In Thailand
นิพนธ์ เชื่อมั่น ปชป.‘คืนฟอร์ม’สส.ต้องเกิน 40 ที่นั่งชัวร์
สงขลา-นิพนธ์ เชื่อมั่น ปชป,”คืนฟอร์ม” ประชาชนภาคใต้กลับมาหนุน ปชป.อีกครั้ง เฉพาะภาคใต้ต้องได้ สส.ต้องเกิน 40 ที่นั่ง ชัวร์
ไม่ผิดหรอก ถ้าจะบอกว่าการเลือกตั้ง ผู้แทนราษฎร ที่จะมีขึ้นในปี 2566 เป็นการตัดสินชะตาของพรรคการเมืองเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ เพราะการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองที่”บอบช้ำ” ที่สุด ในบรรดาของพรรคการเมือง ที่เข้า”สัปยุทธ์” ใน สนามการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ของ กรุงเทพมหานคร และที่”ภาคใต้”
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงเป็นการ”ชี้ชะตา” และบอกถึง”อนาคต” ของ พรรคการเมือง”เก่าแก่” อย่าง”ประชาธิปัตย์” ที่ก่อนจะมีการ”เลือกตั้ง” ก็มี สมาชิก พรรค”ไหลออก” จำนวนหนึ่ง เพื่อไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เห็นว่าเป็นพรรคที่”มีเงินกว่า” และมี”อนาคต” ทางการเมืองที่ ดีกว่า
ในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมาถึง ได้มีโอกาสในการ”สนทนา” กับ “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถึง”ทิศทาง”ของพรรคประชาธิปัตย์ ในการลงสนามการเลือกตั้งในปี 2565 ( ถ้ามี ) เพื่อทราบถึงความพร้อม ทราบถึง”ทิศทาง” และ สถานการณ์ ในแต่ละพื้นที่ แต่ละ”ภูมิภาค”
ซึ่งประเด็นแรกที่ “นิพนธ์”ได้กล่าวถึงคือ เรื่องการ”ไหลออก” จากพรรคของสมาชิกพรรคจำนวนหนึ่งว่า”เป็นเรื่อง”ปกติ”ของ ทุกพรรคการเมือง และที่ผ่านมา “ประชาธิปัตย์”เคยเจอการ”ไหลออก”ของสมาชิกพรรค ที่หนักกว่านี้มาแล้ว พรรคการเมืองอื่นๆ ก็มีการ”ไหลเข้า-ไหลออก” ของ สมาชิกพรรค เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือเรื่องสำคัญ เป็นเรื่อง “ปกติ” ทางการเมือง ที่พรรคฯไม่ได้ตกใจ และหวั่นไหว เมื่อคนเก่าออกไป ก็มีคนใหม่ หรือ”เลือดใหม่” เข้ามาแทนที่ ซึ่ง สังเกตได้ว่า”เลือดใหม่” ที่เข้ามาแทนที่ ล้วนเป็นคน”รุ่นใหม่” ที่เป็น”หนุ่มสาว แสดงให้เห็นว่า คนรุ่นใหม่ ให้ความ สนใจ และ เชื่อมั่นในแนวทางของพรรค นี่เป็นเรื่องที่ควรจะดีใจมากกว่า
พร้อมแค่ไหน กับการเลือกตั้งที่จะมาถึงในปีหน้า “นิพนธ์” กล่าวว่า “ประชาธิปัตย์” มีการเตรียมความพร้อม ตั้งแต่ผ่านการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่พรรคเราประสพกับความ”พ่ายแพ้” ในสนามเลือกตั้งของภาคใต้ และของ กทม. พรรคได้ “ถอดบทเรียน” ของความ”พ่ายแพ้” เพื่อที่จะ”แก้มือ” ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ดังนั้น”ประชาธิปัตย์” พร้อมมานานแล้วกับการเลือกตั้งที่จะมาถึง
มั่นใจแค่ไหนว่าจะ”ยึดพื้นที่คืนได้สำเร็จ” เรื่องของความมั่นใจ”นิพนธ์ กล่าว่า สิ่งแรกคือเรื่องของผู้สมัคร ที่ผ่านการ คัดเลือกมีการคัดเลือก ตามขั้นตอนของพรรค ที่ต้องเลือกคนดี คนที่ใกล้ชิดประชาชน มีประสบการณ์ทางการเมือง ในกรณีที่มีผู้สมัครหลายคนในเขตเดียวกัน ก็มีการทำโพล ซึ่งบางเขตมีการทำโพลถึง 2 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจและสร้างความ”โปร่งใส”และ”ชอบธรรม” ทั้งกับพรรคฯและ กับผู้ สมัคร ซึ่งอาจจะมีข่าวการ “ถกเถียง” กันบ้าง แต่สุดท้ายมีการยอมรับ เพราะเป็นไปตาม กติกา ของพรรคฯ ดังนั้นเรื่องผู้สมัครมีความพร้อมกว่าทุกครั้ง เพราะเราใช้เวลาทำมานานแล้ว
ภาคใต้จะยึดคืนได้ทั้งหมดหรือไม่ “นิพนธ์” กล่าวว่า ถ้าบอกว่าได้ทั้งหมด ก็เกินความเป็นจริง แต่ครั้งนี้พรรคเราเชื่อมั่นว่า เราจะได้ สส.เขตคืนมามากกว่า 40 เขต จากทั้งหมด 58 เขต โดยเฉพาะจังหวัดที่”ประชาธิปัตย์” ถือว่าเป็น”เมืองหลวง” ของภาคใต้ เช่น จ.นครศรีธรรมราช, จังหวัดสุราษฎร์ธานี, และ จ.สงขลา ต้องยกจัง
หวัด และจังหวัดที่เสียไป 1- 2 ที่นั่ง อย่าง จ.ตรัง,พัทลุง,กระบี่ และ สตูล เราก็จะได้คืนมาทั้งหมด แม้แต่ในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ในครั้งที่แล้ว เราได้แค่ 1 ที่นั่ง เลือกตั้งครั้งนี้ เราเชื่อมั่นว่าจะได้เพิ่มขึ้น
ประชาธิปัตย์จะส่งผู้สมัครทั้งหมดหรือไม่ เรื่องนี้”นิพนธ์”กล่าวว่า เราส่งครบ 400 เขต และเขตที่เราหวังมี 100 เขต ที่เราเชื่อว่าเราสู้กับผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่นๆได้ การต่อสู้ครั้งนี้เราไม่ได้ตั้งเป้าแบบเลิศเลอ แต่เราตั้งความหวังอยู่กับความเป็นจริง ที่ต้องการ 80 ที่นั่งขึ้นไป รวมทั้งที่เป็น สส.บัญชีรายชื่อ
การเกิดขึ้นของพรรคการเมืองใหม่ๆ และการที่ “บ้านใหญ่” ที่เคย สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ อย่างที่ จ.ชุมพร.,จ.สุราษฎร์ธานี, จ.พัทลุง เป็นปัญหาที่ หนักใจ ของพรรคหรือไม่ ประเด็นนี้ “นิพนธ์” กล่าวว่า การเลือกตั้งทุกครั้ง ไม่มีที่จะไม่หนักใจ เพราะเป็นการทำงานหนัก เพื่อการแข่งขัน และบางพื้นที่ต้องแข่งกับ”กระสุน” แต่ในวิถีทางการเมือง ก็ต้องใช้ “กลยุทธ์” ในการ ต่อสู้ “บ้านใหญ่” ไป สนับสนุนพรรคการเมืองอื่น แต่”บ้านเล็ก” ที่ หมายถึง”ประชาชน” ยังอยู่กับเรา ถ้าเขาเลือกเราๆ ก็ชนะ
เรื่องของ นโยบาย ในการหาเสียงเป็นอย่างไร “นิพนธ์” กล่าวว่า เรื่อง นโยบายยังอยู่ระหว่างการ ปรับปรุง แก้ไข ด้วยการรับฟังความคิดเห็น ความต้องการ ของประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำมาปรับให้สอดคล้อง และผู้ที่แถลงนโยบายจะเป็น หัวหน้าพรรค เป็นผู้แถลง แต่บอกได้ว่า นโยบายที่จะประกาศ เป็นนโยบายที่ครอบคลุมความเป็นอยู่ของประชาชนทุก สาขาอาชีพ
ร่วมเป็นรัฐบาลมาจนเกือบครบเทอม ได้ทำในสิ่งที่บอกกับประชาชนได้แค่ไหน “นิพนธ์” กล่าวว่า ในการเข้าร่วมรัฐบาล ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น นายกรัฐมนตรี ประชาธิปัตย์มีเงื่อนไข 3 ข้อ 1 ประชาธิปัตย์มีนโยบายประกันรายได้ให้กับ” เกษตรกร” ซึ่ง ประชาธิปัตย์ ได้ทำครบถ้วน สมบูรณ์ เป็นยุคเดียว ที่ เกษตรกร ออกมา ชุมนุม เรียกร้อง ในเรื่องของ ราคาผลผลิตตกต่ำน้อยที่สุด ส่วนเรื่องที่ 2 เรื่องแก้รัฐธรรมก็มีการดำเนินการ เรื่องที่ 3 เรื่องการบริหารด้วยความซื่อสัตย์” ประชาธิปัตย์ “ก็ไม่มีเรื่องด่างพร้อมแต่อย่างใด
นอกจากการยึดคืนภาคใต้แล้ว ในพื้นที่อื่นๆ คิดว่า “ประชาธิปัตย์” จะได้ สส.เพิ่มขึ้นหรือไม่ “นิพนธ์” กล่าวว่า พรรคฯจะต้องรักษาที่มั่นในภาคกลาง 9 ที่นั่งให้ได้ และต้องเพิ่มจำนวน สส.ในพื้นที่ภาคกลางให้ได้มากกว่าของเก่าที่มีอยู่ เช่นเดียวกับภาคเหนือ ที่มีอยู่ 1 ที่นั่ง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 ที่นั่ง ก็ต้องเพิ่มขึ้น เพราะทั้งผู้สมัคร ทั้ง สส.ที่มีอยู่เดิม และ ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคทุกคนทำงานอย่างเต็มที่
ในส่วนของ กทม. เป็นอย่างไร “นิพนธ์” กล่าวว่า ในส่วนของ กทม. ในการเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ พรรคฯได้ สก.จำนวน 9 ที่นั่ง และอีก 7 ที่นั่งที่เข้ามาเป็นที่ 2 ของการเลือกตั้ง เป็นการแพ้มามาก วันนี้ใน กทม. พรรคฯทำงานหนักและต่อเนื่อง เราหวังที่จะ”ต่อยอด” จาก สก. ที่มีอยู่เพื่อไปสู่ที่นั่งของ สส. ใน กทม. และเชื่อว่า เลือกตั้งครั้งนี้”ประชาธิปัตย์” จะได้ สส. กทม. แต่จะเป็นกี่ที่นั่ง ณ วันนี้ยังตอบไม่ได้ เพระพื้นที่ของ กทม. มีปัจจัยที่ทำให้มีการผันแปรได้ตลอดเวลา “นิพนธ์” กล่าวในท้ายที่สุด
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา