In News

'ทิพานัน'ยกยอดจ่ายคนละครึ่ง3.4หมื่นล. ตอกเพื่อไทยขวางคนละครึ่ง



กรุงเทพฯ-"ทิพานัน" ยกยอดใช้จ่ายคนละครึ่ง3.4หมื่นล้าน ตอกเพื่อไทยขวางคนละครึ่ง ชี้ไม่เห็นแก่ประโยชน์ประชาชนกว่า25ล้านคน

วันที่ 20 ตุลาคม 2565 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยแสดงความคิดเห็นคัดค้านโครงการคนละครึ่งว่าไม่ได้เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจว่า โครงการคนละครึ่งที่เฉพาะเฟส 5 ที่กำลังดำเนินการอยู่นี้มีประชาชนกว่า 26.5 ล้านคนและร้านค้ารายย่อยเกือบ 1 ล้านรายได้ประโยชน์   และผลประโยชน์จากโครงการคนละครึ่งไม่ได้เป็นผลประโยชน์ของนักการเมือง แต่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนโดยตรง

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เมื่อเอาตัวเลขข้อมูลมาพิจารณา พบว่าตัวเลขผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วม 9.67 แสนราย เป็นผู้ประกอบการรายใหม่เฟส 5 ถึง 2.28 หมื่นราย แสดงถึงร้านค้ารายย่อยเป็นผู้รับประโยชน์โดยตรง และมีจากข้อมูลล่าสุดคนละครึ่งเฟส 5 ที่มียอดใช้จ่ายสะสมถึง 34,310.23 ล้านบาท (ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 16 ต.ค. 65)

เห็นได้ชัดว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จจริงในการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศทั้งระบบและยั่งยืนได้   จึงไม่ใช่โครงการที่เป็นการเสียเงินไปฟรีๆ ตามที่นายพิชัยแสดงความเห็นแบบไร้ข้อมูล

น.ส.ทิพานัน กล่าว่า การที่นายพิชัยเสนอให้รัฐบาลแก้ปัญหาหนี้สินมากกว่าโครงการคนละครึ่งนั้น  ต้องถามว่า นายพิชัยไปอยู่ดูไบมาหรืออย่างไร ถึงไม่รู้ว่า  รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาความยากจนแบบมุ่งเป้าเจาะรายบุคคล  และประกาศให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับกระทรวงการคลังและเจ้าหนี้ 65 ราย ได้ขานรับนโยบายของรัฐบาล จัดกิจกรรม “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้” ขึ้น เปิดให้ลงทะเบียนทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย. 65 เพื่อให้ลูกหนี้ที่มีปัญหาการชำระหนี้จากผลกระทบวิกฤติโควิด-19 ปัญหาค่าครองชีพ สามารถแก้ไขหนี้และเริ่มต้นใหม่ได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีโครงการสัญจรด้วย ซึ่งทางธนาคารของรัฐ อาทิ ธนาคารออมสิน ธ.อ.ส. ธ.ก.ส. และธนาคารกรุงไทย จะจัด “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร” ใน 5 อีกจังหวัด 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนในกรณีลูกหนี้ไม่สามารถเข้าร่วมมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ได้ ก็ยังมีช่องทางในการแก้ไขปัญหาหนี้ เช่นกรณีหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน สามารถเข้าร่วมโครงการ “คลินิกแก้หนี้” และมีโครงการ “ทางด่วนแก้หนี้” เป็นช่องทางเสริมเพื่อขอรับความช่วยเหลือด้านการชำระหนี้ ในขณะที่ลูกหนี้รายย่อยและธุรกิจสามรถขอรับคำปรึกษาแก้ไขหนี้ผ่านทางโครงการ “หมอหนี้เพื่อประชาชนได้

“นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้รื้อระบบการคิดดอกเบี้ยให้เป็นธรรมมากขึ้นเพื่อลดภาระความเดือดร้อนจากดอกเบี้ยของลูกหนี้ ในปี 2564 ได้แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.7 ให้คิดดอกเบี้ยอัตรา 3% ต่อปี ส่วนดอกเบี้ยผิดนัดคิดอัตรา 5% ต่อปีและคิดจากเงินต้นเฉพาะงวดที่ผิดนัด ไม่ให้คิดจากเงินต้นที่ค้างทั้งหมด และเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 65 ที่ผ่านมาได้ประกาศให้การเช่าซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ต้องคิดในอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) แบบลดต้นลดดอก คิดดอกเบี้ยจากเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวด และหากผู้เช่าซื้อจะปิดบัญชีค่าเช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อจะต้องให้ส่วนลดแก่ผู้เช่าซื้อ โดยกรณีชำระค่างวดมาแล้วไม่เกินหนึ่งในสามของค่างวดเช่าซื้อที่ระบุไว้ในสัญญา ให้ได้รับส่วนลดในอัตรา 60-100% ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ” น.ส.ทิพานัน กล่าว

“เป็นที่น่ายินดีที่นายพิชัยยอมรับเองว่า “ภาวะปัจจุบันซึ่งเศรษฐกิจเริ่มที่จะฟื้นตัว” ซึ่งขณะนี้ดัชนีทางเศรษฐกิจอยู่ในทิศทางที่ดี สัญญาณเศรษฐกิจดีขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มั่นใจว่า จีดีพีปี 2565 จะมากกว่า 3% และรัฐบาลมั่นใจว่าจีดีพีปีนี้จะดีกว่าที่คาดไว้ตามเป้าหมาย ในช่วงสิ้นปีก็ยิ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะมีมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสำหรับการพิจารณาอนุมัติโครงการคนละครึ่งเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ก็จะมีการพิจารณาจากข้อมูลทางเศรษฐกิจและฐานข้อมูลหลายด้านประกอบกัน ไม่ได้นึกเองคิดเองแบบนายพิชัยวิจารณ์โดยที่ไม่เห็นข้อมูลครบถ้วน” น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า  การวิจารณ์ของหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เป็นการพูดแบบเลื่อนลอย ไม่มีข้อมูลที่ดีและเพียงพอ พยายามหาช่องตัดเงินประชาชนที่จะได้ใช้จ่ายในยามวิกฤตถึง 25 ล้านคน และยังทำลายความหวังและบรรยากาศการฟื้นตัวของประเทศในช่วงปลายปี   จึงอาจทำให้สังคมสงสัยว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับภารกิจพานักโทษหนีคดีทุจริตเพียง 2 คน กลับบ้านเท่านั้นหรือ