In Thailand
ชมรมผู้ผลิตน้ำดื่มจัดอบรมผู้ประกอบการเรื่องการแสดงฉลากภาชนะบรรจุ
มหาสารคาม-ชมรมผู้ผลิตน้ำดื่ม จัดอบรมผู้ประกอบการน้ำดื่ม เรื่องการแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ แสดงฉลากไม่ถูกต้อง โทษปรับ 20,000 บาท
ที่ห้องประชุมฟาร์มโคนมโคกก่อ บ้านโคกก่อ ตำบลโคกก่อ อำเภอเมืองมหาสารคาม นายบุญถม ปาปะเพ เภสัชกรชำนาญการพิเศษ (ด้านเภสัชกรรมคลินิค) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในการเปิดการอบรมผู้ประกอบการน้ำดื่มจังหวัดมหาสารคาม เรื่องการแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุโดยมีผู้ประกอบการน้ำดื่มจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 80 แห่ง เข้าร่วมอบรม ภายในงานได้มีการบรรยายว่าด้วย เรื่อง การแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 367) พ.ศ. 2557 ตาม พรบ.อาหาร พ.ศ. 2522 และมีการสาธิตการใช้เครื่องพิมพ์ อักษร/วันที่-เดือน-ปี ในภาชนะบรรจุน้ำดื่ม
นายณัฐวุฒิ ประทีปะวณิช ประธานชมรมผู้ผลิตน้ำดื่ม จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 367) พ.ศ. 2557 เรื่อง การแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ อาศัยตามอำนาจพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ซึ่งหากผู้ประกอบการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารไม่แสดงวันเดือนปีที่ผลิต และหรือวันเดือนปีที่หมดอายุ ต้องมีระวางโทษปรับนั้น เนื่องจากผู้ประกอบการน้ำดื่มจังหวัดมหาสารคาม หลายรายยังขาดความรู้และความเข้าใจ ในการปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 367) พ.ศ. 2557 เรื่อง การแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ ในฐานะชมรมผู้ผลิตน้ำดื่ม จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการน้ำดื่มของจังหวัดมหาสารคาม วัตถุประสงค์เพื่อเป็นองค์กรกลางระหว่าง สมาชิกชมรมฯ ,หน่วยงานกาครัฐฯและผู้บริโภค จึงได้จัดอบรมผู้ประกอบการน้ำดื่ม จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งมีวิทยากรจากสำนักงานตาธารณสุข จังหวัดมหาสารคาม มาให้ความรู้และความเข้าใจ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 367) พ.ศ. 2557 เรื่อง กรแสดงฉอากของอาหาวในภาชนะบรรจุ
ด้านนายบุญถม ปาปะเพ เภสัชกรชำนาญการพิเศษ (ด้านเภสัชกรรมคลินิค) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า การอบรมในครั้งนี้ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการน้ำดื่ม ได้เรียนรู้ข้อถูกต้องของฉลากอาหารที่ออกสู่ตลาด หลังจากอบรมเรียบร้อยต้องไปตรวจสอบฉลากอาหาร ให้มีความถูกต้องในทุกๆ ส่วน หากไม่ครบให้รีบดำเนินการปรับปรุง ซึ่งน้ำดื่มที่ผู้ประกอบการผลิต จะมีอายุ 2 ปีนับจากวันที่ผลิตและเจ้าหน้าที่จะให้เวลาไปปรับปรุงแก้ไขและจะไปตรวจสอบ ตามโรงงานต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค หากไม่ถูกต้องมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท