In Thailand
ผลซีเซี่ยม137กับนักท่องเที่ยว
ปราจีนบุรี-ผลซีเซี่ยม 137 กับ นักท่องเที่ยว – ผู้จะมาสัมมนาดูงานจาก ตจว.ยังคงยกเลิกยาวไม่หวนกลับคืน ขณะผู้บริโภคพืชผัก ผลไม้ชาวปราจีนฯคนในท้องถิ่นยังเชื่อมั่น ขณะภาคีเครือข่ายภาคประชาชน แจง แม้แถลงข่าวจบเรื่องซีเซี่ยม-137 แม้จบข่าวไปแล้ว แต่ภาคประชาชน - NGO. ยังไม่จบ วันนี้ บุกยื่นเรื่องให้ สว.ปราจีนฯติดตามต่อ ให้โรงงานแสดงสปิริต
เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ 2 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้า หลังจากกรณีภาชนะบรรจุสารกัมมันตภาพรังสีซีเซียม 137 (Caesium - 137) ซึ่งติดตั้ง ณ โรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ พื้นที่ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 1 ชิ้นได้สูญหายไปและคาด ว่าจะมีผู้นำออกไปจากบริเวณโรงงานและจำหน่ายให้ร้านรับซื้อของเก่า จนในที่สุดอาจจะเข้าสู่ ขบวนการหลอมในโรงงานหลอมเหล็ก บริเวณ ตำบลหาดนางแก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัด ปราจีนบุรี ตามลำดับ ตามที่มีการเสนอโดยต่อเนื่อง นั้น นางระตะนะ ศรีวรกุล ประธานสหกรณ์เกษตรอินทรีย์ปราจีนบุรี จำกัด กล่าวว่า
ตามที่ตนเองเคยกล่าวถึง สิ่งที่เกิดผลกระทบตามมาของสหกรณ์เกษตรอินทรีย์ปราจีนบุรี จำกัด ที่ตำบลนนทรีในเวทีเสวนาของภาคีภาคประชาชน คือ อาชีพการงาน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวชุมชน ในพื้นที่ ที่สหกรณ์เกษตรอินทรีย์ปราจีนบุรี จำกัด คือชาวบ้านตำบลนนทรี อ.กบินทร์บุรี ที่ทำเกษตรอินทรีย์ – ผลิตพืชสมุนไพร ที่กำลังมีการเตรียมมาศึกษาดูงานของหน่วยงานต่างๆ พบว่าผู้จะมาดูงาน มาพักโฮมย์สเตย์ รวมกว่า 42 คน ยกเลิกเข้าพัก อันเป็นการส่งผลกระทบต่อประชาชน อยากให้แก้ไขระยะยาว เพราะประชาชนเกิดความไม่มั่นใจ ว่าที่อยู่อาศัย มีความเสี่ยงกับสารกัมมันตรังสีในจุดอื่นอีกหรือไม่ และ ขาดการประชาสัมพันธ์ความรู้ความเข้าใจ
ล่าสุดในวันหยุดสุดสัปดาห์ในวันเสาร์ – อาทิตย์ นี้ (1 -2 มี.ค.) คนที่ จะจอง – หรือ คนที่ยกเลิก การเข้ามาศึกษาดูงาน ,การมาอบรม -สัมมนาที่เป็นคนต่างจังหวัด ยังคงไม่เชื่อมั่น ไม่หวนกลับ หรือ ยังไม่มีคนเข้ามาเยี่ยมชมศึกษาดูงานเหมือนเช่นเดิม
แต่ ผลผลิตเกษตรอินทรีย์ปราจีนบุรี จำกัด ทั้งพืชผักสวนครัว ,สมุนไพร นั้น เรามีตลาดหลัก โดยเฉพาะใน จ.ปราจีนบุรีอยู่แล้ว อาทิ ในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ,ตลาดสีเขียวใน รพ.กบินทร์บุรี คนปราจีนบุรีมีความเข้าใจ-เชื่อมั่น ยังขายได้ตามปกติ
แต่ไม่ได้หมายความว่า เมื่อจบข่าวสารซีเซี่ยม -137 แล้ว เรื่องราวที่เกิดแก่สิ่งแวดล้อมในปราจีนบุรี นี้ จะจบตามข่าว เรื่องราวต่าง ๆ ต้องมีการคลี่คลายอย่างชัดเจน ทางกลุ่มสหกรณ์เกษตรอินทรีย์ปราจีนบุรี จำกัด,สมาคมจิตอาสาพัฒนาปราจีนบุรี , มูลนิธิ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้รวมตัวเข้าพบ พร้อมยื่นหนังสือกับนายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ สมาชิกวุฒิสภา จ.ปราจีนบุรี (สว.) ซึ่งเป็นชาวปราจีนบุรี และเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน เพื่อขอให้ คณะกรรมาธิการ สว.ลงพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อรับฟังผลการดำเนินงานของจังหวัดปราจีนบุรี ในประเด็นที่กำหนดและตามข้อร้องเรียนของประชาชนดังกล่าว ให้เร่งนำกรณีเข้าสู่วาระแห่งชาติด้วย โดยก่อนหน้านี้ ได้ยื่นเรื่องสารซีเซี่ยม -137 ที่หายไปจากโรงงาน กับ ต้องการให้เอาผิดถึงบริษัทต้นทาง
