In Thailand

สิงห์บุรีปชช.รวม4หมู่บ้านกว่า100คนเรียกร้องให้กั้นคันดิน



สิงห์บุรี-ประชาชนรวม 4 หมู่บ้าน กว่า 100 คน เรียกร้องให้กั้นคันดิน ชุมนุมที่สี่แยกศาลหลักเมืองก่อนเคลื่อนตัวไปที่หน้าจวน ผวจ.สิงห์บุรี

วันที่ 13 ตุลาคม 2565 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนกว่า 100 คน มาชุมนุมกันที่คันดินกั้นน้ำที่บริเวณสี่แยกศาลหลักเมือง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่หมู่บ้านประวีณ หมู่บ้านสุขนคร หมู่บ้านทานตะวัน และหมู่บ้านทับทอง นำโดย นายชนพร พวงโต โดยจุดประสงค์ของการเรียกร้องในครั้งนี้คือ ต้องการให้ส่วนราชการนำแบริเออร์หรืออะไรก็ได้ิมาตั้งฝั่งตรงข้ามทางเข้าหมู่บ้านประวีณเพื่อเป็นการชะลอน้ำไม่ให้ไหลลงคลองชลประทานเร็วขึ้น ซึ่งมันจะเป็นผลดีกับคันดินที่กั้นตรงชลประทานที่ไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมหมู่บ้านเพิ่มขึ้น แต่ถ้าไม่มีแบริเออร์ก็อยากให้หน่วยงานรัฐที่มีงบประมาณให้ไปเสริมสร้างคันดิน เพราะผลดีของการเสริมสร้างคันดินคือจะทำให้มีพื้นที่ส่วนที่แห้งไว้ให้รถสัญจรกันได้สะดวกขึ้น เพราะถ้าคันดินตรงส่วนนั้นพัง มวลน้ำมหาศาลก็จะไหลเข้าสู่หมู่บ้านประวีณ หมู่บ้านทานตะวัน หมู่บ้านสุขนคร ก็จะกลายเป็นหมู่บ้านปิด เนื่องจากไม่มีถนนให้สัญจรต่อไป ส่วน ณ ปัจจุบัน ภายในหมู่บ้านน้ำมีระดับเกือบถึงเอว ถ้าคันดินพังน้ำคงถึงระดับหน้าอก บ้านชั้นเดียวจะอยู่กันอย่างไร จากนั้นจึงพากันเคลื่อนตัวมาที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี โดยมี นายสมชาย ลีหล้าน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นตัวแทนไปพบปะประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการ

หลังจากนั้นได้เชิญตัวแทนหมู่บ้านเข้าประชุมเพื่อหาทางออกที่ดีและเป็นที่น่าพอใจของทุกฝ่าย ในการนี้ได้เชิญ ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี (หมู่อาร์ม) ตัวแทนชาวบ้านบางแคใน บางแคนอก บางกระบือ เข้ามาพูดคุยในการนี้ด้วย โดยหมู่อาร์ม ได้กล่าวว่า ถ้ามีการกั้นน้ำตามที่ผู้ชุมนุมจะกั้น ทางชาวบ้านบางแคใน บางแคนอก บางกระบือ คงจะรับไม่ไหว แต่ถ้าเป็นการเสริมคันที่กั้นอยู่แล้วให้แข็งแรงขึ้นแบบนี้จะดีมากกว่า

ในช่วงแรกบรรยากาศการหารือกันในที่ประชุมค่อนข้างยืดเยื้อและมีแนวโน้มว่าจะแตกขยายออกไปหลายประเด็น  นายสมชาย ลีหล้าน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี จึงสรุปว่า ในส่วนที่ทางตัวแทนหมู่บ้านกังวลเรื่องการเสริมคันดินตรงจุดอ่อนแอและมีแนวโน้มว่าอาจจะพังในคืนนี้ได้ให้ทาง อบต.บางกระบือ สั่งทรายมาลงและให้คนในชุมชนมาร่วมแรงความสามัคคีกรอกทรายใส่กระสอบเพื่อเสริมคันดินให้แข็งแรงยิ่งขึ้น  และในวันพรุ่งนี้ (14 ตุลาคม 2565) จะให้ทางชลประทานเข้าไปสำรวจดูว่า มีท่อหรือจุดใดที่จะมีน้ำรั่วไหลเข้าหมู่บ้านได้ ถ้ามีให้นำบิ๊กแบ็คมาปิดกั้นทุกจุดรอบหมู่บ้านประวีณ ส่วนการสูบน้ำออกยังดำเนินต่อไป ซึ่งเดิมมีเครื่องสูบ 6 ตัว และจะเพิ่มเครื่องใหญ่อีก 2 ตัว รวมเป็น 8 ตัว เพื่อที่น้ำในหมู่บ้านประวีณจะได้ลดลงเร็วขึ้น เป็นที่ถูกใจของทุกฝ่ายทั้งหมดจึงแยกย้ายกันกลับ

จินตนา ปานมี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี