In Thailand

เรือนจำกลางนครปฐมคว้ารางวัลอันดับ1โครงราชฑัณฑ์ปันสุขปี65



นครปฐม-เรือนจำกลางนครปฐม ผงาดคว้ารางวัลอันดับ 1 โครงการราชฑัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประจำปี พ.ศ.2565 นำผลงานเปิดตัวหอผู้ป่วยราชฑัณฑ์ปันสุข โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างเรือนจำกลางนครปฐม โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม วัดไผ่ล้อม โดยหลวงพี่น้ำฝน นำทัพธรรม ร่วมผลักดันโครงการต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทย

วันที่ 13 ธันวาคม 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือนจำกลางนครปฐม โดยนายขวัญไชย สันติภราภพ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม ได้รับการตัดสินจากคณะกรรมการคัดเลือกเรือนจำดีเด่นตามโครงการราชฑัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประจำปี พ.ศ.2565 โดยได้รับการตัดสินในกลุ่มที่ 1 ประเภทเรือนจำขนาดใหญ่ ได้แก่เรือนจำกลาง เรือนจำพิเศษ และทัณฑสถาน ซึ่งในปีนี้ เรือนจำกลางนครปฐม ได้รับรางวัลที่ 1 (ระดับดีเด่น) โดยได้นำโครงการเปิดตัวหอผู้ป่วยราชฑัณฑ์ปันสุข โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ซึ่งมีการจัดสร้างห้องสำหรับตรวจวินิจฉัยโรคและห้องรักษา พักฟื้นแบ่งแยกออกจากผู้ป่วย ที่มารับการตรวจรักษาตามปกติโดยเป็นโมเดลแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นการทำงานบูรณาการร่วมกับโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม และวัดไผ่ล้อม ซึ่งพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้นำคณะศิษยานุศิษย์ทัพธรรมวัดไผ่ล้อมร่วมกันนำปัจจัยสนับสนุนการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า สำหรับหอผู้ป่วยราชฑัณฑ์ปันสุข โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ได้มีการเปิดดำเนินการให้ผู้ต้องขังมารับการตรวจรักษาและพักฟื้นที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐมแล้ว โดยมีแนวคิดจากประสบการณ์ที่มีข้อมูลว่าประชาชนส่วนหนึ่งเกิดความไม่สบายใจเมื่อมีการนำผู้ต้องขังมาทำการตรวจรักษาร่วมกับประชาชนที่มารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม โดยบางครั้งมีการสวมกุญแจมือและตีตรวนด้วย จึงพยายามลดความตรึงเครียดจากทั้งสองส่วน ซึ่งได้มี้การหารือระหว่างหน่วยงานทั้งเรือนจำกลางนครปฐม โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม และวัดไผ่ล้อม โดยศิษยานุศิษย์ทัพธรรมได้สมทบทุนนำปัจจัยมาสนับสนุนการก่อสสร้างเป็นโมเดลแรกในประเทศไทย

“ในพิธีเปิดงาน ณ อาคารรวมเมฆ โรงพยาบาลนครปฐม พล.อ.อ.สุบิน ชิวปรีชา กรมวังผู้ใหญ่ ในพระองค์ 904 เป็นประธานเปิดเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งนายแพทย์ศุภชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมได้นำคณะแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์เริ่มดำเนินการให้บริการแยกส่วนออกจากพื้นที่ปกติอย่างชัดเจน ซึ่งจะเป็นการทำให้เกิดความสะดวกและเกิดประสิทธิภาพในการดำเนินการได้ทันทีด้วย” หลวงพี่น้ำฝนกล่าว

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาวัดไผ่ล้อมได้ดำเนินการด้านสาธารณสงเคราะห์ร่วมกับหน่วยงานอื่นมาตลอดและยังคงจะสนับสนุนการดำเนินการต่อไปตามเจตนารมที่จะทำให้วัดเป็นที่พึ่งพิงและเป็นศูนย์รวมการสนับสนุนการทำงานของหน่วยงาน องค์กรเพื่อให้เกิดการร่วมมือกันโดยมีวัดเป็นศูนย์กลางนั่นเอง