In Thailand

ฝนหนักคืนเดียว ถนน 2 สายกลายเป็นคลอง



กาญจนบุรี-ฝนหนักคืนเดียว ถนน 2 สายกลายเป็นคลอง ผวจ.ใหม่ พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง รุดตรวจสอบแก้ไขแต่เช้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 2 ที่ผ่านมา จนถึงเช้าวันที่  3 ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก และต่อเนื่องกันนานหลายชั่วโมง ทำให้จังหวัดกาญจนบุรีในหลายพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัยน้ำท่วม เช่นบริเวณถนนสายพัฒนาการ ตั้งแต่สามแยกตัดทางรถไฟบ้านหัวนาล่างเขตติดต่อระหว่างเทศบาลเมืองกาญจนบุรี กับเทศบาลเมืองปากแพรก ผ่านโค้งแก้มลิง มุ่งหน้าไปทางแยกตัดทางรถไฟหมู่บ้านกาญจนบุรีวิลล่า ถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม โดยระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ 30-50 เซนติเมตร ผู้ที่ใช้ยานพาหนะเช่น รถยนต์เก๋ง และรถจักรยานยนต์ ควรหลีกเลี่ยงแล้วไปใช้เส้นทางอื่นแทน ซึ่งจากการพบว่ามวลน้ำที่ไหลมาท่วมขังนั้นเป็นมวลน้ำที่ไหลมาจากท้องที่เทศบาลเมืองปากแพรก

ขณะเดียวกันถนนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง คือบริเวณถนนพัฒนาการ ตั้งแต่แยกตัดทางรถไฟถนนอู่ทอง ผ่านท้ายซอยไปรษณีย์ มุ่งหน้าที่ทางเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี หรือศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ถึงแม้ระดับน้ำจะไม่สูงมากนัก แต่ผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์จะต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติรถลื่นล้ม ทำให้บาดเจ็บได้

และนอกจากถนนเส้นทางนี้ ยังมีถนนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอีก 1 เส้นทาง คือ ถนนสายบายพาส(เลี่ยงเมือง) จากสี่แยกไฟแดงวังสารภี  ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี มุ่งหน้าไปทางสามแยกท่าล้อ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง โดยน้ำได้ไหลเข้าท่วมขังถนนทั้งขาไปและกลับ ผู้ที่ใช้รถเล็กควรหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปอีกว่า ร.ท. ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ที่เพิ่งย้ายมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี คนใหม่ถอดด้าม เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังทราบสถาณการณ์น้ำ จึงร่วมกับสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางลงพื้นที่ดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ และหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

 คาดว่าหากวันนี้ฝนไม่ตกลงมาอีก สถานการณ์น้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชน และถนนหนทางก็คงจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ

ทั้งนี้ ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า "ฝนที่ตกลงเป็นปลายหางของพายุ โนรู  โดยคืนที่ผ่านมาฝนได้ตกลงมาโดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว จึงทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบอยู่บ้าง และจากการที่ได้พูดคุยกับชาวบ้านทราบว่าครั้งนี้ถือว่าน้ำท่วมมากที่สุดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ  นายกเทศบาลเมืองปากแพรก รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ จากอำเภอท่าม่วง ได้ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพราะน้ำที่เข้าท่วมถนนนั้นเป็นน้ำมาจากพื้นที่เทศบาลเมืองปากแพรกไหลไปท่วมเขตพื้นที่ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วงฯ

แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือทุกหน่วยงานจะต้องมือร่วมใจกันอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้ถนนสายดังกล่าว โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน ทั้งช่วงเช้า และช่วงเย็นเพราะประชาชนต้องเดินทางไปทำงานและกลับบ้านพัก  รวมทั้งต้องส่งลูกไปโรงเรียนและไปรับกลับบ้านด้วย สำหรับหน่วยงานที่มาคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สภ.เมืองกาญจนบุรี  สภ.ท่าม่วง เจ้าหน้าที่ทหาร รวมทั้ง อปพร. และมูลนิธิต่างๆ รวมทั้งจิตอาสาอีกด้วย"

ก่อนอื่นผมต้องขอโทษพี่น้องประชาชนด้วย ที่พายุเอาน้ำท่ามาให้เมืองกาญจน์ได้เก็บไว้กินไว้ใช้ แต่ก็จะทำให้พี่น้องลำบากสักนิดหนึ่ง ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เป็นไร เพราะมันเป็นเรื่องของธรรมชาติ เมื่อได้ยินผมก็รู้สึกชื่นใจ แต่ก็ต้องขอโทษพี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรีมา ณ ที่นี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน ทางด้านนายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม  อย่างใกล้ชิด เนื่องจากคืนที่ผ่านมาพายุฝนได้ตกลงมาตลอดทั้งคืน โดยให้เจ้าหน้าที่รวมทั้งผู้นำท้องถิ่นผู้นำท้องที่รายงานสถานการณ์เข้ามาเป็นระยะ  ซึ่งอำเภอสังขละบุรีของเราได้จัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆรวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที หากได้รับแจ้งมา  สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำโรคี่ ช่วงที่ไหลผ่านหมู่บ้านสะเนพ่อง และบ้านเกาะสะเดิ่ง ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี ที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตกนั้นขณะนี้ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นแต่ยังไม่ถึงกับเอ่อล้นท่วมตลิ่ง  ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเฝ้าสังเกตการบริเวณดังกล่าวอย่างใกล้ชิ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยเกิดอุทกภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่มาแล้วเมื่อ ปี พ.ศ.2556 และ 2561

มีรายงานข่าวว่า หลังฝนตกลงมาตลอดทั้งคืน ทำให้มีน้ำท่วมขังถนนสายพัฒนาการ และถนนสายบายพาส(เลี่ยงเมือง) ซึ่งมีประชาชนหมู่ 5 หมู่ 9 หมู่ 7 และหมู่ 11 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี  ร้องเรียนว่า เมื่อคืนฝนจากอันดามันตกหนักมาก ทำให้น้ำท่วมถนน ท่วมบ้านเรือนประชาชน

ประชาชนได้ท้วงติงว่า เมื่อไหร่เทศบาลเมืองกาญจนบุรี กับเทศบาลเมืองปากแพรก ซึ่งมีพื่นที่เขตติดต่อกัน จะจับมือรักกัน ทำงานประสานร่วมกัน ทำท่อจากแนวถนนพัฒนาการ ด้าน ต.ปากแพรก ลงคูน้ำเขตรถไฟเสียที ราษฎร์ทั้ง ต.ปากแพรก ที่ผ่านมาได้อ้วนวอนขอความเมตตาจากผู้บริหารทั้ง 2  เทศบาลมาโดยตลอด หากหน่วยงาน อบจ.กาญจนบุรี และผู้ว่าราชการจังหวัด จะมาร่วมด้วยช่วยเหลือ ก็จะเป็นการแก้ไขที่ดีขึ้น เพราะสถานการณ์น้ำท่วมบนถนนทั้ง 2 แห่ง รวมทั้งบ้านเรือนประชาชน ไม่ใช่เพิ่งเกิด เมื่อปี พ.ศ.2564 ก็เคยมีสภาพเป็นเช่นนี้มาแล้ว ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน

สนั่น-กาญจนบุรี