Authority & Harm
ชาวบ้านแห่แจ้งจับสาวแสบหลอกขายบ้านมือสองสูญหลายล้าน

ชัยภูมิ-ผู้เสียหายนับ 10 ราย รุดเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิให้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพ ที่หลอกลวงขายบ้านมือสองผ่านทางเฟสบุ๊ค ก่อนหลอกทำทีเป็นเจ้าของบ้านตัวจริงและนำผู้ซื้อไปดูบ้านและนำชี้ขายบ้านคนอื่นตามหมู่บ้านจัดสรรต่างๆไปมั่วขายพร้อมหลอกให้โอนเงินมัดจำ ค่าธรรมเนียม ค่าดำเนินการจิปาถะ สุดท้ายต้องมาเสียรู้ถูกหลอกให้โอนเงินมัดไปอย่างหน้าตาเฉยรวมมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565เวลา 0900น.ได้มีนางสาว ปราริญา เขื่อนพงษ์ อายุ 23ปี อยู่บ้านเลขที่150 หมู่5 ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยผู้เสียหายนับ 10รายรุดเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวบีฯขอสงวนนาม(นายหน้าขายบ้านมือสอง) (ชื่อจริงชื่อนางสาวเสาวภาคย์ สินธุมงคลชัย) ที่ไปโพสต์ขายบ้านมือสองในเพจเฟซบุ๊กชื่อ "ซื้อ-ขาย บ้านมือสอง " หลังจากนั้นนางสาว ปราริญา เขื่อนพงษ์ ผู้เสียหาย ได้ ทักเข้ามาในอินบ็อกซ์ ว่าต้องการซื้อบ้านมือสอง และต่อมากลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวได้ ตอบกลับมาว่าต้องการขายตรงตามที่ผู้เสียหายกำลังมองหาอยู่ ขายในราคาเกือบ 2 ล้านบาท และยังบอกว่าตนเองเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว หากสนใจซื้อก็พร้อมจะรีโนเวทบ้านให้ใหม่ทั้งหลัง ส่วนเรื่องที่มีเงินเดินบัญชีธนาคารไม่สวย เพราะมีอาชีพค้าขายนั้น มิจฉาชีพรายนี้ก็บอกว่าไม่ต้องห่วง จะหาคนดำเนินการให้
จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้มีการเดินทางไปดูบ้านตัวจริงที่จะขายพร้อมกับโอนเงินเป็นค่ามัดจำและดำเนินการต่าง ๆ หลายครั้ง รวมเป็นเงินเกือบ 50,000 บาท พร้อมทั้งบอกว่าสินเชื่อที่ตนเองยื่นขอไป ได้รับอนุมัติแล้ว แต่เมื่อติดต่อไปยังธนาคาร ก็ได้รับการปฏิเสธเรื่องการขอสินเชื่อ เมื่อโทรศัพท์ไปหามิจฉาชีพสาวก็บอกว่าไม่ได้โกง เพราะไม่ได้เป็นผู้เรียกเก็บเงินค่าดำเนินการเมื่อไปถามเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเรื่องจึงแดงขึ้นและพบว่าเจ้าของตัวจริงไม่เคยประกาศขายบ้านและไม่รู้เรื่องการซื้อขายบ้านหลังดังกล่าวแต่อย่างใดเลย
ส่วนผู้เสียหายอีกราย ซึ่งต้องการหาซื้อบ้านในเขตอำเภอเมืองชัยภูมิ ก็บอกว่าถูกมิจฉาชีพรายนี้หลอกลวงในลักษณะคล้าย ๆ กัน มีการโอนเงินไปให้กว่า 30,000-50,0000 บาท แต่เมื่อไปดูบ้านหลังที่ติดต่อซื้อขายกัน ก็พบว่ามีคนอาศัยในบ้านอยู่แล้ว และยังเป็นการติดต่อซื้อขายจากมิจฉาชีพรายเดียวกันนี้ด้วยโดยเมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกเสียเงินค่ามัดจำไปฟรี ๆ แล้ว ก็ได้นำชื่อของมิจฉาชีพไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต ก็พบว่ามีผู้เสียหายอีกเกือบ 10 ราย ที่ถูกมิจฉาชีพรายนี้หลอกลวง จำนวนความเสียหายเป็นเงินหลายล้านบาท
หลังสอบสวน ร.ต.ท. นนทพัทธ์ บุดดี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ จะได้ออกหมายเรียกให้ผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาลอกลวงประชาชนและข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ต่อไป
ทั้งนี้ ผู้เสียหายยังได้ฝากเตือนอีกว่า มิจฉาชีพรายนี้จะใช้ช่องโหว่งเรื่องผู้ที่ต้องการจะซื้อบ้านมือสองราคาถูกและเรื่องเงินเดินบัญชีธนาคารไม่สวย อ้างว่าจะช่วยทำเรื่องให้ ดันเรื่องให้ผ่าน และยังเข้ามาตีสนิทกับคนในครอบครัวของเราให้เราเชื่อใจ จึงอยากให้ตำรวจเร่งตามจับกุมตัวมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดี เพราะอาจจะไปก่อเหตุกับผู้อื่นอีก