In Bangkok
'ชัชชาติ'ย้ำผอ.เขตต้องเป็นกลางการเมือง จัดทำแผนแก้น้ำท่วมให้ปชช.มีส่วนร่วม

กรุงเทพฯ-ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ย้ำ ผอ.เขตต้องเป็นกลางทางการเมือง จัดทำแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมระยะยาว ให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วม
“ผมว่าสิ่งสำคัญที่สุดเลยที่เราเปลี่ยนแปลงได้ใน 4 เดือนที่ผ่านมา คือ เราไม่ได้มีงบประมาณอะไร แต่สิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงได้ คือเราสามารถสร้างความไว้วางใจให้กับประชาชนได้มากขึ้น นั่นคือสิ่งสำคัญ ถึงแม้เรามีงบประมาณเท่าไรก็ตาม แต่เราไม่สามารถนำงบประมาณซื้อความไว้วางใจประชาชนได้ แต่ถ้าเราสร้างความไว้วางใจให้กับประชาชนได้ เราจะมีแนวร่วมมหาศาลที่จะช่วยทำเมืองให้ดีขึ้น” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวกับผู้อำนวยการสำนักและเขต ในการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 10/2565 ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) วันนี้ (6 ต.ค. 65)
ภายหลังการประชุม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงการแต่งตั้งผู้อำนวยการเขตใหม่ 12 คน โดยเน้นย้ำ 3 เรื่อง เรื่องแรกคือ ทุกเขตมีความสำคัญเท่ากันหมด ไม่มีเขตเกรด A เกรด B เพราะว่าต้องดูแลพี่น้องประชาชนเท่าเทียมกัน ส่วนการโยกย้ายเขตเป็นเรื่องธรรมดา ขอให้กำลังใจทุกคน ขอให้ทำงานให้เต็มที่ และเรื่องที่ 2 ที่บอกว่ามีการซื้อขายตำแหน่ง อย่าไปเชื่อ ถ้ามีใครบอกขอให้แจ้งที่ตน ขอยืนยันว่าไม่มีการทำแบบนั้นแน่นอนในผู้บริหารชุดนี้ ขอให้เอาผลงานเป็นที่ตั้ง ยึดที่ผลงาน ทุกคนที่ได้มาที่ตรงนี้ไม่ใช่ตนเป็นคนให้ เป็นผลงานที่ทำ เรื่องที่ 3 เน้นย้ำผู้อำนวยการเขตใหม่ คือใกล้จะเข้าสู่เลือกตั้ง อีก 6-7 เดือน ขอเน้นย้ำให้ข้าราชการทุกคนเป็นกลางทางการเมือง ไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ให้ความเป็นธรรมทุกคนเท่าเทียมกัน อย่าฝักใฝ่พรรคการเมืองโดยเลือกปฏิบัติ และให้ดูแลประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน
• ถอดบทเรียนน้ำท่วม จัดทำแผนแก้ปัญหาระยะยาว 1 ปี ให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วม
สำหรับการทบทวนบทเรียนเรื่องน้ำท่วม ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมอีกครั้งหนึ่ง ให้ทุกเขตมาทบทวนบทเรียนเรื่องน้ำท่วมของปีนี้ เพราะว่าเป็นเหตุการณ์ที่ยังใหม่อยู่ สำหรับจุดพื้นที่หลักไม่ค่อยกังวล เพราะสำนักการระบายน้ำรับผิดชอบถนนหลักอยู่แล้ว ในแต่ละชุมชนย่อยที่มีปัญหาคราวนี้จะนำลงแผนที่และให้เตรียมแผนระยะยาว 1 ปี เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้ครบถ้วน
“ที่ผ่านมาพื้นที่ที่เป็นถนนหลัก เราพอรู้ แต่ปัญหาที่เราเจอเยอะ ประชาชนเดือดร้อนมาก คือ ชุมชนย่อย เช่น ลาดกระบัง ได้แก่ ชุมชนหลวงแพ่ง ซอย 6 และซอย 8 ต่าง ๆ พวกนี้ ต้องเอาทั้งหมดขึ้นพิกัด GPS ให้หมด เสร็จแล้วมาประกอบร่างทุกเขตในแผนที่ใหญ่ ให้เห็นจุดอ่อน ซึ่งเป็นในชุมชน ศูนย์บัญชาการมีมอนิเตอร์เฉพาะเส้นหลัก คนเดือดร้อนจริง ๆ อยู่ในชุมชนย่อย ในพัฒนาการ 69, 65 รามอินทรา 39 ช่างอากาศอุทิศ เราต้องเอาพวกนี้ขึ้นมา ในช่วง 1 ปีต้องเริ่มดำเนินการ ตรงไหนต้องการงบประมาณ อาจใช้งบกลางปี โดยจะของบประมาณมาเพิ่มให้ มาประกอบร่างกับเส้นเลือดใหญ่ คือ ที่สำนักระบายน้ำทำอยู่ อุโมงค์ระบายน้ำทำต่อ แต่ถ้าเส้นเลือดฝอยพวกนี้ต้องให้ประชาชนเป็นแนวร่วม คือให้เขามีส่วนร่วมในการป้องกันหมู่บ้านตัวเองด้วย เข้าไปดูในจุดที่น้ำรั่วตามคันเข้ามา ต้องสอนให้ประชาชนป้องกันอย่างไรเวลาน้ำท่วม ดีนะเป็นการทำบทเรียน โดยทำตั้งแต่วันนี้แล้วรายงานผลทุกเดือนว่าแผนในปีหน้าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง” ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าว
• Traffy Fondue ตัวช่วยสร้างความไว้วางใจของประชาชน
ในส่วนของการใช้ Traffy Fondue ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันสร้างความไว้วางใจกับประชาชนกลับคืนมาได้ ประชาชนเชื่อมั่นเรา การใช้ Traffy Fondue เป็นตัวอย่างของการไว้วางใจ ถามว่าทำไมวันนี้มีคนแจ้งเหตุถึง 160,000 คน เรื่องปัญหาต่าง ๆ เพราะเค้าไว้ใจว่าเราสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้เขาได้ ถ้าเขาไม่ไว้ใจ เขาไม่เสียเวลาไปนั่งถ่ายรูปกดพิมพ์ข้อความให้เรา
“Traffy Fondue มีใช้มาหลายปีแล้ว แต่ไม่ได้รับความสำเร็จเท่าที่เราทำในวันนี้ แสดงว่าที่ผ่านมาเราสามารถสร้างความไว้วางใจ 96,000 เรื่อง จาก 140,000 เรื่อง ที่ส่งมา เป็นสิ่งสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า เราสามารถสร้างความไว้วางใจได้ เป็นสิ่งที่มีค่ามาก เป็นแนวร่วมที่สำคัญในอนาคต ขอให้ทำ Traffy Fondue ให้ดี ตอบโจทย์ให้ประชาชน เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง หัวใจคือสร้างความไว้ใจระหว่างเรากับประชาชน ประชาชนไว้ใจเรา เราไว้ใจประชาชนมากขึ้น ให้อำนาจประชาชนในการตัดสินใจมากขึ้น” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
ในส่วนเรื่องอื่น ๆ มีการติดตามการทำ E-Service ให้บริการหลากหลายของ กทม. ขึ้น Online ทั้งหมด ซึ่งระยะแรกได้ดำเนินการไปแล้ว แต่ยังมีการใช้ไม่เยอะ เพราะบริการยังไม่ครบถ้วนมาก สำหรับระยะต่อไปน่าจะเสร็จภายในปลายปีนี้ โดยทำทุกอย่างให้ Online มีความเข้มข้นขึ้น และมีการติดตามความคืบหน้า
สำหรับประชาชนได้รับผลกระทบจากการยกเลิกโรงพยาบาล 9 แห่ง ของ สปสช. มีประชาชนเข้ามาใช้บริการศูนย์บริการสาธารณสุขมากขึ้น 60% ซึ่งยังสามารถรองรับได้ มีการกระจายคนจากโรงพยาบาลทั้ง 9 แห่ง ไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ ซึ่ง สปสช. เข้ามาดูแล้ว ช่วยทำให้ราบรื่นและมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการมากขึ้น ไม่มีปัญหา ผ่านไปได้ด้วยดี
ในส่วนของแนวคิดในการทำอาสาสมัครพัฒนาชุมชนด้านเทคโนโลยี ตามนโยบายเป็นคนรุ่นใหม่ที่เก่งทางเทคโนโลยีประจำตามชุมชน เพื่อคอยสอนชุมชนให้รู้จักเทคโนโลยี ใช้แอปพลิเคชันต่าง ๆ การใช้ Traffy Fondue การรายงานข้อมูลต่าง ๆ ในชุมชนมาที่ส่วนกลาง ให้ ผอ.เขต ดำเนินการคัดเลือก ซึ่งเป็นโครงการตามนโยบายที่เริ่มทำได้เลย
ด้านการรณรงค์ลดเผาพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งใกล้จะถึงช่วงฤดูฝุ่น PM2.5 โดยมีพื้นที่อยู่ 6 จุด ในปีที่แล้วมีการเผาเชิงเกษตร ประมาณ 5,000 ไร่ ได้มีการดำเนินการในแต่ละจุด หลักการคือการใช้น้ำหมักจุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายฟางเพื่อไถกลบ จัดทำเครื่องอัดฟางเป็นแท่งเพื่อเกษตรกรเอาฟางไปขายต่อได้ ได้เริ่มดำเนินการในเชิงรุก ลดการเผาชีวมวลในเขต กทม. เพื่อจะได้ลดการเกิด PM2.5 ด้วย