In Thailand

เตรียมอัญเชิญพระพุทธไชยชุมพล‘หลวงพ่อทรายแดง’



กาญจนบุรี-สสจ.กาญจนบุรี เตรียมอัญเชิญพระพุทธไชยชุมพล(หลวงพ่อทรายแดง)พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองกาญจนบุรีไปประดิษฐาน ณ กระทรวง สธ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.30 น.วันอังคารที่ 14 มีนาคม 2566  นพ.ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายอนุชา วรหาญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี นายวรรณะ  วีระผาสุก รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้ากลุ่มงานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี และผู้เกี่ยวข้อง เข้ากราบนมัสการพระราชวิสุทธิเมธี (เจ้าคุณปัญญา) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ร่วมถวายสังฆทานและจตุปัจจัย พร้อมทั้งอัญเชิญพระพุทธไชยชุมพล (หลวงพ่อทรายแดง) วัดไชยชุมพลชนะสงคราม พระอารามหลวง (วัดใต้) ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดกาญจนบุรี ไปประดิษฐาน ณ กระทรวงสาธารณสุข

    

ตามดำริของนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญประจำจังหวัดทุกจังหวัดมาประดิษฐาน ณ ห้องพระประจำกระทรวงสาธารณสุข (พื้นที่อาคาร 7 ชั้น 8 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข) เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจทางพุทธศาสนา ในวันอังคารที่ 21 มีนาคม 2566 นี้

พระพุทธไชยชุมพล เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างด้วยศิลาแลง สมัยทวาราวดี (ได้มีการลงรักปิดทองในภายหลัง) ขนาดหน้าตัดกว้าง 2.25 เมตร ความสูง 2.75 เมตร ปัจจุบันประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถหลังใหม่

วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) เป็นวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ระหว่างสงครามไทยรบกับพม่ามาแต่โบราณ ส่วนมากทัพพม่าจะต้องยกทัพมาทางด่านพระเจดีย์ ๓3 องค์ ผ่านตรงเข้าจังหวัดกาญจนบุรีแทบทุกครั้ง และกองทัพไทยที่ยกออกไปต่อต้านทัพพม่าก็จะต้องมาพักแรมประชุมพล ที่ตำบลปากแพรก หรือบริเวณอาณาเขตวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี ไทยได้ทำสงครามกับพม่า และมีการสู้รบกันที่จังหวัดกาญจนบุรี 2 ครั้ง ดังนี้

    

1.ไทยรบชนะพม่าที่ทุ่งลาดหญ้า (กาญจนบุรีเดิม) ช่วงสงคราม 9 ทัพ ในปี พ.ศ. 2328

2.ไทยรบชนะพม่าที่บ้านท่าดินแดง (อำเภอสังขละบุรี ในปัจจุบัน) ในปี พ.ศ. 2329

ในการรบกับพม่าทั้งสองครั้งนี้ ตามประวัติศาสตร์ ได้บันทึกไว้ว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 พร้อมด้วยพระอนุชาธิราช สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ได้ทรงประชุมพลเหล่าทหารกล้า ณ ตำบลปากแพรก (บริเวณวัดไชยชพลชนะสงคราม) แล้วจึงกรีธาทัพออกสู่สมรภูมิรบ ปรากฏว่าได้รับชัยชนะทั้ง 2 ครั้ง เมื่อมีการประชุมพลที่นี่แล้วออกศึกสงครามได้รับชัยชนะกลับมาทุกครั้ง

จึงเป็นที่มาแห่งนามวัดว่า “วัดไชยชุมพลชนะสงคราม” อันหมายถึงเมื่อมีการประชุมพลก่อนออกศึกสงคราม แล้วจะต้องได้รับชัยชนะทุกครั้งไป ถึงปากแพรกซึ่งเป็นที่ประชุมพล พร้อมพหลพลนิกรน้อยใหญ่ ค่ายคูเขื่อนขัณฑ์ทั้งนั้นไซร์ สารพัดแต่งไว้ทุกประการ จึงรีบรัดจัดโดยขบวนทัพ สรรพด้วยพยุหทวยหาญทุกหมู่หมวดกันไว้พร้อมการ ครั้นได้ศุภวารเวลา ให้ยกรื่นตามทางไทรโยคสถาน ทั้งบกเรือล้วนทหารอาสา จะสังหารอริราชพาลา อันสถิตอยู่ยังท่าดินแดง อนึ่ง เมื่อครั้งที่ประเทศไทยส่งทหารไปสู่สมรภูมิรบในสงครามเวียดนาม

เริ่มตั้งแต่รุ่นจงอางศึก และ รุ่นเสือดำ จากกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ (เดิม ค่ายกาญจนบุรี) ก่อนออกเดินทาง จะต้องมาประกอบพิธีสักการะบูชาหลวงพ่อพระพุทธไชยชุมพล และลอดซุ้มประตูที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม เพื่อเป็นสิริมงคล ให้แคล้วคลาด ปลอดภัย ได้รับชัยชนะทุกครั้งเหมือนอดีตที่ผ่านมา

สนั่น / กาญจนบุรี