In News

IFEA เลือก'เชียงใหม่'เมืองเทศกาลโลก ดันSoft Powerผ่านCreative LANNA



กรุงเทพฯ-​นายกฯขอบคุณทุกภาคส่วน ทำให้เชียงใหม่ ได้รับคัดเลือก “เมืองเทศกาลโลก” ดันSoft Power ผ่านระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ Creative LANNA

วันนี้ (4 กันยายน 2565) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือกันจนทำให้ จ.เชียงใหม่ได้รับเลือกจากสมาคมเทศกาลและกิจกรรมระหว่างประเทศ (International Festivals & Events Association : IFEA) เป็น “เมืองเทศกาลโลก” (World Festival and Event City) ประจำปี 2022 โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)  ร่วมกับกับสมาคมวิศิษฏ์ล้านนาเพื่ออุตสาหกรรมไมซ์และการท่องเที่ยว (Visit Lanna) เป็นผู้ส่งจังหวัดเชียงใหม่เข้าประกวดชิงรางวัลครั้งนี้

รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งส่งเสริมการบูรณาการระหว่างกระทรวงที่เกี่ยวข้อง  สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ และเครือข่ายภาคเอกชนและประชาชน  เพื่อชูจุดแข็งของประเทศด้านSoft Power ทั้งงานเทศกาลของประเทศที่มีความโดดเด่นเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อาหาร วัฒนธรรม ความงามตามธรรมชาติ และด้านสุขภาพ (wellness)  ซึ่งจากความร่วมมือของทุกหน่วยงานทำให้ เชียงใหม่ได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองเทศกาลโลก โดย IFEA คัดเลือกจากเมืองที่มีงานเทศกาลโดดเด่น มีการบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด และเหมาะสมที่จะเป็นต้นแบบในการใช้งานเทศกาลสร้างเศรษฐกิจ การมีส่วนร่วมในพื้นที่ และการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ นอกจากจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ยังมีอีก 4 เมืองที่ได้รับรางวัลได้แก่ Jinju-South Korea,  McAllen- USA, Penghu County- Taiwan และ Philadelphia- USA

ภายใต้ความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมล้านนา ซึ่งเป็น Soft Power ที่โดดเด่นของภาคเหนือ รัฐบาลได้กำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ หรือ  Northern Economic Corridor: NEC - Creative LANNA ครอบคลุม จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และลำปาง เพื่อพัฒนาเป็นฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน เป็นแหล่งผลิตสินค้า และบริการที่ต่อยอดจากฐานวัฒนธรรมล้านนา จากการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างมูลค่าเพิ่มตามแนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ต่อยอดให้เกิดผลิตภัณฑ์ บริการ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ยิ่งไปกว่านั้น จังหวัดในภาคเหนือยังสามารถเชื่อมโยงเข้ากับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ สปป.ลาว และจีนตอนใต้ ผ่านระบบโครงข่ายเส้นทางคมนาคม รถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูง รวมทั้งเส้นทางแม่น้ำโขงออกไปมณฑลยูนนาน ทำให้มีโอกาสทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้นอีกด้วย

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาในทุกด้านต้องมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน สอดคล้องกับศักยภาพและการยอมรับของคนในพื้นที่ รางวัล “เมืองเทศกาลโลก” ที่จ.เชียงใหม่ได้รับ ถือเป็นตัวอย่างของความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน ซึ่งในระยะต่อไป รัฐบาลได้กำหนดโครงการระเบียงเศรษฐกิจ ที่จะสร้าง “พื้นที่เศรษฐกิจ” ใหม่ ๆ กระจายไปทั้ง 4 ภาคของประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาในทุกภูมิภาค ต่อยอดของดี ที่มีเอกลักษณ์ในแต่ละพื้นที่ ขับเคลื่อน Soft Power ให้เป็นที่รู้จักระดับนานาชาติ สร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศอย่างยั่งยืน”