Authority & Harm
วงจรปิดจับอดีตเณรฉกทรัพย์พระในวัด
แพร่-วงจรปิดจับภาพอดีตสามเณรหลังสึกออกไปแล้ว ย่องกลับมาฉกทรัพย์พระที่วัด ได้เงินและโน๊ตบุ๊คไป ตำรวจดูกล้องแล้วตามรวบตัวทันที รับสารภาพอ้างเอาไปเล่นเกมส์
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 พ.ต.ท.อุทัย เวียงทอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ รับแจ้งเหตุลักทรัพย์จากพระครูอนุกูล ธรรมวงค์ เจ้าอาวาสที่วัดนาจักร อ.เมืองแพร่ จึงประสานชุดสืบสวน สภ.เมืองแพร่ เข้าร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นกุฎิไม้ 2 ชั้น ซึ่งเป็นห้องพักของสามเณรที่วัด ภายในห้องนอนพบมีร่องรอยถูกรื้อค้น ข้าวของกระจัดกระจาย หลายห้องถูกรื้อค้น ทั้งที่ล็อคประตูแต่ไม่มีร่องรอยการถูกงัดแต่อย่างใด พบห้องแรกถูกขโมยกระเป๋าเงินวางอยู่บนโต๊ะ หายไปทั้งกระเป๋า ห้องที่ 2 พบว่าโน๊ตบุ๊คที่วางอยู่บนโต๊ะถูกขโมยไป ต่อมาเมื่อเวลา 12.00น. ของวันที่25 กุมภาพันธ์ 2564 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสภ.เมืองแพร่ได้ติดตามตัวผู้ต้องสงสัยจากภาพกล้องวงจรปิดและได้ข้อมูลจากพลเมืองดี จึงสามารถติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้โดยใช้เวลาชั่วข้ามคืน ต่อมาทราบชื่อผู้ต้องหาคือนาย ภูตินันท์ หวังศิริ อายุ22ปี และนายอนุพงษ์ เรืองเกษม อายุ23ปีพร้อมของกลาง คือคอมพิวเตอร์โน๊ตบุสยี่ห้อเอซุส จำนวน1เครื่อง และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเอ็มเอสเอ็กสีแดง1คันไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทั้งสองรับสารภาพว่าเป็นผู้กระทำจริงจากนั้นนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุเพื่อประกอบคำรับสารภาพตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายผลเป็นบวก
สามเณรปกรณ์ แสนย่าง อายุ 17 ปี เล่าว่า เมื่อวานหลังจากกลับจากเรียนหนังสือเวลาประมาณ บ่าย 4 โมงเย็น กลับมาที่ห้องก็พบว่าโน๊ตบุ๊คกับเงินเหรียญในกระปุกหายไปทั้งหมด คาดว่าคนร้ายน่าจะมาตอนเที่ยง ช่วงที่เณรไม่อยู่ คาดว่าน่าจะปีนเข้าทางหน้าต่างแล้วเข้ามาขโมยของ
ทางด้านผู้ต้องหา รับสารภาพว่า เคยบวชเรียนอยู่ที่วัดแห่งนี้ สึกออกไปแล้วประมาณ 3 ปี แต่ก็ยังแวะเวียนมาเที่ยวที่วัดอยู่ตลอด วันเกิดเหตุ มากับเพื่อน 2 คน ไม่เจอใครอยู่ในกุฏิจึงขึ้นไปที่ชั้น 2 แล้วหยิบของในห้องไปห้องแรกไม่ได้ล็อคประตู แล้วปีนหน้าต่างไปห้องถัดไปเจอโน๊ตบุ๊คอยู่ตั้งใจเอาไปเล่นเกมส์ไม่ได้เอาไปทำอะไรและได้นำกลับมาคืนแต่เอามาคืนไว้ข้างกระถางต้นไม้ในบริเวณวัดตรงประตูทางออกด้านข้างวัด
จากนั้นทางชุดสืบสวนสภ.เมืองแพร่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนพร้อมของกลางเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป