In Thailand

ผู้ว่าฯปราจีนร่วมทหารผ่านศึกสดุดีผู้กล้า หน้าอนุสาวรีย์วีรไทยในค่ายจักรพงษ์



ปราจีนบุรี-วันทหารผ่านศึก ผู้ว่าฯร่วม-ทหาร – ทหารผ่านศึกร่วมสดุดีผู้กล้าในอดีต-ปัจจุบัน ในค่ายจักรพงษ์  ค่ายทหารจัดการรบแบบยุโรปแห่งแรกของไทย หน้าอนุสาวรีย์วีรไทย อนุสรณ์สถานทหารกล้า ของกองทัพบูรพา ซึ่งรับผิดชอบการรบด้าน ตะวันออก ต้องสูญเสียชีวิตทหารกล้า จากการปฏิบัติหน้าที่ เป็นจำนวน ๗๖๑ นาย ด้านพลเอก ประยุทธ์ “ลุงตู่”  นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกสภาทหารผ่านศึก ร่อนสารถึงทหารผ่านศึกระบุว่า ปี 2565ได้มีการปรับเพิ่มวงเงินสงเคราะห์ ให้สอดคล้องกับ ภาวะเศรษฐกิจ และค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมทั้งพัฒนา ระบบงานสงเคราะห์ ในหลายด้าน โดยการนำเทคโนโลยี สารสนเทศ มาใช้ในการให้บริการ เพื่อเป็นการยกระดับ ฐานะความเป็นอยู่ ของทหารผ่านศึก และครอบครัว ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

วันนี้ 3 ก.พ.66 สิบเอกมานิตย์   สนับบุญอดีตทหารสังกัดกองพัยทหารช่างที่ 2 รักษาพระองค์(ช.พัน2รอง)    ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า เนื่องในโอกาสวันทหารผ่านศึก นายรณรง  นครจินดา ผวจ.ปราจีนบุรี ได้เดินทางมาร่วมงานเป็นเกียรติวันทหารผ่านศึก  โดยมี พ.อ.เสกสรรค์. พรหมศักดิ์รอง  รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12เป็นประธานในพิธีพร้อมเหล่าทหารผ่านศึกผู้กล้าและแขกผู้มีเกียรติรวมกว่า 300 คน

กิจกรรมประด้วยพิธีทางสงฆ์ในการอุทิศแด่ดวงวิญญาณทหารกล้าทุกสมรภูมิทั้งในอดีต –ปัจจุบัน   การวางพวงมาลา การกล่าวสดุดี วันทหารผ่านศึก อ่านสารจากพลเอก จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกสภาทหารผ่านศึก พิธีมอบเกียรติบัตรแก่ทหารผ่านศึกพิธีสวนสนามหน้าอนุสาวรีย์ฯ 

โดยมี พ.อ.เสกสรรค์. พรหมศักดิ์รอง  รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12   (มทบ.12) ค่ายจักรพงษ์ นำกล่าว  ในฐานะผู้แทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายกสภาทหารผ่านศึก  หน้าอนุสาวรีย์วีรไทย ว่า  ....

เนื่องในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันทหารผ่านศึก และ    เป็นวันที่ระลึกถึงทหารกล้า ซึ่งอนุสาวรีย์แห่งนี้ ได้สร้าง ขึ้นมา เพื่อสดุดีทหารกล้าของชาติ ที่ได้พลีชีพ เพื่อรักษาไว้ ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันนับเป็น วีรกรรมที่ควรยกย่อง และสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง 

ท่านทั้งหลาย คงจำกันได้ว่า เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ ประเทศไทย ได้มีกรณี พิพาทเรื่องดินแดนกับกลุ่มอินโดจีนฝรั่งเศส และมีความจำเป็น ต้องเข้าร่วมรบในสงครามมหาเอเชียบูรพา ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๔๘๔ จนถึงปีพุทธศักราช ๒๔๘๘ รวมระยะเวลา เข้าสู่ สงครามประมาณ ๕ ปี 

ในการปฏิบัติราชการสงคราม ทั้งสอง ครั้งที่กล่าวมา กองทัพบูรพา ซึ่งรับผิดชอบการรบด้าน ตะวันออก ต้องสูญเสียชีวิตทหารกล้า จากการปฏิบัติหน้าที่ เป็นจำนวน ๗๖๑ นาย และได้รับการจารึกชื่อไว้ ณ อนุสาวรีย์ วีรไทยแห่งนี้ ท่านผู้กล้าหาญเหล่านี้ได้อุทิศกําลังกาย กำลังใจ และเสียสละ ความสุขส่วนตัว เข้าปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามอริราชศัตรู ที่มุ่งทำลายล้างชาติไทย จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตลง ก็เพื่อปกป้องรักษาเอกราช และความเป็นไทย ให้ดำรงอยู่อย่างมีความสุข วีรกรรมอัน ยิ่งใหญ่ ที่ท่านทั้งหลายประกอบไว้ ด้วยเลือดเนื้อและชีวิต ถือเป็นวีรกรรมอันทรงเกียรติ และมีคุณค่าอย่างยิ่ง สมควรแก่ การยกย่องสรรเสริญ และจะเป็นแบบอย่างจารึกอยู่ในความทรงจําของคนไทยทั้งชาติตลอดไป

ในโอกาสนี้ ขอให้ท่านทั้งหลาย ซึ่งมาพร้อมกัน ณ ที่นี้ได้น้อมคำนับต่อดวงวิญญาณของทหารกล้าทุกสมรภูมิรบตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และขอให้องค์พระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ได้โปรดดลบันดาลให้ดวงวิญญาณ ของทหารกล้า แม้นสถิตอยู่ ณ ทิพย์สถานวิมานใดก็ตาม จงประสบแต่ความสุขตลอดไปชั่วกาลนานเทอญ

ขอเชิญทุกท่าน กรุณาตั้งจิตให้สงบ เพื่อรำลึกถึงดวง วิญญาณ ของทหารกล้า ซึ่งได้เสียสละชีวิตเป็นชาติพลีแล้ว ณ บัดนี้

จากนั้นได้อ่านสารของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกสภาทหารผ่านศึก เนื่องในวันทหารผ่านศึก วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖  ข้อความกล่าวว่า  

...   พี่น้องทหารผ่านศึก และครอบครัวทหารผ่านศึก ที่รักทุกท่าน     เนื่องในโอกาสที่วันทหารผ่านศึก ได้เวียนมาบรรจบ ครบรอบ อีกวาระหนึ่ง ในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ศกนี้ ในฐานะ นายกรัฐมนตรี  และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกสภาทหารผ่านศึก ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดี มายังพี่น้องทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก ทหารนอก ประจำการ รวมทั้งผู้ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตย และรักษาความมั่นคงของชาติ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

พี่น้องทหารผ่านศึกที่รักทุกท่าน ในอดีตที่ผ่านมา ท่านทั้งหลายได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ปกป้องเอกราชและอธิปไตย ของชาติ ด้วยความกล้าหาญ และเสียสละ จนทำให้ประเทศไทย ของเรา คงความเป็นไทย มาได้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งนับเป็น วีรกรรมอันยิ่งใหญ่ ที่สมควรได้รับการยกย่อง และเชิดชูเกียรติ เป็นอย่างยิ่ง

ในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา องค์การสงเคราะห์ทหาร ผ่านศึก ได้มีการปรับเพิ่มวงเงินสงเคราะห์ ให้สอดคล้องกับ ภาวะเศรษฐกิจ และค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมทั้งพัฒนา ระบบงานสงเคราะห์ ในหลายด้าน โดยการนำเทคโนโลยี สารสนเทศ มาใช้ในการให้บริการ เพื่อเป็นการยกระดับ ฐานะความเป็นอยู่ ของทหารผ่านศึก และครอบครัว ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถดำรงชีพอยู่ในสังคมอย่างมี ความสุข

จากนั้นพ.อ.เสกสรรค์.พ.อ.เสกสรรค์.   ได้มอบประกาศนียบัตรดีเด่นแก่เหล่าทหารผ่านศึก ด้านต่าง ๆ   รวม 3 ประเภท ดังนี้  ประเภททหารผ่านศึกนอกประจำการบัตรชั้นที่ 1 ที่พิการทุพพลภาพหรือพิการดีเด่น  ได้รับรางวัลชมเชย ได้แก่ อส.ทพ.ประเสริฐ   ศิลาอ่อน อายุ 56 ปี ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.สระแก้ว ปัจจุบันประกอบอาชีพการเกษตรสวนผสม และเปิดร้านค้าชุมชน   ,   ประเภทเกษตรกรทหารผ่านศึกดีเด่น ได้รับรางวัลชมเชย ได้แก่ ส.ต.ประสิทธิ์ ผาวันดี อายุ ๕๙ ปี ทหารผ่านศึกนอกบัตรชั้บที่ 4  ภูมิลำเนา อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว  ประกอบอาชีพทางการเกษตรผสมผสาน  ,  ประเภททหารผ่านศึกนอกประจำการดีเด่นระดับภาคได้รับรางวัลชมเชย ได้แก่ ร.ต.สุทิน เพชรเจริญ อายุ 66 ปีทหารผ่านศึกนอกประจำการ บัตรชั้นที่ 4 ภูมิลำเนา อ.ตาพระยาจ.สระแก้ว ประกอบอาชีพทางการเกษตรผสมผสานและทำธุรกิจค้าขายอะไหล่รถยนต์

พบเหล่าทหารกล้าได้เล่าวีรกรรมและความภาคภูมิใจ  อาทิ  พันเอกชุบ ผลประเสริฐ อายุ 88 ปี  กล่าวว่า  ไปรบเวียดนามมา   โดนยิงด้วยจรวด RPG ที่แขนขวาขาด  ต่อแขนที่เวียดนาม ได้รับเหรียญมนต์ตราของอเมริกา พันเอกชุบพันเอกชุบกล่าวในที่สุด

 มานิตย์   สนับบุญ/ปราจีนบุรี