เพราะขณะนี้ยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ ต่อประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยได้เคยยื่นหนังสือผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล ร้องเรียนถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อขอให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาซีเซียม-137 ที่หลุดออกมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน จังหวัดปราจีนบุรี อย่างเร่งด่วน โดยเสนอให้ตั้งคณะกรรมการในระดับชาติ โดยมีภาพประชาสังคมร่วมเป็นกรรมการด้วย เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น และ ระยะยาว นางระตะนะ กล่าวในที่สุด
ด้าน นายดำริห์ รัตนชินกรณ์ นายกสมาคมการท่องเที่ยว จ.ปราจีนบุรี และ เจ้าของ/ผู้จัดการสวนศักดิ์สุภารีสอร์ท อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากมีข่าวเรื่องสารซีเซี่ยม – 137 พบนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดมีการยกเลิกที่พัก หรือ เลื่อนกำหนดเข้ามาพัก-ท่องเที่ยวออกไปนั้น
ในวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์นี้ ที่รีสอร์ทของตนเอง นักท่องเที่ยวที่ยกเลิก ยังเช่นเดิม การจองใหม่ชะลอไว้ก่อนโดยนักท่องเที่ยวต่างจังหวัด รู้ว่าปราจีนบุรีตอนนี้ไม่เป็นอันตราย แต่ไปจังหวัดอื่นก่อนชะลอการมาปราจีนบุรี
ในวันที่ 4 เม.ย.66 นี้ ทางองค์การภาคเอกชนจังหวัดปราจีนบุรี 10 องค์กร ประกอบด้วย หอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี สภาอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด ปราจีนบุรี สมาคมธนาคารไทยจังหวัดปราจีนบุรี ,สภาเกษตรกรจังหวัดปราจีนบุรี ,สมาพันธ์ SMEs ไทยจังหวัดปราจีนบุรี, เครือข่ายธุรกิจ BIZ Club จังหวัดปราจีนบุรี ,หอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี ,กลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ ปราจีนบุรี และ สมาคมท่องเที่ยวปราจีนบุรี ได้เชิญนายรณณรงค์ นครจินดา ผวจ.ปราจีนบุรี ,เจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ,นักวิชาการด้านกัมมันตรังสี ในการมาร่วมรับประทานอาหาร – แถลงสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชน หน้าโรงหลอมเหล็ก ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.พร้อมจัดบิ๊กคลีนนิ่งโรงหลอม นำสื่อมวลชนชมทุกขั้นตอน นายดำริห์ กล่าว
และกล่าวต่อไปว่า จากเหตุการณ์นี้ จากที่มีการนำเสนอข่าวในสื่อมวลชนทุกแขนง และมีการเผยแพร่ข้อมูลอ้างอิงในสื่อ โซเชียลมีเดียอย่างหลากหลาย ทั้งข้อมูลที่เป็นจริงในเชิงวิชาการ ข้อมูลที่เป็นเท็จและมีบางข้อมูลที่ อาจมีความคลาดเคลื่อน ไม่สอดคล้องกับบริบทที่แท้จริง
นำมาซึ่งความสับสนและวิตกกังวลต่อ ประชาชนในจังหวัดปราจีนบุรีและประชาชนทั่วไป ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนใน พื้นที่และส่งผลในวงกว้างกับกิจการด้านต่างๆ ของจังหวัดปราจีนบุรี ทั้งในเรื่องของการท่องเที่ยว การเกษตร การประมงและภาคอุตสาหกรรม
องค์กรภาคเอกชนจังหวัดปราจีนบุรี 10 องค์กร ดังที่กล่าวมาแล้ว ได้ร่วมประชุมกัน ณ โรงแรมแคนทารี กบินทร์บุรี เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2566 เวลา 17.00 - 19.30 น. ได้ข้อสรุปร่วมกัน และจัดทำจดหมายเปิดผนึกถึง ผวจ.ราจีนบุรี ดังนี้
ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแสดงเอกสารยืนยันปริมาณสาร CS-137 ที่เหลือบรรจุใน ภาชนะดังกล่าวที่สูญหายไปโดยมีการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ ที่ไม่ใช่เฉพาะของหน่วยงานราชการ
ให้หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการป้องกัน การกำกับดูแล การใช้วัตถุอันตรายให้ได้มาตรฐานสากล พร้อมกับให้ความรู้แก่บุคลากรในภาคอุตสาหกรรมและ ประชาชนในจังหวัดให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว
ผู้ที่จะมาเยือนจังหวัดปราจีนบุรีให้มีความมั่นใจในความปลอดภัย อาทิเช่นผลการตรวจสาร กัมมันตรังสีตกค้าง ทั้งในน้ำ บกและอากาศ ว่ามีค่าปกติหรือไม่ในรัศมีที่กฎหมายกำหนด ผลการ ตรวจสุขภาพของประชาชนที่อยู่โดยรอบโรงหลอมโลหะตามที่กฎหมายกำหนดและมีเอกสารยืนยัน
จัดแถลงข่าวเพื่อสร้างการรับรู้และสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในจังหวัดปราจีนบุรีและ พร้อมจะแถลงข่าวอย่างเป็นรูปธรรม
กำหนดมาตรการระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ในเรื่องของการตรวจสอบสุขภาพ การตรวจสอบการใช้วัตถุอันตรายโดยมาตรฐานสูงสุดและการกำกับดูแลอย่าง ของประชาชนในพื้นที่ เข้มงวดเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจสูงสุดในชีวิตและทรัพย์สิน
ทุกองค์กรร่วมมีความคิดเห็นเป็นแนวทางเดียวกันและขอให้สัตยาบันว่าข้อตกลงร่วมนี้มี ความโปร่งใสปราศจากอคติทั้งปวง ทั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์ส่วนรวมต่อชาวปราจีนบุรีและประชาชน ชาวไทยโดยส่วนรวม นายดำริห์ กล่าวในที่สุด
ด้าน น.ส.กมุธพร หรือบุ๋ม-หน่อย หรทึก อายุ 44 ปี แม่ค้าขายก๋วยจับ –ก๋วยเตี๋ยวหมู-ไก่ น้ำใส รถจยย.พ่วงข้างจากบ้านนนา หมู่ 12 ต.โพธิ์งาม กล่าวว่า วิ่งรถจยย.พ่วงข่างขายก๋วยจั๊บ –ก๋วยเตี่ยวตามหมู่บ้านต่าง ๆ ของตนเอง ในแถบตำบลโพธิ์งาม อำเภอประจันตคาม อาทิ บ้านนา ,โคกบ้าน,อินไตรย์,บ้านโง้ง,บ้านคุ้ม,บ้านต้น และในตลาด อ.ประจันตคาม หรือ ในงานต่าง ๆ อาทิ เกณฑ์ทหาร ในช่วงนี้ สถานการณ์การค้าขายจำหน่ายวิ่งรถจยย.พ่วงข้างถึงบ้านกับลูกค้าขายดีขึ้นกว่าเดิม ผลกำไรมากกว่า 500 บาท / วัน ขึ้นไป
พบว่าประชาชนตามหมู่บ้าน ไม่กังวล หรือ เป็นห่วง หรือ กังวลในเรื่องสารซีเซียม -137 กันแล้ว ชาวบ้าน -ผู้บริโภคเชื่อว่าปลอดภัย น.ส.กมลพร กล่าว
และกล่าวต่อไปว่า ตนเองหลังเรียนจบระดับชั้นการศึกษาภาคบังคับ (ม.3) ได้เคยไปเป็นลูกจ้างตามร้านอาหาร มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับเมนูอาหาร และ ศึกษาสูตรเด็ด-เมนู ก๋วยจั๊บ –ก๋วยเตี๋ยว ตามช่องการเรียนรู้ผ่านยูทู๊ป ได้นำมาปรับเป็นสูตรเด็ดของตนเอง ทำเป็นอาชีพอิสระเลี้ยงตนเองและครอบครัวแบบพอเพียง น.ส.กมุธพรกล่าว
ด้านนางสมพร หรือขาว บัวหอม อายุ 65 ปี ลกค้า กล่าวว่า ซื้อก๋วยจั๊บ ก๋วยเตี๋ยวประจำ ติดใจในรสชาติอร่อย และราคาไม่แพง และในส่วนสารซีเซี่ยม -137 นั้น เชื่อมั่นว่าปราจีนบุรีปลอดภัย นางสมพร หรือขาว กล่าว
มานิตย์ สนับบุญ -ข่าว/ดาว-ถวิล ประจิตร - ภาพ / ปราจีนบุรี