Authority & Harm
จับโจรสาวใช้มีดจี้คอแม่เฒ่าชิงทอง3บ.
อุดรธานี- จับโจรสาวใช้มีดจี้คอแม่เฒ่า65ชิงทองหนัก3บาทอ้างหาเงินใช้หนี้พนัน
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564เวลา 06.00 น. พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ,พ.ต.ท.ชัยณรงค์ ไพบูลย์ รอง ผกก. สส.สภ.น้ำดสม พ.ต.ต.ภิเศก เสาะสมบูรณ์ สว. สส. สภ.น้ำโสม นำกำลังจับ นางสุภาพร พันธ์สุมา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 3 ต.นาแค อ.นายูง จ.อุดรธานี ผู้ต้องหา “ชิงทรัพย์” พร้อมของกลาง พระเลี่ยมทองน้ำหนัก 2 สลึง 1 องค์ วัตถุมงคลเลี่ยมทองน้ำหนัก 1 สลึง เสื้อคลุมแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงวอร์มขายาวสีน้ำเงิน ถุงมือสีดำ 1 คู่ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงินเทา 1กภ 9790 อุดรธานี ที่ใช้ก่อเหตุ โดยจับกุมได้ที่กระท่อมในสวนยางพารา ท้ายหมู่บ้านวังแข หมู่ 3 ต.นาแค อ.นายูง จ.อุดรธานี ควบคุมตัวไปโรงพักทำการสอบสวน
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ร.ต.อ.พีรยุทธ อุชชิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านบุญโฮมจักรยาน เลขที่ 1 ม.12 บ.น้ำโสม ต.น้ำโสม มีผู้ได้รับบาดเจ็บจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.น้ำโสม พ.ต.ท.ชัยณรงค์ ไพบูลย์ รอง ผกก. สส.สภ.น้ำโสม พ.ต.ต.ภิเศก เสาะสมบูรณ์ สว.สส.สภ.น้ำโสม นำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุ พบนางทุมดี จันโทแสง อายุ 65 ปี เจ้าของร้านนอนอยู่ที่พื้น ซึ่งบริเวณเบ้าตาซ้าย และปากบวมมีรอยฟกช้ำ เจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.น้ำโสม เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนางทุมดี ให้การว่า ขณะนั่งอยู่ในร้านคนเดียวได้มีคนร้ายเป็นหญิงใส่ผ้าคลุมปิดบังใบหน้า เสื้อคลุมแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงวอร์มขายาว สวมรองเท้าบู๊ทสีดำ คล้ายคนไปสวนยาง ซึ่งขับรถจักรยานยนต์มา แต่ว่าจำสีและยี่ห้อไม่ได้มาจอดหน้าร้าน โดยทำทีมาดูรถจักรยานประมาณ 30 นาที พอปลอดคนก็เดินเข้ามาใช้มีดจี้คอแล้วบังคับให้ตนถอดสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง 2 สลึง วัตถุมงคลเลี่ยมทอง 1 สลึง และจะเอาเลสข้อมือหนัก 1 บาท แต่นางทุมดีขัดขืนจึงถูกชกหน้า 4 ครั้งล้มลง และดึงเลสข้อมือไปพร้อม ซึ่งนางทุมดีได้ร้องตะโกนโวยวายให้คนมาช่วย และชาวบ้านได้เดินเข้ามา ซึ่งคนร้ายได้เดินสวนกลับออกไปแล้วบอกกับชาวบ้านว่านางทุมดีเป็นลม แล้วรีบขับรถ จยย.หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่ว่าลูกสาวนางทุมดีกลับเห็นแม่ถูกชิงทรัพย์ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ เปิดเผยต่อว่า ได้นำกำลังออกสืบสวนติดตามดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี พบคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงินเทา แต่หมายเลขทะเบียนไม่ค่อยชัดเจนเห็นเพียงเลข 9 ตัวเดียว เจ้าหน้าที่จึงตรวจเช็ครถจักรยานยนต์ในอำเภอน้ำโสม และอำเภอใกล้เคียงพบว่ารถคันที่ก่อเหตุหมายเลขทะเบียน 1กภ 9790 อุดรธานี เจ้าของรถคือนางสุภาพร พันธุ์สุมา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 1 ต.นาแค อ.นายูง จ.อุดรธานี ซึ่งอยู่ห่างจากร้านที่เกิดเหตุ 20 กม. จึงได้ไปพบนางสุภาพร และรถจักรยานยนต์จอดอยู่ที่กระท่อมในสวนยางพาราท้ายบ้านวังแข หมู่ 3 ต.นาแค จึงเข้าจับกุมได้พร้อมของกลาง
จากการสอบสวนนางสุภาพรฯ ให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพทำสวนยาง แต่ติดการพนันไพ่ ทำให้ไปหากู้ยืมนายทุนเงินกู้มาเล่นการพนัน แต่เล่นเสียทำให้ไม่มีเงินใช้หนี้ 6 หมื่นบาท จึงคิดจี้ชิงทองนางทุมดี เพราะเคยมาซื้อรถจักรยานที่ร้านมาก่อน และเห็นนางทุมดีสวมสร้อยทองคำ และเลสทองคำอยู่ที่ร้านคนเดียวเป็นประจำ จึงตัดสินใจสวมชุดที่ใส่ไปกรีดยางคลุมศีรษะและใบหน้าด้วยผ้าพกมีดทำครัว ขับรถจักรยานยนต์มาที่ร้าน และทำทีว่าจะมาซื้ออะไหล่รถจักรยานเลือกอยู่ประมาณ 30 นาที พร้อมกับทั้งอาศัยจังหวะปลอดคนจึงใช้มีดจี้คอนางทุมดี ชิงเอาสร้อยคอทองคำ แต่นางทุมดีขัดขืน และพยายามจะวิ่งหนี จึงชกนางทุมดีเข้าหน้าไปหลายหมัด และรีบขโมยเอาทรัพย์ ก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีกลับไป อ.นายูง
ซึ่งในช่วงเช้าของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตนได้นำสร้อยคอทองคำไปขายที่ร้านทองใน อ.บ้านผือ ส่วนเลสข้อมือทองคำนำไปขายที่ร้านทอง อ.น้ำโสม ได้เงินประมาณ 6 หมื่นบาท นำเงินไปใช้หนี้ ส่วนพระเลี่ยมทองหนัก 2 สลึง และวัตถุมงคลเลี่ยมทองหนัก 1 สลึง ตนได้นำไปซ่อนไว้ในสวนยาง และเอาผ้าคลุมหน้าไปโยนทิ้งที่บ้านน้ำปด หมู่ 9 ต.บ้านก้อง อ.นายูง จ.อุดรธานี ส่วนมีดเอาโยนทิ้งที่บ้านนาชมภู ต.บ้านก้อง จากนั้นก็กลับมากรีดยางทำตัวปกติ จนกระทั่งตำรวจตามมาจับกุมได้พร้อมของกลาง
ต่อมาเวลา 09.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.น้ำโสม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ 20 นาย ได้ควบคุมตัวนางสุภาพรฯ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านบุญโฮมจักรยาน โดยมีญาตินางทุมดี และชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมามุงดูเป็นจำนวนมาก และยังได้ตะโกนด่านางสุภาพรที่ทำร้ายแม้แต่คนชรา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เวลาในทำแผนประกอบคำรับสารภาพประมาณ 10 นาที แล้วรีบควบคุมตัวขึ้นรถไปโรงพัก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี