In Bangkok
กทม.เตรียมพร้อมแผนบริหารจัดการน้ำ รองรับสถานการณ์ภัยแล้งในปี2566

กรุงเทพฯ-สำนักการระบายน้ำ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.เตรียมพร้อมแผนบริหารจัดการน้ำรองรับสถานการณ์ภัยแล้งในปี 66
นางวาสนา ศิลป์เบ็ญจพร รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมแผนบริหารจัดการน้ำรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงในปี 2566 ของ กทม.ตามแนวทางที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) กำหนดว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำ ได้เตรียมรองรับและติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยการติดตามปริมาณเก็บกักน้ำ 4 เขื่อนหลักที่ระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ปริมาณการระบายน้ำ รวมถึงการประชุมหารือร่วมกับกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของกรุงเทพมหานคร ได้เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องสูบน้ำ เครื่องจักรต่าง ๆ และมาตรการช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภค และการเกษตร รวมทั้งเฝ้าระวังการรุกตัวของน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา โดย กทม.ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ตรวจวัดคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองต่าง ๆ จัดแผนการควบคุมเปิด-ปิดประตูระบายน้ำตามแนวริมเจ้าพระยาไม่ให้น้ำเค็มไหลเข้าคลอง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกร และได้เตรียมพร้อมสถานีสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำ เพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการ Water Hammer Operation (กระแทกลิ่มความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา) กับกรมชลประทาน เพื่อช่วยผลักดันลิ่มความเค็มไม่ให้มีผลต่อการผลิตน้ำประปา
สำหรับพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ ได้ประสานกรมชลประทานในการผันน้ำผ่านทางคลองสิบสามผ่านลงคลองแสนแสบเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อลดผลกระทบการขาดแคลนน้ำในด้านเกษตรกรรม รวมถึงการบริหารจัดการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาในการนำน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าถ่ายเทพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน และนำน้ำเข้าสู่คลองสายหลักสำหรับแก้ปัญหาภัยแล้ง พร้อมกับการถ่ายเทน้ำไม่ให้เกิดการเน่าเสีย นอกจากนี้ยังเก็บกักน้ำเข้ามาตามประตูระบายน้ำที่อยู่ในแนวคันกันน้ำตะวันออกและทำนบกั้นน้ำที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำไว้ให้ประชาชนใช้สำหรับการเกษตร อุปโภค และรักษาระบบนิเวศ ซึ่งทำนบดังกล่าว ประกอบด้วย การก่อสร้างทำนบกั้นน้ำในพื้นที่เขตหนองจอกทั้ง 17 แห่ง ประกอบด้วย บริเวณคลองสิงห์โต คลองแตงโม คลองบึงเขมร คลองขุดใหม่ คลองบึงนายรุ่ง คลองหนึ่ง คลองลัดเกาะเลา คลองสอง คลองลำแขก คลองแม๊ะดำ คลองลำเกวียนหัก คลองแยกลำต้อยติ่ง คลองกระทุ่มล้มด้านเหนือ คลองลำชะล่า คลองกระทุ่มล้มด้านใต้ คลองลำตามีร้องไห้ และคลองลำต้อยติ่ง สามารถกักเก็บน้ำในพื้นที่ได้ประมาณ 1.8 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่การเกษตรประมาณ 140,000 ไร่ ปัจจุบันโครงการก่อสร้างทำนบอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเก็บกักน้ำได้ในประมาณปลายเดือน พ.ย.นี้
ส่วนพื้นที่ด้านตะวันตกของกรุงเทพฯ ได้ประสานกรมชลประทานในการนำน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์ผันน้ำผ่านคลองทวีวัฒนา ส่วนเรื่องค่าความเค็มของแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจวัดค่าความเค็มอยู่เสมอ ทั้งนี้ ในช่วงจังหวะที่น้ำขึ้น หากค่าความเค็มไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด จะเปิดประตูน้ำตามแนวริมแม่น้ำ เพื่อนำน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาถ่ายเทและไหลเวียนน้ำยังคลองต่าง ๆ รวมถึงกระจายน้ำเข้าคลองสายหลักสำหรับช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ไม่ให้เกิดน้ำเน่าเสียและให้ประชาชนได้มีน้ำไว้ใช้ด้านการเกษตร อุปโภค และรักษาระบบนิเวศ พร้อมกับรักษาระดับน้ำไม่ให้มีผลกระทบต่อการเดินเรือสัญจร
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ยังเพิ่มปริมาณน้ำเพื่อการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง ด้วยน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้ว สำนักการระบายน้ำได้เดินระบบบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่ของกรุงเทพมหานคร จำนวน 8 แห่ง โดยในช่วงปี 2564-2565 สามารถเติมน้ำที่ผ่านการบำบัดลงสู่คลองประมาณ 800,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน โดยแบ่งเป็นฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาร้อยละ 80 และส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 20 เป็นฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งยังมีนโยบายให้นำน้ำที่ผ่านการบำบัดกลับมาใช้ประโยชน์ โดยมุ่งเน้นการใช้เพื่อการอุปโภคในกิจกรรมต่าง ๆ ตามคุณภาพน้ำที่ผ่านการบำบัด อาทิ ใช้ในการรดน้ำต้นไม้ ล้าง/ทำความสะอาดพื้น เครื่องจักร หรือถนน เป็นต้น ทั้งนี้ จุดจ่ายน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้ว สามารถมารับน้ำได้ ณ โรงควบคุมคุณภาพน้ำทั้ง 8 แห่ง ได้แก่ โรงควบคุมคุณภาพน้ำสี่พระยา รัตนโกสินทร์ ดินแดง ช่องนนทรี หนองแขม ทุ่งครุ จตุจักร และศูนย์การศึกษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบางซื่อกรุงเทพมหานคร
นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กล่าวว่า ในช่วงเดือน ธ.ค. - พ.ค.ของทุกปี ลักษณะสภาพอากาศโดยทั่วไป มีสภาพแห้งแล้ง ทำให้ในหลายเขตในพื้นที่กรุงเทพฯ ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อทำการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ รวมทั้งปัญหาไฟไหม้หญ้า ถนนทรุดตัว ปัญหาด้านสาธารณสุข และปัญหาน้ำเค็มเนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ซึ่งสร้างความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตรและปศุสัตว์ ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนและสภาวะแวดล้อมโดยรวม ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ภัยแล้งปี 2565/66 ที่อาจเกิดขึ้น สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาภัยจากภัยแล้งของ กทม.ประจำปี 2566 เพื่อใช้เป็นกรอบและแนวทางการปฏิบัติงานให้กับหน่วยงานในสังกัด กทม. ตั้งแต่ระยะเวลาก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อขอความเห็นชอบแผนดังกล่าว รวมทั้งได้กำหนดมาตรการป้องกันไฟไหม้หญ้าและกองขยะในพื้นที่รกร้างว่างเปล่าของกรุงเทพฯ เพื่อให้สำนักงานเขตใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในช่วงภัยแล้งที่เกิดขึ้น สำหรับการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งจะเป็นไปตามแนวทางและขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติของ กทม. ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง หรือเหตุสาธารณภัยสามารถขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 199 หรือ 1555 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง