In Bangkok
กทม.ร่วมมือภาคีเครือข่ายเดินหน้าป้องกัน แก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่

กรุงเทพฯ-รองปลัดกทม.ร่วมมือภาคีเครือข่ายเดินหน้าป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ประชาชนที่เข้าไปเกี่ยวข้องส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนวัยทำงานอายุช่วง 25-29 ปี รองลงมาคือ 30-34 ปี และเป็นกลุ่มประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป
(27 ก.ย.65) นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กทม. ครั้งที่ 2/2565 พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณบุคคลที่มีผลงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดดีเด่น ประจำปี 2565 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร
“กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีคนอาศัยอยู่มากและมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีสถานบันเทิงในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ปัจจุบันพบปัญหาคนได้รับการทำร้ายจากคนใกล้ตัวจำนวนมากขึ้น แสดงให้เห็นความรุนแรงของปัญหา ในหลายชุมชนที่เป็นชุมชนสีขาวยังเป็นแหล่งพักยาเสพติด ทำให้สีขาวที่มียังไม่ขาวจริง หน่วยงานจึงต้องไปทบทวนว่าขาวจริงหรือไม่ และความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมเป็นอย่างไร รวมทั้งในพื้นที่โรงเรียนที่ต้องเน้นการปกป้องในทุกมิติ” รองปลัดกทม. กล่าว
ในที่ประชุมสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กทม. และหน่วยงานได้รายงานผลการดำเนินในส่วนที่เกี่ยวข้อง หลายประเด็น อาทิ ภาพรวมสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่กทม. รายงานการจับกุมตั้งแต่ ต.ค.64-ส.ค.65 โดยพบว่าประชาชนที่เข้าไปเกี่ยวข้องส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนวัยทำงานอายุช่วง 25-29 ปี รองลงมาคือ 30-34 ปี และเป็นกลุ่มประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป วิธีการซื้อขายที่นิยมใช้ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ และใช้การบริการส่งไปรษณีย์และขนส่งเอกชนเป็นหลัก สำหรับสารเสพติดที่พบใช้ในสถานบันเทิงคือยาอีและคีตามีน
จากนั้น สำนักงานป้องกันและบำบัดยาเสพติดได้รายงานผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งยาเสพติดที่พบมากที่สุดในพื้นที่กทม.คือยาบ้า รองลงมาคือไอซ์และเฮโรอีน มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับการประเมินสถานะชุมชนเข้มแข็งเอาชนะยาเสพติดที่จดทะเบียนในกทม.ทั้ง 2,016 แห่ง พบว่ามีปัญหา 205 แห่ง และไม่มีปัญหา 1,811 แห่ง
นอกจากนี้ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาร่างนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด (พ.ศ.2566-2570) และร่างแผนปฏิบัติการภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566
รองปลัดกทม. กล่าวว่า การควบคุมสถานบันเทิงต้องพิจารณารายละเอียดให้ชัดเจน ข้อมูลที่มีทั้งหมดที่มีต้องนำมากำหนดเป็น Action plan ซึ่งนโยบายการป้องกันและแก้ไขยาเสพติดของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้เน้นที่ประชาชนเป็นหลัก โดยต้องคิดว่าอยากเห็นประชาชนได้อะไร การดำเนินการไม่ใช่แค่ภาครัฐ จะต้องมีภาคประชาชน นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจำเป็นต้องหาความร่วมมือในทุกภาคส่วน กรอบที่กำหนดสำหรับงานภาคบริการต้องชัดเจนและมีการกำกับติดตามในลักษณะที่ผู้ประกอบการก็อยู่ได้ คนใช้บริการก็ปลอดภัย