In Bangkok

ผู้ว่ากทม.สัญจรคลองสามวามอบนโยบาย จัดสรรทรัพยากรและงบให้สอดคล้อง



กรุงเทพฯ-ผู้ว่าฯ สัญจรคลองสามวา เขตที่ประชากรมากที่สุด  มอบนโยบายจัดสรรทรัพยากรและงบประมาณให้สอดคล้องกับจำนวนประชาชน

“เขตคลองสามวาเป็นเขตที่มีประชากรมากที่สุดใน 50 เขต และมีหมู่บ้านจัดสรรเพิ่มขึ้นเกือบ 100% ปัญหาหลักของพื้นที่คือถนน เนื่องจากมีถนนจำนวนมาก เป็นถนนเส้นหลัก 9 เส้น ถนนเส้นรอง 6 เส้น และ 394 ซอย บางแห่งมีสภาพชำรุดทรุดโทรมจากการเกิดน้ำท่วม ถนนจึงเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ของคลองสามวา ถัดมาคือเรื่องของประชากรกว่า 210,000 คน ทำให้การให้บริการของฝ่ายทะเบียนมีความหนาแน่น อีกทั้งยังมีประชาชนพื้นที่ใกล้เคียงมาใช้บริการจำนวนมาก โดยเฉลี่ยมีประชาชนมาต่อคิวใช้บริการทำบัตรประชาชนวันละ 140 คน จึงได้กำชับให้มีการปรับปรุงการให้บริการตรงนี้ด้วย” 

“นอกจากนี้ การที่เขตมีจำนวนประชากรมากแต่งบประมาณที่ได้มีจำกัด จึงต้องพิจารณาจัดสรรทรัพยากรให้แก่เขตเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วย ในเรื่องของการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ ในพื้นที่เขตคลองสามวามีรถไฟฟ้าสายสีชมพู แต่การเชื่อมต่อระบบยังไม่ดีเท่าที่ควร จึงอาจจะนำระบบของ Feeder มาใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว การดำเนินโครงการสวนสาธารณะซึ่งพบว่าในพื้นที่มีสวนขนาดใหญ่ 3 แห่ง แต่ตั้งอยู่ในแขวงที่อาจไม่มีประชาชนอาศัยอยู่มาก จึงได้สั่งการให้เขตเร่งจัดหาสวนในพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่จำนวนมากเพิ่มเติม สำหรับปัญหาไฟฟ้าส่องสว่างดับกว่า 800 ดวง ก็ได้กำชับให้ประสานการไฟฟ้านครหลวงเร่งแก้ไขโดยเร่งด่วนแล้ว ทั้งนี้พบว่าพื้นที่เขตคลองสามวาเป็นพื้นที่ที่มีอัตลักษณ์ มีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก มีการผสมผสานกันระหว่างเมืองและชนบท ซึ่งในอนาคตอาจจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองก็ได้”

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารเขตคลองสามวา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในกิจกรรม “ผู้ว่าฯ สัญจร” เขตคลองสามวา วันนี้ (7 ม.ค. 66)

● ชี้แจงการจัดสรรงบประมาณดำเนินโครงการดนตรีในสวน

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีงบประมาณที่ใช้ในการจัดดนตรีในสวนของกทม. ว่าโครงการดนตรีในสวนกรุงเทพมหานคร ใช้งบประมาณ 8.9 ล้านบาท เป็นงบประมาณสำหรับทั้งปี มีการจัดซื้อจัดจ้างถูกต้อง  ซึ่งกิจกรรมที่จัดเป็นการแสดงของวงดนตรีเล็ก ๆ ลักษณะของการเปิดหมวก และมีศิลปินจากค่ายเพลง ที่ให้ความอนุเคราะห์เข้าร่วมการแสดง ซึ่งเหตุผลที่ต้องมีการจ้างศิลปินมาร่วมการแสดงดนตรี เพราะวงดนตรีขนาดเล็ก วงเยาวชน อาจจะไม่มีชื่อเสียงหรือผู้ติดตามเพียงพอ การที่มีศิลปินเข้าร่วมการแสดงจะเป็นแรงดึงดูดให้ผู้ชมเข้ามาร่วมชมการแสดงดนตรีและได้ชมการแสดงดนตรีของเยาวชนและประชาชนด้วย 

“ต่อไปเราจะมีกิจกรรมเปิดหมวกเพิ่มเติมบริเวณพื้นที่ MRT ของเขตปทุมวัน 5 จุด ซึ่งในอนาคตเรามีอาจมีนักดนตรีที่มาจากกิจกรรมเปิดหมวกก็ได้” รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าว

● เร่งปรับภาพลักษณ์จุดผ่อนผัน หลังเปิดเมือง

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวถึงปัญหาหาบเร่-แผงลอย ว่า  เมื่อเมืองเปิด โควิดหาย คนก็ออกมาทำงานปกติ นักท่องเที่ยวกลับมาเยอะ จุดผ่อนผันเดิมที่มีอยู่ต้องจัดระเบียบและปรับภาพลักษณ์ให้สวยงาม นอกจุดผ่อนผันก็ต้องดูแลไม่ให้กีดขวาง นโยบายเรายังไม่ได้อนุญาตเพิ่มเติม แต่หลังจากเปิดเมืองก็อยากให้เศรษฐกิจไปได้ ตรงไหนผลักดันให้เข้าไปอยู่ในซอยได้ก็ต้องเร่งทำให้เรียบร้อย เราก็เห็นใจอยากให้ชีวิตคนที่ยากลำบากเดินต่อไปได้และไม่เบียดบังคนอื่น

จากนั้นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารเขตคลองสามวา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมลงพื้นที่พูดคุยและรับฟังปัญหาจากประชาชนในจุดต่าง ๆ ดังนี้  ปัญหาจราจรติดขัดสะสมหนาแน่น บริเวณถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง (กีบหมู)  ปัญหาในชุมชนเมืองประชา-รามอินทรา ถนนหทัยราษฎร์ 35 ยังไม่ได้ยกเป็นทางสาธารณะประโยชน์  ปัญหาถนนมีสภาพชำรุดเสียหาย บริเวณชุมชนริมคลองหนองระแหง ถนนหนองระแหง  นอกจากนี้คณะผู้บริหารกทม.ยังได้ติดตามภาพรวมการดำเนินการก่อสร้างรพ.คลองสามวา ถนนไมตรีจิตร และการพัฒนาพื้นที่ว่างเปล่า ขนาด 3 ไร่ 3 งาน เป็นสวนสาธารณะ ตามนโยบายสวน 15 นาที พร้อมร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ บริเวณถนนราษฎร์ร่วมใจ (ประชาร่วมใจ 62)

สำหรับกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจร ในวันนี้มีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นางสาวนฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตคลองสามวา นายพันธ์ศักดิ์ เจริญสุข ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตคลองสามวา สถานีตำรวจในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรม