In Global

เปิดยุทธศาสตร์เปลี่ยนโลกของ'สี จิ้นผิง'



หลังการประชุมสองสภา สี จิ้นผิงได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการให้อยู่ในตำแหน่งสำคัญ 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดีจีน และประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง พร้อมสร้างความต่อเนื่องในการเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนจีนให้เป็นประเทศสังคมนิยมทันสมัยตามอัตลักษณ์จีน

รองศาสตราจารย์ ดร. สมชาย ภคภาสวิวัฒน์  นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง วิเคราะห์การขับเคลื่อนประเทศจีนในเวลานี้ของสี จิ้นผิง ว่า สี จิ้นผิง วางทิศทางของประเทศจีนตั้งแต่ปีค.ศ. 2013 เมื่อได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี  โดยกำหนดยุทธศาสตร์ “จงกั๋วเมิ่ง” หรือ “ความฝันของจีน” หนึ่งในเป้าหมายของยุทธศาสตร์คือ ต้องการให้จีนเป็นมหาอำนาจในโลก โดยต้องการรื้อฟื้นความยิ่งใหญ่ของจีน ที่เมื่อ 100 -200 ปีก่อน เคยถูกชาติตะวันตกข่ม 

สี จิ้นผิง กำหนดเป้าหมายการขับเคลื่อนจีนไว้ว่า  ภายในกลางศตวรรษที่ 21 ในปีค.ศ. 2049 ซึ่งตรงกับวาระครบรอบการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน 100 ปี  จีนจะสร้างชาติสังคมนิยมสมัยใหม่ (Modern Socialist China)  กลับมาสู่ “จงกั๋วที่ยิ่งใหญ่” ก่อนหน้านี้จีนเป็นมหาอำนาจระดับภูมิภาค จนถึงตอนนี้เริ่มแสดงออกถึงความเป็นมหาอำนาจระดับโลก (Global Power)  โดยจีนต้องการเปลี่ยนระบบโลกใหม่  เพราะจีนมองว่าระบบโลกเก่าอยู่ภายใต้การครอบงำของประเทศสหรัฐอเมริกา (Pax Americana) 

โดยยุทธศาสตร์เปลี่ยนโลกของสี จิ้นผิง มี 3 แนวทาง ได้แก่

การริเริ่มด้านความมั่นคงของโลก (Global Security Initiative)จีนต้องการเปลี่ยนแปลงให้โลกมีหลายขั้วอำนาจ  ไม่ได้ตกอยู่ภายใต้อำนาจเดียวของสหรัฐอเมริกา  โดยเน้นการสร้างความมั่นคงในด้านความร่วมมือ  ซึ่งจีนประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง ในการใช้แนวทางนี้แก้ปัญหาความขัดแย้งของประเทศต่างๆ นำไปสู่การเจรจา เช่น กรณีที่จีนสนับสนุนการเจรจา  จนทำให้ซาอุดิอาระเบียและอิหร่านบรรลุข้อตกลงและฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน กรณีที่จีนนำเสนอแผนสันติภาพ 12 ข้อ เพื่อยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงบทบาทของจีนที่มีมากขึ้นในประเทศต่างๆ เช่น อัฟกานิสถาน แอฟริกา เป็นต้น 

การริเริ่มด้านการพัฒนาระดับโลก (Global Development Initiative)จีนมีการพัฒนาเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 (BRI) สร้างโครงสร้างพื้นฐาน ท่าเรือ ถนน เส้นทางรถไฟ สนามบิน ให้ประเทศกำลังพัฒนา เชื่อมโยงประเทศต่างๆ กว่า 100 ประเทศ  เพื่อสร้างการพัฒนาให้กับประเทศต่างๆ  

การริเริ่มด้านอารายธรรมของโลก (Global Civilization Initiative)จีนสนับสนุนการเคารพความหลากหลายทางอารยธรรมของโลก  ก้าวข้ามความขัดแย้ง ยึดหลักความเสมอภาค  โดยไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการภายใน เน้นการส่งเสริมสันติภาพและการเจรจา

ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์นี้  สี จิ้นผิง กำลังดำเนินมาตรการกำลังต่อสู่กับระเบียบโลกเก่า โดยจีนเสนอแนวทางใหม่ ทั้งในมิติการเมือง เศรษฐกิจ ค่านิยม  ย้ำจุดยืนว่าโลกจะไม่ควรมีการแยกข้างระหว่างประชาธิปไตยกับอำนาจนิยม แต่ควรจะมองเรื่องการอยู่ร่วมกัน ด้วยสันติภาพและการเจรจา ซึ่งเป็นระเบียบโลกใหม่ที่จีนมองว่าประเทศต่างๆ จะได้รับประโยชน์ร่วมกัน
--------------------------------
บทสัมภาษณ์ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย