In Thailand
ครูอำเภอปรางค์กู่ขอของขวัญวันครูจากส.ส.สว.
ศรีสะเกษ-ที่สนามโรงเรียนปรางค์กู่ ครูอำเภอปรางค์กู่ ขอของขวัญวันครู จาก ส.ส. สว. และประธานรัฐสภา ไม่เอาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ฉบับกำลังพิจารณา โดยไม่ให้ผ่านร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ วันที่ 15 มกราคม 2566 ที่สนามโรงเรียนปรางค์กู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ว่าที่ร้อยตรี สำรวย บุญจอม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาวันครู อำเภอปรางค์กู่ เพื่อส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้มีการออกกำลังกาย เสริมสร้างการทางานเป็นทีม สร้างความรักความสามัคคีในหมู่คณะ มีความเป็นระเบียบวินัย และการมีน้ำใจเป็นนักกีฬา โดยได้มีการเดินขบวนนักกีฬาไปตามถนนในตัวอำเภอปรางค์กู่ก่อนที่จะเข้าสนามโรงเรียนปรางค์กู่ที่จัดการแข่งขัน นายสุทัศน์ บุญจอม นายกสมาคมครูและผู้บริหารสถานศึกษาอำเภอปรางค์กู่ กล่าวรายงาน
โอกาสนี้ กลุ่มสมาชิกสมาคมครูและผู้บริหารสถานศึกษาอำเภอปรางค์กู่ ได้ร่วมเดินขบวนโดยถือป้ายข้อความคัดค้าน พรบ.การศึกษาแห่งชาติ โดยขอเป็นของขวัญวันครู จาก ส.ส. สว. และประธานรัฐสภา ไม่ให้นำเอาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.... (ฉบับกำลังพิจารณาอยู่ในสภา) เข้าสู่การพิจารณาในสภา
นายสุนทร คำเสียง ที่ปรึกษาสมาคมครูและผู้บริหารสถานศึกษาอำเภอปรางค์กู่ ได้อ่านแถลงการณ์ของสมาคมฯ ว่า จากการที่รัฐสภามีการนำเข้าและพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ...(ฉบับผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการวิสามัญฯ) เริ่มพิจารณามาตรตราแรกเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 สมาคมผู้บริหารและครูอำเภอปรางค์กู่ พร้อมพี่น้องเพื่อนครู ได้ติดตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาโดยตลอด และเห็นว่าพ.ร.บ.การศึกษาฉบับนี้ ไม่ส่งผลต่อโอกาสทางการศึกษาที่จะพัฒนาประเทศ และไม่ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พ.ร.บ.ฉบับนี้จะสร้างความแตกแยก มากกว่าการสร้างความสามัคคีสงบสุขของคนในชาติ ดังสาระที่ปรากฏในมาตราต่างๆ ดังนี้ 1.พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ให้ครูเป็นวิชาชีพวิชาชีพชั้นสูง และไม่ใช่วิชาชีพควบคุม ต่างจากพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 เพราะให้บุคคลธรรมดา ใครก็จัดการศึกษาได้ ตามมาตรา 11, 13, 4 (9) และมาตรา 48 วรรค 2
2.ไม่ให้รัฐจัดการศึกษาภาคบังคับตามมาตรา 48 และมาตรา 11 ข้าราชการครูผู้จัดการศึกษา ทั้งผู้สอนและผู้บริหาร สถานศึกษาปฐมวัย ประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นของรัฐ จะต้องถูกให้ออกจากราชการในไม่ช้าในที่สุด
3.เด็กนักเรียนบ้านนอกยากจนด้อยโอกาสขาดแคลนทั่วประเทศ หมื่นกว่าโรงเรียนต้องออกเดินทางไปเรียนโรงเรียนที่อยู่หมู่บ้านอื่นตามมาตรา 14 (9) เด็กๆจะออกกลางคันไม่จบการศึกษาภาคบังคับเป็นจำนวนมาก
4.ไม่ส่งเสริมผู้เรียนสู่สัมมาชีพที่ตนถนัด บังคับให้เด็กๆเรียนเหมือนกัน เรียนอย่างเดียวกัน และเรียนเท่าๆ กันเพื่อให้เป็นคนมีคุณภาพเหมือนๆกัน ตามมาตรา 8 และมาตรา 58 เป็นต้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับโลกยุค AI
5. พ.ร.บ.ฉบับนี้เปิดช่องทางให้มีการบ่อนเซาะทำลายความมั่นคงของชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 6, 11, 13, 14 และ 48 ซึ่งทหาร ตำรวจและข้าราชการคงยากจะรับมือไหวในอนาคตอีกไม่กี่ปีนี้ 6.ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับนี้เป็นเผด็จการรวบอำนาจการบริหารเข้าสู่ส่วนกลางมากที่สุด มากกว่าพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่เคยใช้มา สมาคมครูและผู้บริหารสถานศึกษาอำเภอปรางค์กู่ พร้อมพี่น้องผู้ประกอบวิชาชีพครู ทั้งอำเภอ จึงร่วมกันแสดงพลังพร้อมกันในวันสำคัญ วันครูแห่งชาติ ประจำปี 2566 ขอประกาศว่า พวกเราไม่รับ ไม่เอา ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.ฉบับที่กำลังพิจารณาอยู่ในสภาขณะนี้ และขอเรียกร้องให้ ท่าน ส.ส. สว. และประธานรัฐสภา โปรดให้ของขวัญวันครูแก่พี่น้องครูทั้งประเทศ โดยไม่ให้ผ่านร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้
ศรีสะเกษ / รายงาน