In Thailand

น่าเอ็นดูสาวน้อย6ขวบเฝ้าดูแลพี่สาวสมองบวมพิการไม่ห่าง



ราชบุรี-น้องแพรสาวน้อยวัย 6 ขวบ ชาวปากท่อ สุดน่ารัก เฝ้าดูแลพี่สาวที่ป่วยพิการสมองบวม ลั่น"หนูรักพี่สาวคนนี้มาก ไม่ให้ใครเอาไปไหน ขอเป็นหมอจะได้มารักษาพี่สาว

วันเด็กวันนี้จะพาท่านผู้ชม ไปพบกับเรื่องราวความน่าประทับใจ ของหนูน้อยวัย 6 ขวบ ที่ช่าวยเหลือทางบ้านและดูแลพี่สาววัย 9 ขวบ ซึ่งป่วยสมองบวมจนพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ตั้งแต่อายุ 3 เดือน อย่างใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 133 หมู่ 2 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ นายสมิง อายุ 45 ปี และน.ส.สุรวดี อายุ 48 ปี นามสกุลพลศักดิ์ สองสามีภรรยาที่มีลูกสาวถึง 4 คน คือ ด.ญ.โมรียาห์ หรือ น้องโยเอล อายุ 14 ปี, ด.ญ ชนินาถ หรือ น้องโยอาร์ อายุ 11 ปี, ด.ญ.เอสรา หรือ น้องเอส อายุ 9 ปี และด.ญ ยศวดี หรือ น้องแพร อายุ 6 ปี

ซึ่ง ด.ญ.เอสรา หรือ น้องเอส นั้นป่วยเป็นโรคสมองบวมตั้งแต่อายุ 3 เดือน จนทำให้พิการศรีษะโต แขนขาลีบ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยพ่อแม่และครอบครัวต้องเฝ้าดูแล และรักษาอาการอย่างใกล้ชิดมาตลอด 9 ปี ไม่เว้นแม้แต่ น้องแพร สาวน้อยวัย 6 ขวบ ซึ่งทุกวันหลังกลับมาจากเรียนหนังสือ น้องจะเฝ้าคอยช่วยดูแลพี่สาวด้วยความรักและความผูกพัน แต่ตั้งเช็ดเนื้อเช็ดตัว ป้อนอาหาร เปลี่ยนผ้าแพมเพริสให้พี่่สาวทุกวัน แถมน้องยังยืนยันไม่ยอมให้ใครมานำพี่สาวไปอยู่ที่อื่น และห้ามไม่ให้ใครพูดว่าพี่สาวเธอพิการ โดยน้องช่วยเหลืองานทางบ้านทุกอย่างเหมือนพี่สาวอีก 2 คน พร้อมประกาศตัวเองว่า จะเป็นหมอให้ได้ จะได้กลับมารักษาพี่สาวที่พิการให้หายป่วยเป็นปกติ

น.ส.สุรวดี แม่ของน้องแพร เปิดใจว่า ครอบครัวของเธอมีฐานะยากจนหาเช้ากินค่ำ ซึ่ง น้องเอส พี่สาวของ น้องแพร ป่วยเป็นโรคสมองบวมตั้งแต่อายุ 3 เดือน ตั้งแต่น้องแพรยังไม่เกิด หลังน้องแพรเกิดและจำความได้ เห็นพี่สาวนอนป่วยจนพ่อแม่และพี่ๆช่วยกันดูแล ทำให้น้องขอดูแลพี่สาวบ้าง จนทุกวันนี้หลังน้องกลับมาจากโรงเรียนจะเป็นคนดูแลพี่สาว ทั้งเช็ดตัว ป้อนน้ำ ป้อนยา ป้อนอาหาร บางครั้งจะเปลี่ยนแพมเพริสให้ด้วย และนอนกอดนอนหอม ชวนพี่สาวคุยอยู่แบบนั้นทุกวัน

