In Thailand
ยัง'เฮี้ยน'อาถรรพ์19ศพแขวงกลั่นแปดริ้ว 2ปีมีหลอนไฟดับเมื่อหัวลากมรณะผ่าน
ฉะเชิงเทรา-ยังมีอาถรรพ์ ที่สถานีคลองแขวงกลั่นตามความเชื่อชาวบ้าน หลังหัวรถจักร 5102 ที่หายจากรางไปนานกว่า 1 ปีเต็ม ได้กลับมาลากจูงขบวนสินค้าผ่านเส้นทาง ระหว่างที่ผู้คนในชุมชนออกมาร่วมกันทำบุญตักบาตรพร้อมจัดฉายหนังกลางแปลงครบรอบ 2 ขวบปี จากเหตุโศกนาฏกรรมขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าขยี้รถทัวร์บุญกฐิน 19 ศพ
วันที่ 11 ต.ค.65 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางสวิง สุขสำอาง อายุ 52 ปี ชาวบ้าน ม.7 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าอาหารตามสั่งตั้งอยู่ริมทางรถไฟ ใกล้กับจุดเกิดเหตุขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าที่ 852 พุ่งชนรถบัสที่กำลังนำพาคณะทัวร์บุญกฐิน จากโรงงานในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ มาทำบุญทอดกฐินยังที่วัดบางปลานัก ที่อยู่เลยออกไปเพียงแค่ 4.5 กม. จนกลายเป็นเหตุโศกนาฏกรรม 19 ศพ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.63 ที่ผ่านมานั้นว่า
เมื่อวันที่ 9 ต.ค.65 ที่ผ่านมาชาวบ้านได้จัดให้มีพิธีทำบุญครบรอบ 2 ขวบปี หลังจากเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญคนทั้งหมู่บ้าน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากในวันที่ 11 ต.ค. หรือวันนี้ เป็นวันที่ตรงกันกับการประกอบพิธีทำบุญในเทศกาลงานบุญออกพรรษา และจะมีพิธีตักบาตรเทโวโดยรอบโบสถ์ด้วย พระสงฆ์จึงไม่สามารถออกมารับกิจนิมนต์ภายนอกได้ จึงได้มีการเลื่อนการจัดพิธีทำบุญไปก่อนล่วงหน้า เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งในช่วงค่ำของวันที่ 8 ต.ค.นั้น ได้มีการจัดให้มีมโหรสพ ด้วยการฉายหนังกลางแปลงที่บริเวณจุดเกิดเหตุจำนวน 2 เรื่อง และในช่วงรุ่งเช้าของวันที่ 9 จึงได้มีพิธีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ร่วมกันของชาวบ้าน แต่ระหว่างพิธีนั้นได้เกิดมีความผิดปกติขึ้น หลังจากที่ได้มีขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าหมายเลขหัวรถจักรที่ 5102 ซึ่งเป็นหัวลากของขบวนรถไฟที่ 852 เที่ยวขบวนที่พุ่งชนรถทัวร์บุญกฐินขับผ่านมานั้น
ได้ทำให้กระป๋องคบเพลิงน้ำมันที่ชาวบ้านจุดไว้ ที่ด้านหน้าศาลเพียงตากลางรางรถไฟดับลงในทันทีทั้ง 2 จุด และยังทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าดับจนฉายหนังกลางแปลงเรื่องที่ 2 แทบไม่ได้ ทั้งที่ก่อนหน้าที่ขบวนรถไฟจะขับผ่านมานั้น ได้มีขบวนรถไฟผ่านเข้ามาหลายขบวนเป็นระยะ แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น และเมื่อมีขบวนที่ลากด้วยหัวรถจักรหมายเลข 5102 ขับผ่านมากลับเกิดปรากฏการณ์ประหลาดดังกล่าวขึ้น นางสวิง กล่าว
และกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับหัวรถจักรหมายเลข 5102 นี้ ได้หายหน้าไปนานมากแล้วถึงกว่า 1 ปีเต็ม โดยที่ชาวบ้านไม่ได้เห็นนำมาใช้ขับผ่าน เพื่อลากจูงขบวนสินค้าในเส้นทางสายนี้มานาน แต่พอได้กลับมาวิ่งใหม่ จึงมีการขับผ่านพื้นที่วันละหลายเที่ยว ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่เวลา 04.10 น. ของทุกวันเป็นเที่ยวแรก และได้กลายเป็นหัวรถจักรเจ้าถิ่นที่มีการขับลากจูงสินค้าผ่านพื้นที่ตลอดทั้งวัน โดยที่ชาวบ้านยังพบว่าได้มีการนำไปทำสีมาใหม่อีกด้วย และในวันงานทำบุญให้แก่ผู้เสียชีวิต จึงได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้น นางสวิง กล่าว
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา