In Thailand

บิ๊กป้อมยืนยัน‘เมืองต้นแบบที่4’เดินต่อ



สงขลา-บิ๊กป้อม ยืนยัน “เมืองต้นแบบที่ 4” หรือ”นิคมอุตสาหกรรมจะนะ” เดินต่อ ให้ ศสช. จัดทำ SEA อยู่ ในขณะที่กลุ่มผู้”เห็นด้วย” อ้างว่า บุคลากรของ ศสช. ลำเอียง ขาดประสบการณ์

พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธาน คณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( กพต.) และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเดินทางมาติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและความก้าวหน้าของการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ จ.ปัตตานี ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการ”เมืองต้นแบบที่ 4” หรือ”นิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้แบบ”ครบวงจร” เพื่อแก้ปัญหาความยากจน และคนว่างงาน รวมทั้งเป็นประตูการส่งสินค้าออกที่เป็น”เกตเวย์” ที่ 3 ของประเทศว่า ซึ่งเป็นโครงการที่ดี  ที่รัฐบาล เห็นชอบและมีการ”ผลักดัน” ให้เกิดขึ้นว่า โครงการนี้ยังไม่ได้มีการ”ล้มเลิก” เพราะเป็นโครงการที่ดี และเป็นการลงทุนของ”เอกชน” ในวงเงิน 600,000 ล้าน ซึ่งเหมาะสมกับสภาพของ “เศรษฐกิจ” ของประเทศในปัจจุบัน วันนี้โครงการนี้ อยู่ระหว่างการทำ SEA โดยสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( ศสช.) ส่วนที่มีการท้วงติงจากคนในพื้นที่ว่าโครงการนี้ล่าช้า เป็นเพราะต้องการทำให้รอบคอบ และ รัฐบาล จะสั่งการให้ ศสช. เดินหน้าให้เร็วขึ้น

  

ในขณะที่ “แหล่งข่าว” ในพื้นที่ เปิดเผยว่า ไม่มั่นใจในการทำงานของ ศสช. ทั้งวิธีการ และบุคคลที่ลงมาทำงานในพื้นที่ เพราะ บุคลากรของ ศสช. มีความโน้มเอียงในทาง เอ็นจีโอ และ กลุ่มผู้ที่”เห็นต่าง” ที่มีอยู่เพียงกลุ่มเดียว โดยสังเกตจากที่ เวลา เจ้าหน้าที่ของ ศสช. ลงพื้นที่ ก็จะพบกับกลุ่ม”ผู้เห็นต่าง” แต่ไม่เคยมาพบเพียงฟังเหตุผลของประชาชน”ผู้เห็นด้วย” กับโครงการดังกล่าว บางครั้งนัดกับกลุ่มผู้เห็นด้วย แล้วไม่มาพบตามนัดหมาย เหมือนมีการ”กดดัน” หรือ”เลือกข้าง  รวมทั้งมีการมองว่า ประชาชน ที่เป็นส่วนใหญ่ของคนใน พื้นที่ 3 ตำบลที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ”เห็นด้วย” ว่าเป็นกลุ่มที่ถูก”จัดตั้ง” โดยมี”เอกชน” ที่เป็น”กลุ่มทุน” อยู่เบื้องหลัง ซึ่งไม่เป็นความจริง  ความจริงคือคณะทำงานของ”เอกชน” ที่เป็นเจ้าของโครงการ เป็นผู้ให้”ความจริง”ในรายละเอียดของโครงการ และประชาชนทำการ ศึกษา เพื่อหาความจริง พบว่าเป็นโครงการที่สามารถแก้ปัญหาในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ได้ แก้ปัญหาว่างงานได้ และโครงการนี้ไม่มี อุตสาหกรรม ที่สร้างปัญหาในเรื่องของ”มลพิษ” และ”มลภาวะ” วันนี้ ประชาชน สามารถเข้าถึง”ข้อมูลข่าวสาร” ได้เอง การที่จะบอกว่าเป็น”มวลชน” จัดตั้ง จึงเป็นการมองที่มี “อคติ”จาก บุคคลกร ของ ศสช. และสิ่งที่ผู้”เห็นด้วย” กับโครงการนี้ไม่มั่นใจใน บุคลากร ของ ศสช. เพราะเห็นว่า ยังขาดความรู้ความเข้าใจ ไม่มีประสบการณ์ ของการทำงานในพื้นที่

    

ถ้ามีการกล่าวหาว่า ผู้ที่เห็นด้วยมีการ”จัดตั้ง” ความจริงผู้ที่”เห็นต่าง” ต่างหากที่เป็น”กลุ่มคน” ที่ถูกจัดตั้งโดยเอ็นจีโอ เพราะมีการ ประชุม มีการตั้งวง เสวานา มีการทำกิจกรรม ที่เป็นการให้ ข้อมูล ที่เป็นข้อมูลด้านเดียว เพื่อให้”เห็นต่าง” แม้แต่เรื่องที่ เอกชน สร้างรูป เจ้าแม่กวนอิม ในพื้นที่นอกโครงการ ที่เป็นอำเภอที่ติดกัน เพื่อสร้าง”แลนด์มาร์ค” เป็นการ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และพัฒนาท้องถิ่นให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ของคนในท้องถิ่น ก็ถูก “เอ็นจีโอ” ให้ข้อมูลกับกลุ่ม”ผู้เห็นต่าง” ว่าเป็นการสร้างเพื่อ”เสริมบารมี” ให้กับ โครงการ ดังนั้นจึงอยากบอกกับ ศสช.ว่า คนในพื้นที่” ที่เห็นด้วย” ไม่ได้ถูกจัดตั้ง แต่ผู้”ที่เห็นต่าง” ต่างหาก ที่ถูกจัดตั้งโดยเอ็นจีโอ เพราะถ้า บุคคลกร ของ ศสช. ที่ลงมา ปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่ ไม่เข้าใจในสิ่งที่เป็นจริงในพื้นที่ ศสช. ก็จะได้ ข้อมูล ที่ไม่เป็นจริง ทำให้เป็นปัญหาในการ”ขับเคลื่อน” โครงการให้เดินไปข้างหน้า ที่ต้องใช้เวลามากขึ้น และเป็นการสร้างความล่าช้าในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ นั่นเอง

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / สงขลา