In Bangkok

กทม.คัดกรองผู้ป่วยโรคเบาหวานเชิงรุก ส่งเสริมความรู้ปชช.ไกลโรคเบาหวาน



กรุงเทพฯ-สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ กทม.คัดกรองผู้ป่วยโรคเบาหวานเชิงรุก ส่งเสริมความรู้ให้ประชาชนห่างไกลโรคเบาหวาน

นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวกรณีมีการเสนอข่าวผลสำรวจสุขภาพคนไทย พบคนกรุงเทพฯ ป่วยเป็นโรคเบาหวานมากกว่าจังหวัดอื่นเกือบเท่าตัวว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนอ.และศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง ได้ให้การดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานรายใหม่และรายเก่าในคลินิกโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ตามเกณฑ์แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานที่กำหนดตามแนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน 2560 (Clinical Practice Guideline for Diabetes 2017) โดยจ่ายยารักษา ตรวจติดตามระดับน้ำตาล ตรวจประเมินภาวะแทรกซ้อนและให้ความรู้ในการปฏิบัติตน เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้ หากผู้ป่วยเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เบาหวานขึ้นจอประสาทตา อัมพาต อัมพฤกษ์ มีภาวะไตวายตั้งแต่ระดับ 4 ขึ้นไป จะได้รับการส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่าตามสิทธิการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย ขณะเดียวกันได้จัดทีมสหวิชาชีพของศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามอาการผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อนในชุมชน พร้อมทั้งให้คำแนะนำและส่งต่อ เพื่อรับการรักษาตามสิทธิการรักษาพยาบาล โดยในปีงบประมาณ 2564 มีผู้ป่วยโรคเบาหวานได้รับการขึ้นทะเบียนรักษาในศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 19,529 คน ได้รับการดูแลตามเกณฑ์ร้อยละ 57.90 สามารถควบคุมระดับน้ำตาลสะสมได้ร้อยละ 40.12

นอกจากนั้น สนอ.ยังได้รณรงค์ส่งเสริมความรู้ให้ประชาชนผ่านการให้บริการคัดกรองความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานของศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง ด้วยหลักการ 3 อ. คือ อาหาร เลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน มัน เค็ม อารมณ์ แนะนำวิธีจัดการความเครียดด้วยตนเอง กิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด และออกกำลังกาย ส่งเสริมให้มีกิจกรรมทางกาย เลือกออกกำลังกายให้เหมาะสมและเพียงพอ และ 2 ส. คือ สุรา ให้ความรู้เรื่องประโยชน์ โทษเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคำแนะนำการลด หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ ให้ความรู้เรื่องโทษของการสูบบุหรี่ ยาสูบ ให้คำแนะนำการลด หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และยาสูบ

นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม. กล่าวว่า สนพ.ได้คัดกรองผู้ป่วยโรคเบาหวานเชิงรุก เพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษาอย่างรวดเร็ว และลดความรุนแรงของโรคเบาหวานทางระบบต่าง ๆ ของร่างกาย โดยในปี 2564 สามารถคัดกรองผู้ป่วยได้ จำนวน 94,240 ราย ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ภาวะความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันเลือดสูง เบาหวาน ทั้งนี้ ยังพบว่ามีจำนวนผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานทั้งเรื่อง ตา ไต และเท้าเพิ่มขึ้นทุกปี จึงต้องพัฒนาเชื่อมโยงการดูแลเบาหวานในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้เป็นเครือข่ายที่เข้มแข็ง รวมถึงสร้างการดูแลทั้งระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิให้สอดคล้องกัน โดย สนพ.ได้วางเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ป่วยเบาหวานแบบบูรณาการ ยกระดับการรักษาสู่มาตรฐานสากล เพิ่มขีดความสามารถการรักษาพยาบาล ซึ่งปัจจุบันได้ให้บริการดูแลรักษา 2 รูปแบบ คือ ศูนย์เบาหวาน 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก โรงพยาบาล (รพ.) ตากสิน และศูนย์เบาหวาน รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ และคลินิกเบาหวาน 7 แห่ง ได้แก่ รพ.กลาง รพ.ตากสิน รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ รพ.ลาดกระบังกรุงเทพมหานคร รพ.ราชพิพัฒน์ และ รพ.สิรินธร นอกจากนั้น สนพ.ยังได้จัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานให้ประชาชนหมั่นสังเกตอาการ หากมีอาการเข้าข่าย เช่น คอแห้ง กระหายน้ำ ร่างกายอ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อย ปวดศีรษะ อาการง่วงนอน แผลหายช้า และโรคอ้วน ควรพบแพทย์รับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะผิดปกติรุนแรงทางร่างกายที่อาจเกิดตามมา