Authority & Harm
ตร.รวบ'บังบอย'พร้อมยาไอซ์-อาวุธเพียบ
นครราชสีมา-บังบอย จนมุมตำรวจจอหอโคราช พร้อมของกลางยาบ้า ยาไอซ์และอาวุธปืน สารภาพรับยามาต้นทุนเม็ดละ 15 บาท จากชาวลาว ก่อนมาขายเม็ดละ 50 บาท ตำรวจตรวจยึดทรัพย์สินได้เกือบ 7 ล้าน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ สภ.จอหอ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนทร์ เสตะปุตตะ ผกก.สภ.จอหอ พ.ต.ท.ยุทธพงษ์ โคขุนทด สว.สส.พร้อมด้วยชุดจับกุม ได้ควบคุมตัว นายภิญโญ หรือบังบอย อินกอง อายุ 36 ปี ชาวอำเภอเสิงสาง และเครือข่ายจำนวน 5 คน พร้อมของกลางยาบ้า 67,560 เม็ด สารไอซ์ จำนวน 57,560 กรัม อาวุธปืนจำนวน 4 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวน 30 นัด และตรวจยึดทรัพย์สิน ประเภทรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า จำนวน 1 คัน รถกระบะยี่ห้อ chevrolet จำนวน 1 คัน และเงินสดจำนวน 77,000 บาท รวมมูลค่ายาเสพติดและทรัพย์สินที่ตรวจยึดมา รวมมูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการติดตามพฤติกรรมของเครือข่ายยาเสพติด จนทราบว่ามีนายภิญโญ หรือบังบอย เป็นหัวหน้าเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่อำเภอเสิงสางเกี่ยวเนื่องมาถึงอำเภอเมืองนครราชสีมา โดยบังบอยจะติดต่อรับยาจากเครือข่ายชาวลาว มาจำหน่ายครั้งละจำนวน 50 มัดหรือประมาณ 1 แสนเม็ด ส่วนสารไอซ์ครั้งละจำนวน 2 กิโลกรัม แล้วจะนัดรับกันที่จังหวัดบุรีรัมย์ที่อำเภอสตึกอยู่เป็นประจำ ต่อมาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมนางสาววรรณวิสา พร้อมด้วยสามี และขยายผมจับเพิ่มได้อีก 2 คน ในข้อหาเสพยาเสพติดและจำหน่าย ก่อนจะขยายผลไปถึงตัวนายบังบอย ที่อำเภอเสิงสาง ก่อนที่บังบอยจะแสดงอาการมีพิรุธและวิ่งหลบหนีและเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ทัน ต่อมาได้ทำการตรวจค้นพบยาเสพติด อาวุธปืน พร้อมด้วยเครื่องกระสุนจำนวนมาก โดยจะนำมากระจายให้กับลูกค้าในพื้นที่ ในราคาเม็ดละ 40-50 บาท ส่วนตนเองรับมาเม็ดละ 15 บาท หากขายหมดจำนวน 1แสนเม็ด ตนจะมีรายได้อยู่หลายแสนบาท ซึ่งเงินจำนวนนั้นก็จะนำมาเป็นใช้จ่ายส่วนตัว และยอมรับว่าทำมาทั้งสิ้นจำนวน 4 ครั้ง โดยตนเองเป็นทั้งผู้จำหน่ายและผู้เสพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ณัฐพงศ์ อรชร/ข่าวนครราชสีมา