In Thailand

จัดงานมุทิตาหลวงพ่อโตครบรอบ40ปีมอบทุนการศึกษา



สมุทรปราการ-ที่วิหารหลวงพ่อโตวัดสาขลา จัดงานมุทิตาหลวงพ่อโตครบรอบ 40 ปี มอบทุนการศึกษาพร้อมมอบเครื่องบริโภคให้ชาวบ้านในพื้นที่

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 6 ม.ค.66 ที่วิหารหลวงพ่อโตวัดสาขลา หมู่ที่ 3 ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พระครูสุนทรพัฒนกิจวิธาน เจ้าอาวาสวัดสาขลาพร้อมด้วยคณะกรรมการวัดสาขลา จัดพิธีมุทิตาหลวงพ่อโตวัดสาขลาครบครอบ 40 ปี เหตุเพลิงไหม้ชุมชนบ้านสาขลาพร้อมทั้งมอบทุนการศึกษาและมอบเครื่องบริโภคให้กับชาวบ้านในพื้นที่  โดยมี นาย สมยศ ประกอบผล อดีตสมาชิกสภาจังหวัดสมุทรปราการเละประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

ด้านพระครูสุนทรพัฒนกิจวิธาน เจ้าอาวาสวัดสาขลากล่าวว่าในวันนี้ได้มีการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน จำนวน 176 ทุน ทุนละ 500 บาท ซี่งเป็นนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านสาขลา พร้อมกันนี้ยังได้มอบเครื่องบริโภคให้กับชาวบ้านที่ใกล้เคียงวัดสาขลาทั้ง 4 หมู่ ประกอบด้วยหมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 7 จำนวน 1,300 ชุด อาทิ  ข้าวสารจำนวน 5 กิโลกรัม น้ำมันพืชชนิดขวดขนาด 1 ลิตรและน้ำปลาขนาด 650 มิลลิลิตร

นาย อำภัย อำพันทอง คณะกรรมการวัดสาขลากล่าวว่า วัดสาขลา มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน สร้างเมื่อ พ.ศ.2325 สันนิษฐานว่าชาวบ้านช่วยกันสร้างเมื่อคราวรบชนะพม่ากว่า 233 ปี ของวัดแห่งนี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันได้ถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จ.สมุทรปราการชุมชนบ้านสาขลา เป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ริมปากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทย ก่อตั้งขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นต่อมาเมื่อเกิดสงคราม 9 ทัพในรัชสมัยรัชกาลที่ 1

ชาวบ้านที่เป็นผู้ชายได้ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร เหลือแต่ผู้หญิงและคนชรา เมื่อทหารพม่าเดินทัพผ่านมา พยายามเข้าตีเพื่อยึดเอาเสบียงอาหาร แต่ชาวบ้านทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจหยิบอาวุธเท่าที่พอจะหาได้ ออกไปต่อสู้กับทหารพม่าอย่างกล้าหาญ และเอาชนะทหารพม่าได้ หมู่บ้านแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า “หมู่บ้านสาวกล้า” ตามวีรกรรมอย่างกล้าหาญของผู้หญิงในหมู่บ้านนี้ ก่อนที่จะเพี้ยนมาเป็น “หมู่บ้านสาขลา” เช่นในปัจจุบันคนเฒ่าคนแก่แถวนั้นเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตว่า เมื่อคืนวันที่ 6 มกราคม 2526  เวลาประมาณ 21.00 น.ได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ในหมู่บ้าน ชาวบ้านต่างช่วยกันดับไฟ แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก พายุเพลิงได้ลุกโหมกระหน่ำไม่หยุดหย่อน จนเกินความสามารถของชาวบ้านในขณะนั้นได้เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นมา เมื่อชาวบ้านที่ออกไปหาปูปลาไม่ไกลจากหมู่บ้าน ได้เห็นสิ่งอัศจรรย์ เมื่อหลวงพ่อโตยืนเอาจีวรโบกไฟที่กำลังโหมไหม้ จนค่อยๆ ดับลง พร้อมกับได้ยินเสียงสวดมนต์อย่างต่อเนื่องพอรุ่งเช้า ชาวบ้านทราบข่าวว่า มีคนเห็นองค์หลวงพ่อโตช่วยดับไฟ ทุกคนจึงแห่ไปดูที่วัด และต้องตกตะลึง บางคนถึงกับร้องไห้ เมื่อเห็นว่าองค์หลวงพ่อโต ดำไปด้วยเขม่าทั้งองค์ ผ้าที่ห่มกรอบไหม้ ใบหน้าของท่านมีร่องรอยเหมือนน้ำตาไหลชาวบ้านจึงพร้อมใจกันทำบุญให้หลวงพ่อโต ทุกวันที่ 6 มกราคม ของทุกปี จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านถึงทุกวันนี้ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ 40 ที่ทางวัดสาขลาพร้อมชาวบ้านร่วมกันจัดงาน

กัลยกฤษย์  ธนาวัฒน์ชัยกุล / สมุทรปราการ