In Thailand

'ราชทัณฑ์'ร่วมเวทีเสวนาป้องกันทำผิดซ้ำ ในความผิดเกี่ยวกับเพศ-ใช้ความรุนแรง



กรุงเทพฯ-เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 เวลา 09.00 นาฬิกา นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ฝ่ายปฏิบัติการร่วมประชุมเสวนาทางวิชาการและนิทรรศการเรื่องการป้องกันการกระทำผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือใช้ความรุนแรง โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง  , นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง,ผศ.นพ. เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการสาธารณสุขวุฒิสภาคนที่หนึ่ง และกรรมการในคณะกรรมการวิจัยและพัฒนาของวุฒิสภา , นายกุญช์ฐาน์  ทัดทูน อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด , นพ.ณัฐกร จำปาทอง ผู้อำนวยการสถาบันกัลป์ยาณ์ราชนครินทร์ , รศ.ดร ปกป้อง ศรีสนิท คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ ร่วมการเสวนาฯ ดังกล่าว ในการนี้ได้รับเกียรติจากนางสาวณัฐธ์ภัสส์  ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พูดปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงยุติธรรรมในการสร้างสังคมปลอดภัย” อีกด้วย ณ ห้องประชุม 402 – 403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา)

นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า บทบาทและหน้าที่ในการใช้มาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด กำหนดให้มีมาตรการหลัก 2 มาตรการ คือ มาตรการทางการแพทย์ และ มาตรการอื่นใดที่รัฐมนตรีกำหนด ได้แก่ มาตรการพัฒนาพฤตินิสัย โดยมาตรการทางการแพทย์ เริ่มตั้งแต่การบำบัดด้วยยาหรือสารเคมี เช่น การบำบัดผู้กระทำผิดคดีทางเพศด้วยการฉีดฮอร์โมน เพื่อลดความต้องการทางเพศ ไปจนกระทั่งไปถึงการบำบัดที่ไม่ใช่ยา เช่น การบำบัดทางพฤติกรรมหรือทางจิตที่ดำเนินการโดยบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปแบบของกลุ่มบำบัด (Group Therapy) ด้วยโปรแกรม CBT (Cognitive-behavior Therapy) เป็นต้น ดังนั้น เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงมีหน้าที่ดำเนินการตามใบสั่งของแพทย์ เช่น การให้กินยาตามกำหนด  การรับ-ส่ง ผู้ต้องขังไปยังสถานบำบัด ในกรณีที่ต้องรับการรักษาภายนอก รวมไปถึงการเก็บบันทึกผลการบำบัดรักษาของผู้ต้องขังเพื่อรายงานผลการบำบัดรักษาให้อัยการรับทราบอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง นอกจากนี้ ยังมีมาตรการการพัฒนาพฤตินิสัยที่เป็นหลักสูตรหรือโปรแกรมพัฒนาพฤตินิสัย ดังนั้น บทบาทหน้าที่สำคัญของกรมราชทัณฑ์ คือ เรือนจำ/ทัณฑสถาน คัดกรองผู้ต้องขังที่มีพฤติการณ์แห่งคดีโทษอย่างรุนแรง เสี่ยงในการกระทำผิดซ้ำ และอาจมีโอกาสกลับไปทำร้ายสังคมได้อีก จัดทำรายงานการจำแนกลักษณะของนักโทษเด็ดขาด เสนอมาตรการเฝ้าระวัง หรือมาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ หรือทั้ง 2 มาตรการร่วมกัน และส่งรายงานให้คณะกรรมการตาม มาตรา 16 พิจารณา เพื่อเสนออัยการ และศาลต่อไป

นายณรงคฯกล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการคุมขังผู้กระทำผิดภายหลังพ้นโทษ เป็นมาตรการที่มีความเข้มงวดที่สุด ถึงจำเป็นต้องสั่งให้ใช้มาตรการดังกล่าวกับผู้พ้นโทษที่กระทำผิดในลักษณะรุนแรง โหดร้าย ทารุณกรมราชทัณฑ์ พร้อมร่วมขับเคลื่อนพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง (JSOC) เพื่อสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นร่วมกันในสังคม