่งชัน สาขาทวีวัฒนา เข้าสำรวจหาต้นเหตุของกลิ่นแก๊สข้างต้น พบว่าสารเคมีที่รั่วไหลจากโรงงานที่ จ.นครปฐม เป็นกลุ่มอะโรมาติกเบนซีน ได้แก่ สารเอทิลีนไกลคอล และกรดซัลฟิวริก จึงประสานให้ประธานชุมชนทั้ง 17 ชุมชนประชาสัมพันธ์แนะนำประชาชนสวมหน้ากากอนามัยโดยเคร่งครัด เพื่อป้องกันผลกระทบจากสารเคมี และจากการประสานประธานชุมชนในพื้นที่ได้รับแจ้งว่า เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง และหญิงตั้งครรภ์ ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดเนื่องจากส่วนใหญ่อยู่ในบ้านพัก ขณะเดียวกันได้ประสาน รร.วัดปุรณาวาส รร.มัธยมวัดปุรณาวาส รร.คลองมหาสวัสดิ์ รร.ตั้งพิรุฬห์ธรรม  รร.คลองต้นไทร (สุขล้อมอุทิศ) รร.คลองบางพรหม และ รร.คลองทวีวัฒนา (ทองน่วมอนุสรณ์) เพื่อแจ้งให้นักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนป้องกันตนเองจากสารเคมีด้วยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และไม่ควรอยู่ในบริเวณพื้นที่โล่งแจ้ง นอกจากนั้น ยังได้ประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊กและแอปพลิเคชันไลน์ ให้ประชาชนในพื้นที่ทราบถึงวิธีการป้องกันตนเองจากสารเคมี โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการออกนอกอาคาร และไม่ควรอยู่ในบริเวณพื้นที่โล่งแจ้ง ตลอดจนประสานสำนักอนามัย ตรวจประเมินสารเคมีในบรรยากาศในพื้นที่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุและที่ได้รับผลกระทบโดยเมื่อวันที่ 22 ก.ย.65 วัดปริมาณก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไชด์ในบรรยากาศบริเวณหน้าศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนวัดปุราณวาส ไม่พบก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์แต่อย่างใด