Authority & Harm
ตร.อุดรฯแจ้งข้อหามือเผาตร.เพิ่ม2กระทง
อุดรธานี-ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบซากรถส่งผู้ต้องหาไหม้ ผู้การอุดรเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มวางเพลิง ทำให้เสียทรัพย์
วันที่ 29 มกราคม 2564 เวลา 17.45 น. ที่ลานเก็บรถของกลาง สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ,พ.ต.อ.ศักดา เหมือนโพธิ์ รอง ผบก. ,พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ,พ.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ ฝอยกลาง ผกก.สภ.หนองแสง พร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ร่วมตรวจสอบสภาพของซากรถส่งผู้ต้องหาของ สภ.หนองแสง ที่เป็นรถปิกอัพโตโยต้า ทะเบียน ฮฐ-2946 กรุงเทพมหานคร ดัดแปลงกระบะท้ายเป็นที่คุมขัง ที่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน หลังจากที่ควบคุมผู้ต้องหาคดีย่าเสพติด 4 คน มาส่งเรือนจำกลางอุดรธานี
หลังจากการตรวจสอบซากรถคุมตตัวผู้ต้องขัง ทาง พล.ต.ต.พิษณุฯ ได้ให้ทาง สภ.เมืองอุดรธานี นำรถควบคุมผู้ต้องขัง ที่เป็นรถดัดแปลงท้ายกระบะเป็นห้องควบคุมผู้ต้องหา ที่กระจกทุกบานทำลูกกรงเหล็กติดเอาไว้ ป้องกันผู้ต้องหาเปิดกระจกหลบหนี ส่วนด้านหลังมีเบาะนั่งด้านข้าง 2 ฝั่ง ส่วนที่ช่องกลางเหนือศีรษะ มีตู้แอร์ที่ติดตั้งไว้ ส่วนที่เพดานติดหนังเทียบุไว้ทั้งส่วนหลังคา
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยรถควบคุมตัวผู้ต้องหา กำลังจะไปส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่เรือนจำกลางอุดรธานี หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้ทำการฝากขังต่อศาล จ.อุดรธานี ผ่านทางวีดีโอคอนเฟอร์เรนท์เสร็จแล้ว ซึ่งเหลือระยะทางอีก 9 กม.จะถึงเรือนจำ แต่มาเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้รถควบคุมผู้ต้องหาขึ้น และทุกฝ่ายทั้ง สภ.เมืองอุดรธานี กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี ได้ระดมกำลังกันออกติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีได้
หลังจากเรานำตัวมา และได้ทำการสอบผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่ไม่ได้หลบหนี โดยถือว่าเป็นประจักษ์พยานในคดีนี้ ซึ่งทั้ง 3 คน ยืนยันชัดเจนว่า เหตุดพลิงไหม้เกิดจากผู้ต้องหาคนที่หลบหนี ที่มีเจตนาที่ใช้ไฟแช็คเผาบริเวณช่องแอร์ เพื่อให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมา โดยช่วงดังกล่าวมีผู้ต้องหาบางคนหลับอยู่ แต่ต้องตื่นขึ้นมา เพราะได้กลิ่นควัน ประกอบกับตำรวจที่มีหน้าที่ในการควบคุม ทราบว่ามีเพลิงไหม้จึงจอดรถข้างทาง แล้วลงมาเปิดประตูด้านหลังให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ลงจากรถ ขณะที่ผู้ต้องหาที่หลบหนี อ้างว่าเจ็บข้อมือ ทางตำรวจจึงคลายล๊อคกุญแจมือให้ แล้วผู้ต้องหาอาศัยช่วงชุลมุน ในขณะนั้นหลบหนี ซึ่งตอนนั้นต้องยอมรับว่าเป็นความชุลมุน เพราะไฟเริ่มไหม้รุนแรงขึ้น จากนั้นจึงระดมกำลัง จนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีได้”
พล.ต.ต.พิษณุฯ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นจะดำเนินการเป็น 2 ส่วน ซึ่งส่วนแรกเราจะดำเนินคดีอาญากับผู้ต้องหาที่หลบหนี ในข้อหา หลบหนีจากการคุมขัง และจะแจ้งช่อกล่าวหาเพิ่ม คือ วางเพลิงเผาทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ ในส่วนที่ 2 เราจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ว่าลักษณะเหตุที่เกิดขึ้น จะเกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง โดยทางตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้มาทำการตรวจสอบเพื่อหาความจริงอีกส่วนหนึ่ง ในการหาสาเหตุเพลิงไหม้ คงต้องใช้เวลาบ้าง จึงจะทราบสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงได้ รวมทั้งพฤติกรรมของผู้ต้องหา ว่าก่อเหตุเพื่อที่ต้องการหลบหนีจริงหรือไม่
ส่วนตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ขณะนี้ส่งตัวไปยังเรือนจำกลางอุดรธานีแล้ว และตัวผู้ต้องหาที่หลบหนี ศาล จ.อุดรธานี ได้ออกหมายขัง ผ่านการฝากขังออนไลน์ทางวีดีโอคอนเฟอเร้นท์แล้ว เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงต้องนำตัวผู้ต้องหาส่งเรือนจำกลางอุดรธานี แต่ระหว่างนี้ได้ก่อเหตุขึ้น ทางพนักงานสอบสวน จึงนำตัวส่งเรือนจำก่อน และจะต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มที่เรือนจำอีกครั้ง
กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี