In Thailand

คืบหน้าสท.พาแม่ไปล้างแผลแต่ถูกไล่กลับบอกหมดเวลา



ปราจีนบุรี-(คืบหน้า) สท.พาแม่ไปล้างแผลแต่ถูกไล่กลับบอกหมดเวลา ซ้ำลงเฟสประจาน  ตำรวจระบุต่างฝ่ายต่างมาแจ้ง  เบื้องต้นยังไม่เข้าข่ายผิดกฏหมาย

วันนี้ 23 ก.พ.66  ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี  รายงานความคืบหน้าจากกรณีนายทศพร โสภา สมาชิกสภาเทศบาลตำบลศรีมหาโพธิ(สท.) หอบหลักฐานเป็นสำเนาที่ถ่ายจากโทรศัพท์หน้าเฟสบุกผู้ใช้ชื่อว่า Parada Kanyasiri โพสต์ว่า โคตรเกลียดเลยพาแม่มาทำแผลผ่าตัดหัวเข่านอกเวลา18.20 น.จนท.4 คนสลับกันอธิบายว่ามารับบริการ08.30- 16.00 น.แต่ไม่เข้าใจ เถียงต่อว่า จนท.มีตำแหน่งเป็นถึงสมาชิกสภาเทศบาล มีความรู้ ตาสีตาสาเค้ายังเข้าใจ กร่างสั่งให้คนโทรหาหมอปาน ผู้อำนวยการ รพ.อีก ถามว่าฉุกเฉินทำแผลไม่ได้เหรอๆๆๆ ก็ช่วยกันอธิบายว่า ฉุกฉิน เช่น เส้นเลือดหัวใจตีบ เส้นเลือดสมองแตก แต่ไม่นำพา ย้ำอีกว่า ฉุกเฉินทำไม่ได้เหรอๆๆๆๆ คนนนั้นน่ะชื่ออะไรมานี่สิๆ ออกมานี่ โอโห เทพมากอ่ะ สั่งให้ จนท.ที่อธิบายออกไปหา ลืมตัวรึป่าวว่าไม่ใช่ลูกน้องตัวเอง ไอ้ชิบ...หมอช่วยอธิบายยังไงก็ก็ยังไม่ฟัง สมองหมาปัญญาควายจริง เข้าใจอะไรยาก นี่ถ้าเป็น ผช.จะถอดเสื้อต่อยแมร่งเลย ปล.ชื่อเล่น อ.อ่าง นอกจากนี้ก็ยังมี ผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เห็นด้วยและที่เห็นใจ สท.เพราะหลายคนก็เคยโดนมาเหมือนกัน

โดยนายทศพร ได้เข้าพบ พ.ต.ท.จักรพล ใจเชื่อม สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ มอบให้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี ในฐานะที่เป็นผู้นำหรือผู้แทนชุมชน ที่ถูกดูถูกเหยียดหยามด้วยการโฆษณาในโซเชียล ทำให้ถูกดูถูกเกลียดชัง ทั้งที่ความจริงควรพูดจาดีๆหรือให้คำแนะนำ เพราะตนไม่คิดว่านอกเวลาแล้วจะล้างแผลไม่ได้ ไม่เช่นนั้นตนก็จะพาแม่ไปล้างที่ โรงพยาบาลเอกชน หรือคลินิกแทน

ซึ่งภายหลังแจ้งความลงบันทึกประจำวันแล้ว ทาง ตำรวจบอกว่า ผู้โพสต์ชื่อย่อ อ.อ่าง จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าพูดจริงหรือ ไม่ แต่กลับไม่พูดถึงชื่อของผู้ใช้เฟสที่ระบุทั้งชื่อและนามสกุล นาย ทศพร ยืนยันว่า จะไม่ยอมให้ถูกดูหมิ่นเพราะขนาดตนยังโดนขนาดนี้แล้วถ้าเป็นชาวบ้านจะเป็นยังไง

ในขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อ นายแพทย์สิริเกียรติ  เตชะมนูญ ผอ.รพ.ศรีมหาโพธิ เพื่อ สอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ไม่สามารถติดต่อได้  ตามที่ได้เสนอรายละเอียดแล้ว ก่อนหน้านี้ นั้น 

ความคืบหน้าวันนี้   ( 23 ก.พ.)    ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบนายทศพร โสภา สมาชิกสภาเทศบาลตำบลศรีมหาโพธิ(สท.) กล่าวว่า  “   ย้อนไปเมื่อวันที่ 21 ก.พ.66 ตนปฏิบัติภารกิจราชการประจำ - ช่วยเหลือชาวบ้าน  ตกเย็นพาแม่ไปล้างแผล  หลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเสื่อม เมื่ออกจาก รพ.แล้ว     คิดว่า 17.00 น.เย็นคงล้างได้   เพราะเช้าคนเยอะ   ไปแล้วเจอเวรเปล  เวรเปลให้ไปปรึกษา จนท.ดู  ได้สอบถาม จนท.บอกหมดเวลา  และตอมาผู้หญิงได้ตะโกนขึ้นมาด้วยอารมณ์ขึงขัง  ตนจึงเรียกให้ออกมาคุย ออกมานี่ ๆ  หน่อยซิ   เพื่อบันทึกภาพฟ้องร้อง   ว่ามีกริยามารยาทไม่ดี  หมอได้อธิบาย  แต่ตนไม่ได้ติดใจอะไร 

พอกลับมาบ้านได้ไปซื้อยา ร้านขายยาเอง  เพื่อมาทำแผลให้แม่  ไม่ได้ติดใจอะไร     สักพักได้มีลูกบ้านมาแจ้งบอกมีการโพสต์เฟสบุ๊คประจานตนเอง  คิดว่าตนเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลศรีมหาโพธิ (สท.)  มีคนรู้จัก  ยังทำกับตนได้ถึงขนาดนี้   ถ้าเป็นคนธรรมดา ไม่รู้หนังสือ คนสูงอายุ  จะไปต่อกรอย่างไร   ฐานะเป็นสมาชิกสภาเทศบาล ผู้นำชาวบ้าน  ได้ออกมาปกป้องสิทธิชาวบ้าน  สิทธิตนเอง –ชาวบ้าน   เพื่อให้ได้รับบริการที่ดีสมเหตุสมผล ด้วยคำพูดที่ดีกว่านี้   ไม่ใช่เอะอะก็ตะคอกๆ   เข้าใจนะครับว่าชาวบ้านเขาคงไม่มีปัญญาสู้รบ    ตนเองยังโดนขนาดนี้     ต้องรักษาเกียรติยศ  สิทธิที่ควรจะมี    เขาหมิ่นประมาทตนด้วยการลงโซเชี่ยลไปถึงเท่าไร     จริง ๆ แล้วเทศบาลกำลังยกระดับเมืองศรีมหาโพธิ เป็นนวตกรรมเมืองอัจฉริยะ ประสาน ด้านความมั่นคง  ด้านการศึกษา ด้านสาธารณะสุข   ต้องปรับปรุงเข้าถึงง่าย   ฝากสื่อมวลชนทำความเข้าใจ  ขอให้ระบบสาธารณะสุขเจริญและเข้าถึงง่าย  

คืบหน้าในวันนี้  ( 23 ก.พ.)   หลังจากตนเองได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ศรีมหาโพธิแล้ว  วานนี้ (22ก.พ.)  ตอนนี้ก็มีคุย ๆ  กันบ้าง โดยทางโรงพยาบาลติดต่อผ่านทางเพื่อนสมาชิกสภาเทศบาล (สท.)  รายละเอียดลึก ๆ ขอให้คุยกันก่อน  แล้วจะแจ้งสื่อมวลชนทราบ   ตอนนี้ขอให้ทางสมาชิกสภาเทศบาลฯ ปรึกษาหารือกันก่อน  เพราะเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องละเอียดอ่อนไปแล้ว   สาธารณะสุขต้องอบรมบุคคลากรให้ดูแลผู้ป่วยเหมือนญาติมิตร ให้ผู้ป่วยเข้าถึงบุคลากรทางการแพทย์ได้ง่าย มีความอบอุ่นปลอดภัย   นายทศพร

ด้าน พ.ต.อ.มงคล  โท้เป๋า ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ กล่าวว่า  ในเบื้องต้นนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งเรื่องราวไว้เป็นหลักฐานไว้ก่อน  แต่คู่กรณี   ต่างฝ่ายต่างมาแจ้งลงบันทึกประจำวันทั้ง 2 ฝ่าย แต่ตรวจสอบในข้อมูลเบื้องต้นแล้ว ยังไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาท ยังไม่มีใครมีความผิด  ได้ลงรับหลักฐานไว้ก่อน

ขณะที่ทางผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อกับทางโรงพยายามเพื่อให้  ได้รับรายละเอียดครบทั้ง 2 ฝ่าย แต่ไม่สามารถติดต่อผู้บริหารได้

มานิตย์   สนับบุญ / ปราจีนบุรี