In Bangkok
ผู้ว่าฯกทม.ถกผู้บริหารหารือ7เรื่องสำคัญ เตรียมจัดทำงบปี67แบบสมดุล9หมื่นล.

กรุงเทพฯ-ผู้ว่าฯชัชชาติประชุมผู้บริหารกทม. เตรียมจัดทำงบปี 67 แบบสมดุล 9 หมื่นล้าน เน้นเส้นเลือดฝอยลงพื้นที่เขตพร้อมยกหลายเรื่องหารือ ไฟฟ้าดับแก้ไขแล้วมากกว่า2หมื่นดวงพร้อมเร่งเปลี่ยนเป็น LED อีก 3 หมื่นดวง,กทม.ร่วมกับพอช.แก้ปัญหารุกล้ำคลองด้วยการทำความเข้าใจ,เตรียมปรับรูปแบบบริหารจัดการขยะใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น,ใช้เทคโนโลยี AI ช่วยตรวจจับผู้ทำผิดผ่านกล้อง CCTV,การเลือกตั้ง ส.ส. มีประกาศพื้นที่ที่ให้หาเสียงได้ จะประกาศจุดติดตั้งอีกครั้ง มีทำคู่มือให้แต่ละเขต, การวางตัวเจ้าหน้าที่ การดูแลความสะอาด การปราศรัย ต้องชัดเจนโปร่งใส และสงกรานต์ลานคนเมืองเน้นศิลปวัฒนธรรม พร้อมเข้มความปลอดภัย ไม่เหล้า ไม่โป๊ ไม่แป้ง ไม่ปืนฉีดน้ำรุนแรง ทั่วกรุง
(27 มี.ค. 66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 8/2566 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร ว่า วันนี้เป็นการประชุมติดตามความคืบหน้างานในหลายเรื่อง โดยเรื่องแรกเป็นเรื่องการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยตั้งไว้ที่ 9 หมื่นล้านบาท เป็นการจัดทำงบฯ แบบสมดุล คือรายรับเท่ากับรายจ่าย ซึ่งประมาณการรายรับแบ่งเป็น กทม.จัดเก็บเอง 24.11% (ภาษีอากร ค่าธรรมเนียม/ค่าใบอนุญาต/ค่าปรับ/ค่าบริการ รายได้จากทรัพย์สิน รายได้จากการสาธารณูปโภค/การพาณิชย์และกิจกรรมอื่น รายได้เบ็ดเตล็ด) และส่วนราชการอื่นจัดเก็บให้ 75.89% ส่วนรายจ่ายแบ่งออกเป็น ค่าใช้จ่ายบุคลากร 24.54% ค่าใช้จ่ายดำเนินงานขั้นพื้นฐาน 19.07% ค่าใช้จ่ายอุดหนุน 4.06% งบกลาง 19.96% โครงการต่อเนื่อง 20.39% และงบประมาณคงเหลือที่สามารถบริหารได้ 11.98% ซึ่งจะเน้นที่เส้นเลือดฝอย กระจายลงเขตเพื่อปรับปรุงสภาพที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ระบบระบายน้ำต่าง ๆ ลานกีฬา ศูนย์บริการสาธารณสุข ฯลฯ ให้เข้มแข็งขึ้น
● ไฟฟ้าดับแก้ไขแล้วมากกว่า 2 หมื่นดวง พร้อมเร่งเปลี่ยนเป็น LED อีก 3 หมื่นดวง
เรื่องต่อมาคือการแก้ไขปัญหาไฟฟ้าดับ จากการสำรวจ 140,597 ดวง พบไฟฟ้าดับ 22,645 ดวง แก้ไขแล้ว 21,174 ดวง และยังคงดับ 1,471 ดวง ได้เร่งรัดให้แล้วเสร็จปลายเดือนนี้ ขณะเดียวกันได้มีการเปลี่ยนไฟเป็น LED อีก 3 หมื่นดวง โดย 5,000 ดวง จะติดตั้งบริเวณถนนสายหลัก อีก 25,000 ดวง กระจายสู่ถนนหรือซอยย่อยในแต่ละเขต
● กทม. ร่วมกับ พอช. แก้ปัญหารุกล้ำคลองด้วยการทำความเข้าใจ
เรื่องที่สามคือการรุกล้ำคลอง กรณีคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากรนั้นเป็นเรื่องค้างต่อเนื่องมาและเป็นปัญหาในหลายมิติ ทั้งรุกล้ำในคลองและปลูกอยู่ริมคลองแต่เป็นที่ของกรมธนารักษ์ โดย กทม. ร่วมกับ พอช. พยายามย้ายประชาชนเข้าสู่บ้านมั่นคง ซึ่งได้มีนโยบายห้ามมีการเพิ่มจำนวนบ้านที่รุกล้ำคลอง และได้พยายามคุยเพื่อหาทางดำเนินการ รวมถึงมีโครงการทำเขื่อน แต่ยังติดบ้านของชาวบ้านอยู่ ส่งผลให้การทำเขื่อนยังทำไม่ได้ แนวทางคือเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งประชาชนส่วนหนึ่งยอมเข้าบ้านมั่นคง อีกส่วนหนึ่งยังมีข้อกังวลอยู่ ขณะเดียวกันได้ให้สำนักการระบายน้ำลงไปทำทางระบายน้ำเพิ่มขึ้น เพื่อรับฝนปีนี้ให้ได้
● เตรียมปรับรูปแบบบริหารจัดการขยะใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เรื่องที่สี่คือการจัดการเรื่องขยะ จะเห็นได้ว่าช่วงโควิดมีขยะน้อยลง แต่ปัจจุบันเริ่มเพิ่มขึ้น ซึ่งปัญหาคือ เมืองมีการขยายตัวไปข้างนอกมากขึ้น เขตชั้นในขยะอาจจะลดลง เพราะหมู่บ้านไปอยู่ข้างนอกมากขึ้น ทำให้จำนวนขยะเขตชั้นนอกมีมากขึ้นด้วย แนวทางคือให้ทบทวนระบบจัดการขยะทั้งหมด ซึ่งขณะนี้มีรถขยะ 147 คันที่ไม่มีพนักงานประจำรถ ฉะนั้น ต้องปรับรูปแบบในการบริหารจัดการขยะใหม่ เพื่อใช้รถขยะอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ปรับเส้นทางใหม่ ใช้วิธีการใหม่ นำเทคโนโลยี GPS มาใช้บริหารจัดการ รวมถึงจะต้องเพิ่มจำนวนพนักงานเก็บให้เหมาะสมกับจำนวนรถ เพื่อบริการประชาชนที่กระจายอยู่เขตชั้นนอกได้ครอบคลุมมากขึ้น และเขตชั้นในก็ต้องบริหารจัดการด้วยรูปแบบที่แตกต่างออกไป เช่น เพิ่มรอบการเก็บ เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นส่งผลให้ขยะเยอะขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องมีการทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการในเรื่องเวลาการทิ้งขยะตามรอบเก็บของรถขยะด้วย ไม่ใช่มาวางล่วงหน้านอกเวลาจัดเก็บ เพราะอาจจะมีสุนัขมาคุ้ย และเกิดความสกปรกได้ อาจจะต้องมีการใช้วิธีการตักเตือน หรือใช้ไม้แข็งควบคู่ เช่น พิจารณาตามระเบียบใบอนุญาต
● ใช้เทคโนโลยี AI ช่วยตรวจจับผู้ทำผิดผ่านกล้อง CCTV
รวมถึงการจัดการรถจักรยานยนต์บนทางเท้าด้วย ซึ่งที่ผ่านมามีการจับปรับโดยตลอด แต่จะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ขณะนี้สำนักการจราจรและการขนส่ง (สจส.) ได้ศึกษาระบบ AI โดยใช้กล้องที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เช่น รถวิ่งบนทางเท้า รถจอดในที่ห้ามจอด คนนำขยะมาทิ้ง หาบเร่แผงลอย เป็นต้น จะให้ระบบนี้แทนการให้เจ้าหน้าที่เทศกิจยืนเฝ้า ขณะนี้อยู่ระหว่างทดลองใช้ซอฟท์แวร์ ปัจจุบันสำนักเทศกิจได้มีการใช้กล้องเข้าไปตรวจจับหาบเร่แผงลอยประมาณ 90 จุด หากมีผู้ค้าเข้ามาในพื้นที่ห้ามทำการค้า สามารถแจ้งเทศกิจไปดำเนินการได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขยะ ขับรถบนทางเท้า หาบเร่แผงลอย ที่มีปัญหา สามารถใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาช่วยได้ และจะมีการขยายผลมากขึ้น
● การเลือกตั้ง ส.ส. มีประกาศพื้นที่ที่ให้หาเสียงได้ จะประกาศจุดติดตั้งอีกครั้ง มีทำคู่มือให้แต่ละเขต การวางตัวเจ้าหน้าที่ การดูแลความสะอาด การปราศรัย ต้องชัดเจนโปร่งใส
เรื่องต่อมาคือ การเตรียมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ( ส.ส.) ซึ่งกรุงเทพมหานครได้มีประกาศพื้นที่ให้หาเสียงได้แล้ว และจะมีประกาศจุดติดตั้งป้ายหาเสียงตามมา ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเพราะมีความเปลี่ยนแปลงจากเดิม คือจำนวนเขต จำนวน ส.ส. การแบ่งเขตเลือกตั้งไม่เหมือนเดิม จึงต้องมีการทำคู่มือให้กับสำนักงานเขตและผู้เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม รวมถึงเรื่องการวางตัวของเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง ฝ่ายประจำ และฝ่ายต่าง ๆ อีกทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้อง อาทิ การดูแลความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย การขอใช้พื้นที่ในการปราศรัยหาเสียง ซึ่งต้องมีขั้นตอนชัดเจนเพื่อให้เกิดความโปร่งใส
● สงกรานต์ลานคนเมืองเน้นศิลปวัฒนธรรม พร้อมเข้มความปลอดภัย ไม่เหล้า ไม่โป๊ ไม่แป้ง ไม่ปืนฉีดน้ำรุนแรง ทั่วกรุง
ด้านการจัดงานวันสงกรานต์ กรุงเทพมหานครเน้นกิจกรรมที่ลานคนเมือง ซึ่งจะเน้นเรื่องศิลปวัฒนธรรม ส่วนอื่นเป็นความร่วมมือกับภาคเอกชนในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น ถนนข้าวสาร สีลม กรุงเทพมหานครไม่ได้เป็นผู้จัด แต่เข้าร่วมในการช่วยดูเรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่กังวล คือ เรื่องการดื่มสุรา ไม่มีการผ่อนปรน ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ห้ามดื่ม ห้ามขาย และอีกเรื่องคือ การเล่นแป้ง ซึ่งกรุงเทพมหานครไม่อนุญาตให้เล่นแป้ง หรือปืนฉีดน้ำที่รุนแรง ในบางพื้นที่ก็ดูความเป็นระเบียบเรียบร้อย การแต่งกายที่เหมาะสมระดับหนึ่งคือไม่โป๊หรือหมิ่นเหม่ ซึ่งกรุงเทพมหานครจะร่วมมือกับตำรวจ ในการดูแล ส่วนเรื่องอุบัติเหตุจะมีศูนย์ War Room อยู่ที่สำนักการจราจรและขนส่ง ในปีนี้สงกรานต์น่าจะสนุก โดยกรุงเทพมหานครมีแนวคิดในการกระจายงานสงกรานต์ออกไปในพื้นที่ต่าง ๆ ให้มากที่สุด ไม่ให้มารวมตัวกันอยู่ที่ข้าวสาร หรือ สีลม แต่ทุกพื้นที่ ทุกเขต สามารถมีงานที่เป็นอัตลักษณ์ของตัวเองได้ เพื่อให้คนสามารถกระจายไปร่วมงานตามจุดต่าง ๆ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งเมืองได้ นอกจากนี้จะมีการทำแผนที่ให้ดูว่าแต่ละเขตมีกิจกรรมที่ไหน และมีเรตติ้งความเปียกให้เลือกว่าอยากเปียกมากน้อยแค่ไหนก็ไปตามจุดนั้น ๆ ด้วย