เธอยอมรับว่า น้องแพร รักและผูกพันกับพี่สาวคนนี้มาก เคยมีคนขอเอาน้องเอสไปอยู่ด้วย เพราะสงสารทางบ้านกลัวดูแลไม่ไหว แต่น้องแพรร้องลั่นและบอกว่า ไม่ยอมให้ใครเอาพี่สาวไปไหน จะขอเป็นคนดูแลเอง ทั้งพูดอยู่เสมอว่า น้องจะเป็นหมอให้ได้ เพื่อจะได้รักษาพี่สาวให้หายกลับมาปกติ ซึ่งครอบครัวเธอฐานะยากจน ลูกๆทุกคนจึงต้องช่วยเหลือทางบ้านทำงานกันหมด แม้แต่น้องแพรก็เช่นกัน ถึงแม้จะดูแลพี่สาวและน้องต้องช่วยเหลือทางบ้านทำงานทุกอย่างอีกด้วย

น.ส.สุรวดี ผู้เป็นแม่ยังเปิดใจทั้งน้ำตาอีกว่า เธอยอมรับว่า สงสาร น้องเอส ซึ่งป่วยพิการมาตั้งแต่เด็ก จนเคยคิดกับสามีพาลูกสาวที่ป่วยลาโลกไป แต่เห็นลูกสาวอีก 3 คน ที่ค่อยช่วยเหลือพ่อแม่ทุกอย่าง ก็ทำให้เลิกความคิดนั้นไป และตั้งใจจะดูแลลูกสาวที่ป่วยให้ถึงที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาเธอต้องพา น้องเอส ไปหาหมอที่รพ.ราชบุรี เดือนละครั้ง เพราะคุณหมอต้องดูแลอาการอย่างใกล้ชิด จนกว่าน้องอายุ 10 ขวบ ทางรพ.จะเปลี่ยนท่อที่เคยผ่าตัดใส่อยู่ในศีรษะให้ใหม่

ซึ่งการดูแล น้องเอส ทำให้เธอทำงานหาเงินเข้าบ้านไม่ได้มากนัก จนเป็นสามีจึงเป็นเสาหลักในการหาเงินเข้าบ้าน ส่วนจะทำงานเล็กๆน้อยๆภายในบ้าน และจะแบ่งหน้าที่ให้ลูกสาวให้รับผิดชอบช่วยเหลือทางบ้านทุกคน ที่ผ่านมาครอบครัวเธอ มีภาระค่าใช้จ่ายเป็น ค่านมผง, แพมเพริส, ค่าไฟค่าน้ำ และค่าใช้จ่ายทั้งบ้านละเดือนเกือบหมื่นบาท แต่มีรายได้จากการทำสวน, เบี้ยคนพิการ และบัตรสวัสดิการแห่ง รวมไม่เกิน 9,000 บาท ซึ่งแต่ละเดือนเธอต้องวางแผนใช้จ่ายแบบประหยัดสุดๆ บางครั้งต้องตัดใจไม่ใส่แพมเพริสให้น้องเอส เพื่อที่จะได้ช่วยประหยัดอีกทาง 

ที่ผ่านมาทาง นายอำเภอปากท่อ ได้เข้าดูแลและให้ทางอบต.และอสม.เข้ามาดูแลช่วยเหลือ แต่ก็ช่วยได้เพียงเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่ทำให้ครอบครัวเธอไม่มีเงินเพียงพอในการดูแลครอบครัว จึงทำให้ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากมากขึ้น เธอจึงอยากมีอาชีพเสริมที่สามารถทำที่บ้านได้ เพื่อจะหารายได้เพิ่มมาเลี้ยงครอบครัว ช่วยการช่วยเหลือเธออยากได้เพียร แพมเพริส, นมผง หรือสิ่งของที่จำเป็นในการดูแลน้องเอสเท่านั้น สามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 062-5843391 น.ส.สุรวดี แม่น้องเอส

สุจินต์ นฤภัย / ราชบุรี