Travel & Entertain

'เกาะสมุย'เรือสำราญจองคิวเยือนยาว3ปี เกือบ100ลำจี้รัฐเร่งสร้างท่าเรือรองรับ



สุราษฏร์ธานี-เกาะสมุยฮอต เรือสำราญจองคิวเยือนล่วงหน้า 3 ปีเกือบ 100 ลำ จี้รัฐเร่งสร้างท่าเรือรองรับได้แล้วคาดมีท่าเรือสะดวก จะดึงเรือสำราญเข้าเทียบปีละ 100 ลำ คืนทุนภายใน 10 ปีสร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสถานการณ์ท่องเที่ยวฟื้นตัวปรากฎว่า ได้มีเรือสำราญจากต่างประเทศเดินทางเข้าเทียบอ่าวเกาะสมุยอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 มีกำหนดเข้ามาจำนวนทั้งหมด 32 ลำจากสิงคโปร์  ฮ่องกง แอฟริกาใต้ ญี่ปุ่น อังกฤษ สเปน กรีซ ศรีลังกา ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และในปี 2567 มีจองคิวกับกรมเจ้าท่า ไว้ล่วงหน้าแล้ว จำนวน 41 ลำโดยมีประเทศใหม่ๆอาทิ เวียดนาม ดูไบ อินโดนีเซีย มลรัฐฟลอริดาและไมอามมีสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ในปี 2568 มีจองล่วงหน้าอีก จำนวน 17 ลำจาก ฮ่องกง สิงคโปร์ ดูไบ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ กรีซ ญี่ปุ่น ฮาวาย ซึ่งมีบางวันเข้าพร้อมกัน 2 ลำ รวมทั้งหมดแล้ว 90 ลำ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเกาะสมุยปีละกว่าแสนคน สามารถนำรายได้เข้าประเทศมหาศาล เนื่องจากกลุ่มเรือสำราญเป็นนักท่องเที่ยวชั้นสูง และมีการใช้จ่ายสูงมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาการท่องเที่ยวเกาะสมุย ยังไม่มีท่าเทียบเรือสำราญ เพื่อรองรับให้เรือเข้าเทียบได้ จะต้องจอดลอยลำกลางทะเลใช้เรือเล็กขนถ่ายนักท่องเที่ยวขึ้นไปท่องเที่ยวบนเกาะ ซึ่งไม่สะดวกและเสียเวลามาก โดยกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้มีศึกษาความเหมาะสมโครงการก่อสร้างท่าเรือสำราญบริเวณแหลมหินคม ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย แล้ว

นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่า การสร้างท่าเทียบเรือสำราญเกาะสมุย จะทำให้เรือเข้าเทียบได้โดยตรง เที่ยวละประมาณ 3,000 คน เป็นเรื่องที่ดีต่อการท่องเที่ยวมากขึ้น จึงขอให้ภาครัฐส่งเสริมให้มีการก่อสร้างเกิดขึ้นจริง ซึ่งการทำประชาพิจารณ์ประชาชนเกาะสมุยเห็นด้วยและพร้อมสนับสนุนพื้นที่บริเวณแหลมหินคม ซึ่งจะเป็นการเกาะสมุย ครั้งสำคัญเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกรองรับเรือสำราญได้

ข่าวแจ้งว่า ช่วงปี 2563 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 มีเรือสำราญจองคิวเข้าเกาะสมุย เกือบ 70 ลำ ซึ่งหากมีท่าเทียบเรือสำราญ คาดว่าจะมีเรือสำราญสนใจเข้าเทียบปีละเกือบ 100 ลำสามารถคืนทุนก่อสร้างได้ภายใน 10 ปีและสร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาลเกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ทุกระดับ