Health & Beauty

9สัญญาณเตือนโรคเบาหวานที่คุณต้องรู้  'นพ.โองการ สาระสมบัติ'เตือนภัยเงียบ



กรุงเทพฯ-โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) เป็นภาวะที่ร่างกายมีปริมาณของน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เกิดจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือฮอร์โมนอินซูลินทำงานได้ลดลง ซึ่งในปัจจุบันสถานการณ์ของโรคเบาหวานยังน่าเป็นห่วง โดยสหพันธ์เบาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation) ได้คาดการณ์ไว้ว่า ภายในปี ค.ศ. 2045 จะมีผู้ป่วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นเป็น 700 ล้านคนทั่วโลก จาก 463 ล้านคนในปี ค.ศ. 2019 และเพื่อให้คนทั่วโลกเล็งเห็นถึงความอันตรายของโรคเบาหวาน สหพันธ์เบาหวานนานาชาติจึงได้กำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็น “วันเบาหวานโลก” 

โดยในประเทศไทยโรคเบาหวานถือเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่คนไทยเป็นมากถึง 4.8 ล้านคน และในหลายรายจะเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา โดยที่ผ่านมามีผู้ป่วยเพียง 35.6% เท่านั้นในผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยและดูแลจากผู้ป่วยทั้งหมดที่สามารถบรรลุเป้าหมายในการรักษา และมีผู้ป่วยมากกว่า 200 รายในแต่ละวันที่เสียชีวิตเพราะโรคเบาหวาน ดังนั้นการสังเกตสัญญาณเตือนโรคเบาหวานจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจ 

นพ.โองการ สาระสมบัติ อายุรแพทย์ผู้ชำนาญการโรคเบาหวาน ต่อมไร้ท่อ และเมตาบอลิสม โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า เบาหวานเป็นภัยเงียบที่มาแบบไม่รู้ตัว เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ ดังนั้นในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน อาทิ ผู้ที่มีภาวะอ้วน มีญาติหรือคนในครอบครัวสายตรงเป็นเบาหวาน แม้ยังไม่มีอาการก็ควรตรวจคัดกรองเบาหวานเป็นประจำทุกปี เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจเป็นหนักและเกิดผลข้างเคียงที่ยากจะรักษาได้ 

นอกจากนี้เราควรหมั่นสังเกตอาการของเราว่ามีความผิดปกติที่เข้าข่าย อาการของโรคเบาหวานหรือไม่  9 สัญญาณเตือนโรคเบาหวาน ได้แก่ กระหายน้ำบ่อยกว่าปกติ, ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ หรือปัสสาวะปริมาณมากกว่าปกติ, หิวบ่อย กินอาหารมากกว่าเดิม, น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ, สายตาพร่ามัว มองไม่ชัด, รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง, มีแผลแล้วแผลหายช้ากว่าปกติ, ชา ปวดแสบ ปวดร้อน หรือรู้สึกเหมือนมีมดไต่ที่ปลายมือปลายเท้า, และผิวหนังแห้ง คัน  เมื่อมีอาการดังกล่าว ควรรีบมาตรวจเช็กกับแพทย์เฉพาะทางทันที 

เบาหวานถือเป็นโรคที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะหากเป็นแล้วไม่สามารถควบคุมได้อาจส่งผลให้เกิดโรคหัวใจ หรือโรคไตตามมาได้ ถ้ามีแผลที่เท้าแล้วไม่หายอาจติดเชื้อ และอาจลุกลามทำให้ต้องตัดขา รวมถึงถ้าป่วยเป็น COVID-19 ช่วงที่น้ำตาลในเลือดสูงอาจทำให้โรค COVID-19 เป็นมากจนถึงแก่ชีวิตได้ อย่างไรก็ตามการดูแล และเช็กตัวเองอยู่เสมอจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ห่างไกลจากเบาหวานและผลข้างเคียงจากเบาหวานได้  

ไม่ว่าจะมีความเสี่ยงโรคเบาหวานหรือไม่ การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันโรคเบาหวานเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้ทุกคนรับประทานอาหารที่เหมาะสมและมีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ และตรวจเช็กเบาหวานเป็นประจำทุกปี เพื่อจะได้รู้เท่าทันและห่างไกลจากโรคเบาหวาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ รพ.กรุงเทพ โทร.02-755-1129-30 หรือ แอดไลน์ https://bit.ly/3juXi4i