Biz news

เปิดแล้ว!งาน Sustainability Expo2022 ชูแนวคิด'พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก'



กรุงเทพฯ-5 องค์กรธุรกิจชั้นนำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับสากล ยกระดับงาน Sustainability Expo ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน รวมพลังบวกสร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือเพื่อผลักดันทศวรรษแห่งการปฎิบัติ ภายใต้แนวคิด "พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก" (Sufficiency for Sustainability) พร้อมปลุกกระแสร่วมสร้างสมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีขึ้น 

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “งาน Sustainability Expo 2022 หรือ SX 2022 จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อเปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนมารวมตัวกัน และขยายเครือข่ายออกไปยังต่างประเทศ แต่ยังคงยึดโมเดลและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการจัดงาน และสร้างแรงบันดาลใจให้นำไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ ให้เกิดความยั่งยืนในบริบทของสังคมไทย

จากการริเริ่ม TSX Expo ภายใต้เครือข่ายห่วงโซ่อุปทาน หรือ Thailand Supply Chain Network (TSCN) ใน 2 ปีที่ผ่านมา ปีนี้ 5 องค์กรธุรกิจ ได้แก่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซีจี จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผนึกกำลังกันพัฒนาแพลตฟอร์มสู่มหากรรมด้านความยั่งยืนระดับภูมิภาค ภายใต้ชื่อ SX 2022 นอกจากนี้ งาน SX2022 ยังเป็นแพลตฟอร์มที่นำเสนอโมเดลธุรกิจที่เรียกว่า B2C2B (Business-to-Consumer-to-Business) ซึ่งยึดผู้บริโภคเป็นแกนกลาง โดยเชื่อมโยงระหว่างองค์กรธุรกิจกับผู้บริโภค และผู้บริโภคจะเชื่อมโยงกลับสู่ภาคธุรกิจ”

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การทำงานด้านความยั่งยืนถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของไทยยูเนี่ยน โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้ผู้คน และดูแลรักษาความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล หรือ Healthy Living, Healthy Oceans ให้กับคนรุ่นต่อไป ภายใต้กลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของเราที่เรียกว่า SeaChange® “ไทยยูเนี่ยนตั้งใจที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกกับทั้งอุตสาหกรรมอาหารทะเลของโลก ใน 4 ด้าน คือ แรงงานปลอดภัยและถูกกฎหมาย การจัดหาวัตถุดิบด้วยความรับผิดชอบ การดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบ รวมไปถึงการดูแลผู้คนและชุมชน ซึ่งเป็นแกนหลักในการทำงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ” นายธีรพงศ์กล่าว

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี กล่าวว่า “ในภาวะโลกรวน ทุกคนต้องคำนึงถึงการดำรงชีวิตและดูแลโลกไปพร้อมกัน เอสซีจีขอเชิญชวนให้ทุกคนใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก เช่น ระบบหลังคาโซลาร์ ที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ลดค่าไฟ แพคเกจจิ้งรักษ์โลกที่ช่วยยืดอายุผักและผลไม้ ลดขยะอาหาร สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ รวมถึงนวัตกรรมที่ช่วยให้คุณและครอบครัวปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5 เชื้อโรค และไวรัส เช่น SCG Active AIR Quality เอสซีจีพร้อมสร้างโลกที่น่าอยู่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป”

ดร. คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) กล่าวเสริมว่า ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง Sustainability Expo GC มุ่งมั่นและให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจบนหลักการความยั่งยืนมาโดยตลอด ด้วยสมดุล ESG คือ บรรษัทภิบาล (เศรษฐกิจ) สังคมและสิ่งแวดล้อม “วันนี้ GC มีเป้าหมายที่ท้าทายในการยกระดับสู่การเป็นองค์กรธุรกิจคาร์บอนต่ำ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ “Net Zero” ภายในปี 2050  ผ่านการดำเนินงานด้านการปรับปรุงกระบวนการผลิตลดการปล่อย Carbon การต่อยอดสู่ธุรกิจ High Value Business และ Low Carbon Business  และการปลูกป่าและดักจับคาร์บอน นอกจากนั้น ยังมีโครงการอีกมากมายเพื่อคืนกลับสู่สังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน  การดำเนินการทั้งหมดนี้เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต และส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้คนรุ่นต่อไป”

ขณะที่นายปณต วัฒนสิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวเสริมว่า “บริษัทฯ ยินดีที่ได้ร่วมจัดงานมหกรรมความยั่งยืน SX2022 เนื่องจากสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของบริษัทฯ คือ Inspiring Experiences, Creating Places for Good หรือการมุ่งเน้นสร้างสิ่งที่ดีที่ยั่งยืนให้กับผู้คน ธุรกิจ และชุมชนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจในการส่งมอบประสบการณ์อันทรงคุณค่าให้ลูกค้า การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การมุ่งไปสู่การเป็นองค์กรที่ปลอดการปล่อยคาร์บอน หรือการสร้างธุรกิจที่พร้อมสำหรับอนาคตที่มีความไม่แน่นอนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์โลกที่ทุกคนได้รับประสบการณ์อย่างเท่าเทียมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้”

งาน SX 2022 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กันยายน - 2 ตุลาคม 2565 บนพื้นที่กว่า 40,000 ตรม. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีบริษัทชั้นนำและองค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศรวมกว่า 100 แห่งมาร่วมงาน และผู้เชี่ยวชาญ ผู้นำองค์กรธุรกิจกว่า 150 รายที่มาร่วมให้ความรู้และแลกเปลี่ยนทัศนคติบนเวทีเสวนา เพื่อให้ความรู้ ความเห็น และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสเทรนด์นวัตกรรม เทคโนโลโลยีที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนในทุกมิติ ผ่านนิทรรศการ เวทีสัมมนา/เสวนา ตลอดจนหลากหลายกิจกรรมที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย