In Bangkok
กทม.ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ศาลเพียงตา เกาะกลางถนนหน้าศาลอาญา

กรุงเทพฯ- สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานเขตจตุจักร สำนักการจราจรและขนส่ง กทม.ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ศาลเพียงตาเกาะกลางถนนหน้าศาลอาญา กำชับดูแลป้องกันเหตุเพลิงไหม้ศาลเจ้าในที่สาธารณะ
นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ศาลเพียงตาบริเวณเกาะกลางถนนหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร ว่า เมื่อศูนย์วิทยุพระราม 199 ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ศาลเพียงตาบริเวณดังกล่าว ได้สั่งการให้สถานีดับเพลิงและกู้ภัยลาดพร้าวนำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุจนเพลิงสงบ จากนั้นได้ตรวจสอบ พบว่าเป็นเพลิงลุกไหม้ศาลเพียงตา ซึ่งทำจากไม้ ก่อนลุกลามเผาไหม้ชุดไทย ตุ๊กตาม้าลาย เครื่องเซ่น และโคนต้นโพธิ์ได้รับความเสียหายทั้งหมด โดยพื้นที่เพลิงไหม้ประมาณ 3 ตารางวา ซึ่งสถานที่ดังกล่าวมักจะมีประชาชนเดินทางนำเครื่องเซ่นไหว้มาถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลตามความเชื่อ อย่างไรก็ตาม กทม.มีมาตรการป้องกันอุบัติเหตุเพลิงไหม้ศาลเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สาธารณะที่มีประชาชนนำเครื่องเซ่นไหว้มาถวายและจุดธูปเทียนจนเป็นต้นเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ โดยขอความร่วมมือประชาชนที่จุดธูปเทียน เพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใช้ความระมัดระวัง ต้องมีภาชนะที่แข็งแรงและไม่ติดไฟมารองรับ และดูแลธูปเทียนให้ดับสนิทก่อนออกจากศาลเจ้า หรือสถานที่ตั้งของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มากราบไหว้บูชา ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ หรือเหตุสาธารณภัยสามารถขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 199 หรือ 1555 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการเขตจตุจักร กทม. กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความดูแลของสำนักสิ่งแวดล้อม กทม.โดยเบื้องต้นสำนักสิ่งแวดล้อม ได้แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) พหลโยธิน พร้อมทั้งขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด (CCTV) บริเวณโดยรอบ เพื่อหาผู้กระทำความผิดและสาเหตุของเพลิงไหม้ ขณะเดียวกันสำนักงานเขตฯ ได้สำรวจทรัพย์สินของ กทม.ที่ชำรุดเสียหาย พบว่า Rolling Barrier เสียหาย 16 ลูก นอกจากนั้น ยังได้ขอความร่วมมือวินรถจักรยานยนต์รับจ้างบริเวณใกล้เคียงที่ประชาชนใช้บริการพาข้ามถนนไปเซ่นไหว้และถวายสิ่งของตามความเชื่อ แจ้งประชาชนมิให้จุดธูปเทียนโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้และฝุ่นละอองขนาดเล็กจากควันธูป รวมทั้งติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ห้ามจุดธูปเทียนบนสะพานลอยคนข้ามและบริเวณรอบต้นโพธิ์ ส่วนศาล หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บริเวณอื่น ๆ ในพื้นที่ สำนักงานเขตฯ ได้ประชาสัมพันธ์ผู้ดูแลศาล ตรวจสอบมิให้จุดธูปเทียนเซ่นไหว้ถวายสิ่งของและกำชับเจ้าหน้าที่สายตรวจเทศกิจตรวจตราพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
นายไทภัทร ธนสมบัติกุล รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง รักษาการผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. กล่าวว่า สำนักการจราจรและขนส่ง ได้ตรวจสอบความเสียหายบริเวณดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าคานและเสาของอุปกรณ์ศาลเพียงตาเป็นเหล็ก เมื่อได้รับความร้อนสูง ทำให้สูญเสียกำลัง รวมทั้งอุปกรณ์ลูกกลิ้งลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ (safety roller barrier) บริเวณโค้งรัชดา ที่สำนักการจราจรและขนส่งติดตั้งไว้เมื่อปี 2564 เพื่อลดความรุนแรงของการชนบริเวณทางโค้งและป้องกันอุบัติเหตุทางถนนที่อาจเกิดขึ้น ได้รับความเสียหายละลายจากความร้อน โดยช่วงที่ได้รับความเสียหายมีความยาว 12 เมตร อย่างไรก็ตาม สำนักการจราจรและขนส่ง ได้เร่งประเมินความเสียหาย เพื่อซ่อมแซมโดยใช้งบประมาณปี 2566 พร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดี เพื่อหาผู้กระทำละเมิดต่อทรัพย์สินของราชการต่อไป