สาวใหญ่เบื่อโรครุมประชดชีวิตผูกคอตาย

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 - 10:13 น.

---

แพร่-หญิงวัย45ปีประชดชีวิตผูกคอหนีโรคร้ายทิ้งลูกน้อย3คนที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูงชั้นเดียวเลขที่127/1หมู่10ต.ป่าสักอ.วังชิ้นจ.แพร่

เมื่อเช้าวันนี้13ก.พ.64เวลา18.00น.ร.ต.อ.อรรถพลเรือนคำรองสารวัตรสอบสวนสภ.สรอยปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรสอบสวนได้รับแจ้งจากนายสฤษดิ์ชัยชนะผญบ.แม่กระต๋อมหมู่10ต.ป่าสักอ.วังชิ้นจ.แพร่ว่ามีลูกบ้านได้อัตตะวิบากกรรม(ใช้เชือกผูกคอเสียชีวิต)จึงได้แจ้งให้พ.ต.ท.ชาญวิทย์ทนันชัยสว.สภ.สรอยผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นจากนั้นได้แจ้งร.ต.อ.สมเกียรติแก้วการมูลรองสวป.ร.ต.อ.สุรจิตนันต๊ะยศรองสว.สส.พร้อมด้วยชุดสืบสวนนำอุปกรณ์พิสูจน์หลักฐานไปที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูงชั้นเดียวเลขที่127/1หมู่10ต.ป่าสักอ.วังชิ้นจ.แพร่พบนางเอ้ยปวดสายอายุ74ปีผู้เป็นแม่ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปบนบ้านบอกว่าผู้เสียชีวิตเป็นลูกสาวชื่อว่านางสิลินทิพย์ปวนสายอายุ45ปีอยู่บ้านเลขที่เดียวกันสวมเสื้อยืดสีม่วงมีตัวหนังสือติดหน้าอกเสื้อว่าherforeveกางเกงวอร์มขายาวสีดำใช้เชือกในล่อนสีน้ำเงินผูกคอตัวเองติดเสากลางบ้านลักษณะศพนั่งคุกเข่าตัวยังอ่อนอยู่จึงได้นำศพไปตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอำเภอวังชิ้นแพทย์ลงความเห็นสาเหตุการเสียชมีวิตมาจากเชือกผูกคอรัดหลอดลมทำให้ขาดอากาศหายใจตรวจทั่วร่างกายแล้วไม่มีร่องรอยการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใดได้สอบทางญาติแล้วไม่ติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิตดังกล่าวจึงได้มอบศพให้ทางญาติไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

จากนั้นนางเอ้ยปวนสายแม่ผู้เสียชีวิตเล่าถึงสาเหตุที่ลูกผูกคอเสียชีวิตครั้งนี้ว่าลูกสาวได้แต่งงานมีสามีมาแล้ว3คนมีลูกสามคนต่อมาผู้เสียชีวิตเป็นโรคมะเร็งบริเวณหลังได้ผ่าตัดที่กรุงเทพฯมาหลายปีแต่ยังไม่หายขาดทำให้ผู้เสียชีวิตคิดมากเคยคิดฆ่าตัวเองหลายครั้งแต่มีคนเห็นและช่วยเหลือรอดชีวิตมาได้ทุกครั้งจากนั้นจึงได้กลับบ้านเครียดถึงปัญหาชีวิตที่ไม่ประสพความสำเร็จแถมยังมีโรคประจำตัวที่ทรมานมาหลายปีจึงได้ดื่มเหล้าเมาทำลายข้าวของบ่นว่าอยากตายตอนนี้ลูกก็โตหมดแล้วไม่ห่วงอะไรแล้ว

ทางพ่อแม่และพี่ๆก็ได้ปลอบใจแล้วก็ลงมาอยู่ใต้ถุนบ้านปล่อยให้ผู้ตายบ่นอยู่คนเดียวจากนั้นเสียงบ่นก็เงียบไปจึงได้ขึ้นไปดูปรากฎว่านางสิลินทิพย์หรือกลิ้งได้ผูกคอตัวเองเสียชีวิตแล้วจึงได้โทรศัพท์แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสรอย(สักรอย)ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย

กัญญสร ถิ่นทิพย์/แพร่