In Thailand
หนุ่มพม่าสั่งเสียให้บริจาคอวัยวะช่วยผู้ป่วยสิ้นหวังชาวไทย13ชีวิต
ราชบุรี–ที่หน้าห้องประชุม รพ.ราชบุรี ผอ.รพ.ราชบุรี พร้อมคณะแพทย์ และพยาบาล ได้ร่วมกันมอบใบประกาศเกียรติคุณยกย่อง THANT ZIN TUN หรือ นายซิน อายุ 29 ปี สัญชาติพม่า ผู้วายชนม์ หลังได้บริจาคอวัยวะ เป็นดวงตา 2 ข้าง และกระดูกเนื้อเยื้อ 11 ชิ้น ให้กับสภากาชาดไทย
เมื่อวันที่ 3 ม.ค.66 ที่หน้าห้องประชุม รพ.ราชบุรี นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผอ.รพ.ราชบุรี พร้อมคณะแพทย์ และพยาบาล รพ.ราชบุรี ได้ร่วมกันมอบใบประกาศเกียรติคุณยกย่อง THANT ZIN TUN หรือ นายซิน อายุ 29 ปี สัญชาติพม่า ผู้วายชนม์ พร้อม Thet.Thetmon หรือ นางต้าหมู อายุ 29 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต และครอบครัวของผู้วายชนม์ หลังได้บริจาคอวัยวะ เป็นดวงตา 2 ข้าง และกระดูกเนื้อเยื้อ 11 ชิ้น ให้กับสภากาชาดไทย และศูนย์เนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ
โดยอวัยวะดังกล่าวสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยชาวไทยที่สิ้นหวังได้ 13 ชีวิต ทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับบริจาคอวัยวะสามารถมีชีวิตต่อไป และกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ถือเป็นการสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ให้กับตัวผู้ป่วยเองโดยภรรยาและพี่ชายผู้ป่วยคิดว่าเป็นการทำบุญใหญ่ครั้งสุดท้ายให้กับผู้ป่วย
ทั้งนี้สืบเนื่อง นายซิน สัญชาติพม่า ได้ประสบอุบัติเหตุทางถนน จนต้องเข้ารักษาตัวที่รพ.ปากท่อ เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา และส่งต่อมารักษาที่รพ.ราชบุรี ซึ่งผู้ป่วยมีอาการหนัก แพทย์จึงต้องตรวจอาการอย่างละเอียด และส่งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง พบว่ากระดูกต้นคอส่วนบนเคลื่อน จึงทำให้ผู้ป่วยมีอาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว ทางแพทย์และทีมพยาบาล จึงแจ้งให้ทางญาติทราบ พร้อมประสานขอรับบริจาคอวัยวะ
ซึ่งทางภรรยาและครอบครัวจึงได้ประสานกับทางพ่อแม่ผู้ป่วย จนทราบว่าผู้ป่วยได้เคยสั่งไว้หากมีโอกาสให้บริจาคอวัยวะ เพื่อช่วยเหลือชีวิตคนอื่น จึงนำไปสู่การบริจาคอวัยวะในครั้งนี้ โดยขณะผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ ได้อยู่กินกับภรรยาจนบุตรชายอายุ 5 ขวบ 1 คน ส่วนบิดามารดาอยู่ที่ประเทศพม่า ซึ่งผู้วายชนม์มีอาชีพรับจ้างในฟาร์มไก่ มีอุปนิสัยรักครอบครัว ใจบุญ ชอบช่วยเหลือบุคคลอื่น ขยันเอาการเอางาน
ด้วยเหตุการณ์นี้ ทางรพ.ราชบุรี และสภากาชาดไทย ตลอดจนศูนย์รับบริจาคเนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพฯในพระอุปถัมภ์ฯ. จึงได้มอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติคุณให้ THANT ZIN TUN และครอบครัว ที่ได้สร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ คือการบริจาคอวัยวะ ซึ่งถือเป็นการสร้างประโยชน์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เรียกได้ว่าเป็นการให้ชีวิตใหม่ให้ผู้ป่วย ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีก ทั้งยังมีโอกาสสร้างประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป
นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผอ.รพ.ราชบุรี กล่าวว่า ตนต้องขอขอบคุณแทนคนไทย ที่ญาติผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวเมียนมาร์ตัดสินใจบริจาคอวัยวะ โดยอวัยวะที่ได้เป็นดวงตา และกระดูกสามารถช่วยคนไทยได้ถึง 13 ชีวิต ซึ่งกรณีนีเป็นต่างด้าว โดยกฏหมายบริจาคอวัยวะจะมีความซับซ้อนนิดหน่อย ต้องขออนุญาติทายาทสายตรงคือ คุณพ่อกับคุณแม่ที่อยู่ต่างประเทศ โดยขั้นตอนต้องมีการประสานงานและสื่อสารให้เข้าใจ
ส่วนเรื่องการเข้ากันได้ระหว่างอวัยวะต่างชาติกับคนไทยนั้นไม่มีปัญหา เพราะเราถือเป็นบ้านพี่เมืองน้องกัน เพราะอวัยวะที่ได้เป็นดวงตากับกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่เข้ากันได้ง่ายกว่าส่วนอื่นๆ ต่อจากนี้ทางรพ.จะมีการประชาสัมพันธ์เชิญชวน ให้แรงงานต่างด้าวมาร่วมบริจาคอวัยวะเพิ่มมากขึ้น
ด้าน นางต้าหมู ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ครอบครัวได้ร่วมกันตัดสินใจในการบริจาคอวัยวะ หลังทางรพ.ได้แจ้งอาการของสามีว่าอาการเป็นอย่างไร เพราะคิดว่าอวัยวะที่บริจาคไปสามารถไปช่วยชีวิตคนอื่นได้ต่อ ถือเป็นการทำบุญใหญ่ให้กับสามีด้วย ตามเจตนารมณ์ของสามี
ซึ่งสามีเคยบอกว่า ถึงแม้ครอบครัวเราจะเป็นชาวพม่า แต่ก็ไม่เกี่ยงจะช่วยเหลือใคร ซึ่งสามีเป็นคนใจดี ชอบทำบุญ และรักครอบครัว หลังจากนี้จะนำศพของสามีเป็นตั้งบำเพ็ญกุศลที่ วัดศรัทธาธรรม ต.บางจะเกร็ง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เป็นเวลา 3 วัน
ขณะที่ Myo Thi Thi Aung หรือ น.ส.อัง อายุ 27 ปี น้องผู้เสียชีวิต ยังได้พูดเชิญชวนให้ชาวพม่าที่มาทำงานในไทยได้บริจาคอวัยวะเป็นภาษาพม่าว่า ขอเชิญชวนเพื่อนๆชาวพม่า มาบริจาคอวัยวะกันเยอะๆ อย่างพี่ชายเธอได้บริจาคอวัยวะเหมือนได้ทำบุญใหญ่ ช่วยชีวิตคนได้หลายคน "ซึ่งผลบุญนี้จะช่วยให้พี่ชายเกิดชาติหน้าจะมีดวงตาที่ดี มีอวัยวะครบถ้วนสมบูรณ์และอายุชีวิตที่ยืนยาวนาน" น.ส.อัง น้องสาวผู้วายชนม์กล่าว
สุจินต์ นฤภัย / ราชบุุรี