In Thailand
โครงการฉีดวัคซีนป้องกันปากเท้าเปื่อยโรคลัมปีสกินให้กับโคนมและโคขุน
นครปฐม-ที่ศาลาประชาคม หมู่ที่ 4 ตำบลสวนป่าน เสธ.แก้ว ควงปั้น ณัทกร ประสานปศุสัตว์ อบต.สวนป่าน ลงพื้นที่ รับฟังวิกฤติอาชีพโคนม หวั่นสูญจากชุมชน
อาชีพการเลี้ยงโคนม ในพื้นที่ตำบลสวนป่าน อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เป็นหนึ่งในอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่มานานถึง 3 ช่วงอายุคน แต่ปัจจุบันสถานการณ์การหาเลี้ยงโคนมในได้เกิดวิกฤติปัญหาหลายด้าน ทำให้เกษตรกรในพื้นที่ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อเข้ามาแก้ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น เนื่องจากมีความกังวลว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมจะสูญหายไปจากพื้นที่ในอีกไม่นาน
ที่ศาลาประชาคม หมู่ที่ 4 ตำบลสวนป่าน อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม สำนักงานปศุสัตว์อำเภอเมืองนครปฐม ได้จัดโครงการฉีดวัคซีนป้องกันปากเท้าเปื่อย , โรคลัมปีสกิน ให้กับโคนมและโคขุน ในพื้นที่ตำบลสวนป่าน โดยมีเกษตรกรให้ความสนใจเข้ามารับวัคซีนและแจ้งความประสงค์ที่จะให้ทีมสัตวแพทย์ลงพื้นที่ทำการฉีดให้ในฟาร์ม เพื่อป้องกันโรคระบาดในพื้นที่
โดยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมได้ขอพบกับส่วนราชการ ผู้นำชุมชนเพื่อนำเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ผ่านตัวแทนและผู้นำชุมชนรวมถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยเป็นการรับฟังปัญหาจากเกษตรกรโดยตรงซึ่งมีปัญหาหลายด้านที่สะสมมานาน ทั้งในเรื่องต้นทุนในการเลี้ยงสูงขึ้นสวนทางกับราคาน้ำนมที่จำหน่ายให้กับหน่วยงานที่รับซื้อ รวมถึงการต้องปรับตัวรับกับการยกระดับมาตรฐานฟาร์มเลี้ยง เพื่อให้น้ำนมได้รับมาตรฐานในอนาคตอันใกล้ซึ่งเกษตรกรต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก
.
โดยการหารือดังกล่าว พ.ท.ดร.สินธพ แก้วพิจิตร (เสธ.แก้ว) อดีต ส.ส.นครปฐม เขต1 เป็นตัวแทนภาคเกษตรกร ซึ่งได้เชิญนายระหงษ์ แพรอัตต์ นายกอบต.สวนป่าน นายสัตวแพทย์ปรีดา ถาวรประดิษฐ์ ปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม นาย ชาญวิทย์ โสภาลดาวัลย์ ปศุสัตว์อำเภอเมืองนครปฐม และนายณัทกร (ปั้น) แก้วพิจิตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม เปิดเวทีเพื่อนำปัญหาทั้งหมดไปสู่การช่วยเหลือเกษตรกรทั้งในระยะเร่งด่วนและการวางแนวทางให้ในระยะยาว
นายเชน ดำสนิท ผู้เลียงโคนม ม.4 ต.สวนป่าน บอกว่า ช่วง2-3 ปี มีแต่กลุ่มผู้เลี้ยงที่ประกาศขายโคนม จนเกิดเป็นประเด็นว่าการเลี้ยงโคนมในพื้นที่ ตำบลสวนป่าน เด็กนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นที่ 3 จะไม่มีใครสานต่ออาชีพของรุ่นปู่ ย่า เพราะมีปัจจัยไม่เอื้อหลายอย่างทั้งเรื่องต้นทุนด้านอาหารที่ สูงขึ้น 20เปอร์เซ็นต์ แต่ราคาน้ำนมนั้นลดลงสวนทางกัน และเป็นความเครียดของเกษตรกร
“อาชีพนี้กำลังสูญสลายในพื้นที่ เพราะนอกจากต้นทุนที่แพงยังมีเรื่องแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร รวมถึงการกำหนดจากภาครัฐเรื่องมาตรฐานฟาร์ม ที่กำลังจะเกิดขึ้น เกษตรกรอยากให้มีการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐเพราะปัญหามีหลายด้าน คนที่อยู่ได้คือคนที่มีฐานะดี แต่เกษตรกรที่ต้องอาศัยรายวันกินตอนนี้มีแต่ปัญหา ทุนจม อยากให้มีเงินกู้พิเศษ หรือมาตรการมาช่วยได้แล้วก่อนที่เกษตรกรจะหมดตัว” นายเชนกล่าว
นายระหงษ์ แพรอัตต์ นายก อบต.สวนป่าน กล่าวว่า ตนเองเคยเลี้ยงโคนมมาเมื่อปี 28 แต่วันนี้ทั้งอาหาร อากาศ ที่เป็นปัจจัยหลักได้เปลี่ยนไป เพราะเดิมทีอาหารเช่นฟาง มีในพื้นที่แต่ตอนนี้ไม่มีและราคาสูงมาก ตนเองเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้ 1 ปีเศษ ยินดีที่มีการจัดเวทีหารือกันขึ้นซึ่งเป็นครั้งแรก ซึ่งจะแก้ไขปัญหาในพื้นที่ทั้งแหล่งน้ำที่ไม่พอและจะประสานงานร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง
นายสัตวแพทย์ปรีดา ถาวรประดิษฐ์ ปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า การลงพื้นที่ในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากเท้าเปื่อย ได้มีการกหนดแผนในการทำงานเพื่อให้เป็นการป้องกันโรคระบาดซึ่งยังมีดรคลัมปีสกินด้วย ซึ่งการเข้ามารับฟังปัญหาที่ทราบคือราคาน้ำนมไม่คุ้มค่ากับต้นทุน ซึ่งได้มีการนำข้อมูลว่าจะไปหาอาหารทดแทนที่ลดต้นทุนลงได้อย่างไร ซึ่งหากทำได้จะทำให้ลดต้นทุนการผลิตก็น่าจะช่วยในการแก้ปัญหาได้
ส่วนเรื่องของการประกันคุณภาพราคาน้ำนม เพื่อยกระดับฟาร์มเลี้ยงโคนม จากคอกแบบดั้งเดิมเป็นระดับ GFM ไปสู่ระบบ GMP ต้องหามาตรการมาช่วยยกระดับให้เกษตรกรในระยะยาว และทำให้อาชีพที่เกษตรกรได้พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 สามารถผลิตน้ำนมที่ดีมีคุณภาพให้เด็กๆได้อย่างยั่งยืนด้วย
ด้าน พ.ท.ดร.สินธพ แก้วพิจิตร (เสธ.แก้ว) อดีต ส.ส.นครปฐม เขต1 กล่าวว่า การได้เข้ามาร่วมรับฟังความปัญหาของเกษตรผู้เลี้ยงโคนม ในพื้นที่ ม.4 ต.สวนป่าน ทำให้ทราบว่าปัญหากำลังจะถูกส่งต่อไปยังเกษตรกรในรุ่นที่ 3 และยังผลให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทย ปัญหาที่ทราบคือ ปัญหาราคาน้ำนม การถูกกำหนดให้ยกระดับฟาร์มเลี้ยง ต้นทุนที่มีราคาสูง รวมถึงแหล่งน้ำ ในพื้นที่ รวมถึงปัญหาหลายด้านที่ได้รับทราบจากเกษตรกรโดยตรง
เสธ.แก้วกล่าวต่อว่า เกษตรกรโคนมถือว่าเป็นต้นทางพื้นฐาน ซึ่งประชากรซึ่งเติบโตจากเยาวชน ที่ได้รับการดื่มนมที่ดีมีคุณภาพก็จะเป็นกำลังหลักที่มีคุณภาพ ยิ่งอาชีพการเลี้ยงโคนมเป็นเป็นอาชีพที่ได้รับพระราชทานซึ่งสานต่อจากโครงการพระราชดำริ ยิ่งแสดงความเป็นห่วงเกษตรกร แม้วันนี้จะมีปัญหาหลายด้านมารุมเร้า ซึ่งยังมีกระบวนการในการเพิ่มต้นทุนคือการยกระดับคุณภาพฟาร์ม ยิ่งมีผลกระทบต่อต้นทุน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเราอยู่ในประชาคมโลก ก็ต้องมีมาตรการมาควบคุม ซึ่งจะต้องมีการผลักดันในระดับกระทรวงต่อไป
“วันนี้ผมมาในฐานะตัวแทนฝ่ายประชาชน ฝ่ายเกษตรกร ซึ่งการได้ติดตามมาร่วมรับฟังปัญหาจากเกษตรกร ส่งต่อถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องมีการนำปัญหาไปสู่การแก้ไข ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และเรื่องนี้จะต้องมีการผลักดันเพื่อแก้ปัญหาให้ได้ต่อไป แม้จะเป็นในรัฐบาลใหม่ก็ยังคงต้องทำงานร่วมกันต่อไป” เสธ.แก้ว กล่าวปิดท้าย
ขณะที่ปั้น ณัทกร แก้วพิจิตร บอกว่า แม้จะเป็นคนหน้าใหม่ในวงการการเมืองแต่ปัญหาของเกษตรกร คือปัญหาที่เกิดขึ้นมานานและต้องการได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และเข้าถึงปัญหาการได้มาลงพื้นที่ติดตามการทำงานร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญ ซึ่งในส่วนตัวคิดว่ามีในหลายมิติและการนำเทคโนโลยีมาใช้ในพื้นที่จะทำให้ปัญหาคลี่คลายและสามารถสร้างโอกาสใหม่ๆในตลาดได้ด้วย