In Global
รายงานเผยจีนได้ครองเทคโนโลยีสีเขียว ขับเคลื่อนพลังงานสะอาดโลก
China Media Group (CMG) สื่อหลักของจีน รายงาน จีนก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตและการส่งออกเทคโนโลยีจำนวนมากที่โลกต้องการเพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษทั่วโลก ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในข้อค้นพบในรายงานฉบับใหม่ขององค์กรพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ซึ่งระบุว่าจีนเป็นผู้นำด้านการผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ กังหันลม แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) อิเล็กโทรไลต์ (Electrolyzer) และปั๊มความร้อน (Heat pump)
IEA เป็นองค์กรที่ให้คำแนะนำด้านนโยบาย การวิเคราะห์ และข้อมูลเกี่ยวกับภาคพลังงานทั่วโลกทั้งหมด และรายงานดังกล่าวให้เครดิตจีนในการลดต้นทุนของการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดทั่วโลก
รายงานดังกล่าว ระบุ "การลงทุนของจีนในห่วงโซ่อุปทานพลังงานสะอาดมีส่วนสำคัญในการลดต้นทุนทั่วโลกสำหรับเทคโนโลยีหลัก พร้อมมอบประโยชน์มากมายสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด และในขณะเดียวกัน ระดับการกระจุกตัวในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกยังสร้างความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นซึ่งรัฐบาลต่างๆจำเป็นต้องแก้ไข"
ในรายงานกล่าวถึงสถานการณ์เซลล์แสงอาทิตย์ของโลก เผยว่า หนึ่งในสี่ของโครงการการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ทั่วโลก กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างหรือกำลังเริ่มก่อสร้างในเร็วๆ นี้ และ สัดส่วนสูงที่สุดอยู่ในจีน ซึ่ง 25% ของโซลาร์เซลล์ทั้งหมดและ 45% ของการผลิตแบตเตอรี่อยู่ในขั้นตอนขั้นสูงของการดำเนินการดังกล่าวแล้ว"
ในทางตรงกันข้าม ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป มีโรงงานแบตเตอรี่และอิเล็กโทรไลเซอร์น้อยกว่า 20% ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
แผงเซลล์แสงอาทิตย์ราวครึ่งหนึ่งที่ผลิตในจีนส่งออกไปยังยุโรปและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นหลัก
รายงานยังพบว่า "หากทุกโครงการที่ประกาศออกมาแล้ว ที่มีจุดประสงค์เพื่อขยายกำลังการผลิต เกิดขึ้นจริงและทุกประเทศปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาด้านสภาพอากาศที่ประกาศไว้ จีนเพียงแห่งเดียวจะสามารถจัดสรรแผงโซลาร์เซลล์ให้กับตลาดโลกทั้งหมดได้ ในปี 2573"
สำหรับกังหันลม พบว่า ต้นทุนของกังหันลมนอกประเทศจีนเพิ่มสูงขึ้น โดยราคาของปัจจัยการผลิต เช่น เหล็กและทองแดงเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในสองปี
ในรายงาน พบว่าจีนครอง 60% ของกำลังการผลิตกังหันทั่วโลก และครึ่งหนึ่งของการส่งออกทั้งหมด โดยส่วนใหญ่ส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียและยุโรป
สถานการณ์คล้ายกันสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยยุโรปนำเข้าแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 25% จากจีน
ขณะที่อิเล็กโทรไลต์ ส่วนสำคัญ ซึ่งใช้ในการผลิตไฮโดรเจนสำหรับเซลล์เชื้อเพลิง คาดว่า จีนจะเป็นประเทศที่สามารถจัดสรรอิเล็กโทรไลต์ 1 ใน 3 ของทั้งหมดในโลก
ด้านปั๊มความร้อน อีกหนึ่งในทางเลือกของพลังงานสะอาด พบว่า ส่วนแบ่งการค้าระหว่างประเทศในการผลิตปั๊มความร้อนทั่วโลกต่ำกว่าร้อยละ 10 โดยส่วนใหญ่มาจากจีน
ในบทสรุปของรายงานพบว่าโอกาสในตลาดโลกสำหรับเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่ผลิตจำนวนมากจะมีมูลค่าประมาณ 6.5 แสนล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2573 ซึ่งมากกว่าระดับปัจจุบันถึงสามเท่า หากประเทศต่างๆ ทั่วโลกปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาด้านพลังงานและสภาพอากาศที่ประกาศไว้อย่างเต็มที่
งานด้านการผลิตพลังงานสะอาดที่เกี่ยวข้องจะเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าจาก 6 ล้านตำแหน่งในปัจจุบันเป็นเกือบ 14 ล้านตำแหน่งภายในปี 2573 โดยกว่าครึ่งหนึ่งของงานเหล่านี้เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า เซลล์แสงอาทิตย์ ลม และปั๊มความร้อน
"เมื่อการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานสะอาดก้าวไปไกลกว่าปี 2030 สิ่งนี้จะนำไปสู่การเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมและการจ้างงาน" รายงานสรุป
---------------------------
แหล่งข้อมูล:
https://newseu.cgtn.com/news/2023-01-12/China-dominating-green-technologies-says-IEA-intergovernmental-report-1gxtXtKg5So/index.html?fbclid=IwAR1Z7YwgsAmNhlVz9QePDn2fq5j3qKnpqMyl5g6CxGAbA-By7Ww8EsR-4z4
https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fnihaosawadeemedia%2Fposts%2Fpfbid034tANgMu9sUVyYp4w85hjodXRJZuKubrZWa2YP4U7aaRXdCrAbThj46pBR6LbiWqvl&show_text=true&width=500
#จีน #โลก #พลังงาน #พลังงานสะอาด #พลังงานใหม่ #เทคโนโลยี #สีเขียว #เทคโนโลยีสีเขียว #cctv #cgtn #cmg