Authority & Harm
ตำรวจชัยภูมิแถลงข่าวจับยาบ้าได้แสนกว่าเม็ด

ชัยภูมิ-การเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น "ยุทธการพิทักษ์เมืองพญาแล" ภายใต้การอำนวยการ ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขุดรากถอนโคนผู้ค้ายาเสพติด จนสามารถสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ
วันนี้(20 ธ.ค.) เวลา ประมาณ 13.30 น นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้มอบนโยบายในการเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น "ยุทธการพิทักษ์เมืองพญาแล" ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ฉลอง สุขจันทร์ ผบก.จว.ชัยภูมิ และ พ.ต.อ.พิชิต มีแสง รอง ผบก..จว.ชัยภูมิ ซึ่งสั่งการให้ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้น เป็นประจำ ทั้งนี้ ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ นำโดย พต.อ.นิธิศ จารุกมลกุล ผกก.(สอบสวน) 1 พร้อมพวก ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขุดรากถอนโคนผู้ค้ายาเสพติด จนสามารถสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ ชป.ปส.ภ.จว.ชัยภูมิ ได้จับกุมตัว
นายสมัครชัยหรือเอิ้ก พระกะยาพันธ์ อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 5/12 ช.บรมราชชนนี 67 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย น.ส.วริสราหรือแวน แก้วประเสริฐ อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 131 หมูที่ 11 ต.โนนท่อน อ.เมืองจ.ขอนแก่น พร้อมด้วยของกลาง คือ ยาบ้า 107.218 เม็ด , คีตามีน 292 กรัม รถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อ HONDA รุ่น ACCORD สีขาว หมายเลขทะเบียน ญฮ 7082 กรุงเทพมหานคร มูลค่าประมาณ 350.000 บาท, รถจักยานยนต์ ยี่ห้อ YAMAHA รุ่น Xmax สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 กง 8662 มูลค่าประมาณ 150.000 บาท และทรัพย์สินอื่น ๆ ที่เชื่อว่าได้มาหรือได้ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด รวมมูลค่า ประมาณ 580.000 บาท
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และร่วมกันจำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อการค้า, ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า )โดยมีไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเสพยาเสพติด ให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต โดย เจ้าหน้าที่ดัทำการจับกุม บริเวณห้องเช่ารีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น และบ้านเช่าแห่งหนึ่งบริเวณศูนย์ค้าส่งประตูน้ำ ถ.มิตรภาพ ม.12 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ก่อนการจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ ชุด ชป.ปส.ภ.จว.ชัยภูมิ
ได้ร่วมสืบสวนจับกุมนายอุทัย ฯ ผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งมีของกลางยาบ้า 5.800 เม็ด ได้ขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับนายสมัครชัยหรือเอิ้ก ฯ และได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา หลบหนีมาเช่าห้องพักอยู่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น และได้ใช้ห้องเช่าหลังดังกล่าว เป็นที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มลูกค้าทั่วที่ได้ติดต่อเข้ามาซื้อ จึงได้ทำการเข้าจับกุม น.ส.วริสรา ฯ อยู่ในห้องเช่าดังกล่าว ให้การรับว่าเป็นแฟนสาวของนายสมัครชัยหรือเอิ้กฯ และได้ตรวจค้นต่อไป พบยาบ้าพบซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องรองเท้า TAYWIN จำนวน 218 เม็ด และคีตามีน 292 กรัม ทั้งนี้ นายสมัครชัยหรือเอิ้กฯ ให้การรับว่ามียาบ้าเหลืออยู่ ซึ่งซุกซ่อนไว้ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งบริเวณศูนย์ค้าส่งประตูน้ำ ถมิตรภาพ ม.12 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น
จึงได้เข้าตรวจค้นพบยาบ้าพบซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องกระดาษลัง และกระเป๋าผ้าเดินทางสีดำ รวม 100.200 เม็ด ซึ่งรวมของกลางเครือข่ายนี้เป็น ยาบ้า 107.218 เม็ด และคีตามีน 292 กรัม จากการชักถามขยายผล นายสมัครชัยหรือเอิ้กฯ ให้การรับว่าตน ได้ติดต่อซื้อยาบ้ามาจาก ผู้ใช้งานแอพพลิเคชันไลน์ ชื่อ"จารย์" ซึ่งตนไม่ทราบชื่อ - นามสกุลจริง พักอาศัยอยู่ที่เขตบางนา จ.กรุงเทพมหานคร ซึ่งตนรับยาบ้ามาในราคาเม็ดละ 7.25 บาท มาจำหน่ายต่อในราคา 8.5 บาท โดยรับยาบ้ามาครั้งละ 100.000 เม็ด และรับคีตามีนมาในราคา ขีดละ 25.000บาท มาขายต่อในราคา 35.000 บาท โดยรับมาครั้งละ 5 ขีด และจะโอนเงินจ่ายค่ายาเสพติดไปยังบัญชีธนาคาร นายภูวนาท ฯ น.ส.วริสราหรือแวน แก้วประเสริฐ ให้การรับว่า เมื่อนายสมัครชัยหรือเอิ๊กฯ รับยาคีตามีนมาแล้ว ตนมีหน้าที่ติดต่อหาลูกค้า จัดเก็บ แพ็คใส่ถุงเพื่อรอส่งให้กับลูกค้า และดูแลบัญชีการเงินให้ นายสมัครชัยหรือเอิ๊กๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีจ่อไป