In Thailand

จัดเวทีผู้ซื้อข้าวนาปรังพบเกษตรกรที่อำเภอบึงบูรพ์



ศรีสะเกษ-เครือข่ายภาคประชาสังคมจังหวัดศรีสะเกษร่วมกับสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษจัดเวทีผู้ซื้อข้าวนาปรังพบเกษตรกรที่อำเภอบึงบูรพ์

เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566  ที่วัดป่าศรีบึงบูรพ์  อำเภอบึงบูรพ์  จังหวัดศรีสะเกษ    นายทิวา  รุ้งแก้ว  ประธานเครือข่ายกองทุนศรีสะเกษโมเดล  ได้เป็นประธานเปิดเวทีเสวนาผู้ซื้อข้าวนาปรังพบเกษตรกรที่อำเภอบึงบูรพ์  โดยมีนายทำนอง  ห่อไทสงค์  ประธานเครือข่ายเกษตรอินทรีย์วิถี ศรีสะเกษสู่ครัวโลก  นายอุทัย  สีหะวงษ์  ประธานสภาเทศบาลตำบลบึงบูลพ์  นายเกษม ศานต์  ศรีโพนทอง  สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ เขตอำเภอขุนหาญ  นายบุญประกอบ  หาญบาง  สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ศรีสะเกษเขต อำเภอปรางค์กู่  นายธนา  แก้วจันทร์  สมาชิกสภาเกษตรกร จังหวัดศรีสะเกษ เขตอำเภออุทุมพรพิสัย นายสุกฤษฏิ์  ดวนสูง สมาชิกสภาเกษตรกร จังหวัดศรีสะเกษเขตอำเภอวังหิน  และนายไพมาส  ศรีนนท์  สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ  เขตอำเภอบึงบูรพ์  ร่วมจัดเวทีเสวนาแบ่งปันประสบการณ์ในการทำนาปรังประจำปี 2566  และมีสมาชิกเกษตรกรอำเภอบึงบูรพ์และอำเภอใกล้เคียงเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน  80  คน  ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษได้มีความรู้  ทักษะและประสบการณ์เกี่ยวกับการทำนาปรัง  การตลาดและแหล่งจำหน่ายข้าวนาปรังในราคาสูงขึ้นต่อไป

หลังจากนั้น นายเกษมศานต์  ศรีโพนทอง  ตัวแทนสภาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ  เขตอำเภอขุนหาญ  ได้นำสภาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษและสื่อมวลจังหวัดศรีสะเกษ  ตรวจประเมินพื้นที่ทำนาปรัง  ที่บ้านโนนสวย    อำเภอบึงบูรพ์   จังหวัดศรีสะเกษ ด้วย  

นายเสรี  แดงงาม  กำนันตำบลบึงบูรพ์  กล่าวว่ากลุ่มเกษตรกรอำเภอบึงบูรพ์  เป็นกลุ่มทำข้าวนาปรังมากที่สุดในจังหวัดศรีสะเกษ  มีปัญหาอุปสรรของข้าวนาปรังคือการดูแลลำบากยากกว่าข้าวนาปี  และยังเกิดวิกฤตค่าไฟฟ้าแพง  ส่วนราคาข้าวยังขายได้ราคาเดิม  จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือในเรื่องค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมันสำหรับเกษตรกร โดยจัดเป็นโควต้าพิเศษโดยเฉพาะ  นอกจากนี้ราคาปุ๋ยก็สูงมาก  สำหรับปีนี้ก่อนฤดูการทำนาปรัง กลุ่มเกษตรกรอำเภอบึงบูรพ์  ได้ทำสัญญากับบริษัทรินมาร์ค ในเรื่องของราคาข้าว  จำหน่ายข้าวสด ราคาตันละ 8,000  บาท  และข้าวแห้งได้ราคาตันละ 1,1000  บาท

นายอุทัย  สีหะวงศ์  ประธานสภาเทศบาลตำบลบึงบูรพ์ ในฐานะประธานกลุ่ม เกษตรอินทรีย์วิถีบึงบูรพ์  เจ้าของสโล แกนที่ว่าปล่อยกบสู่นา  ปล่อยปลาสู่น้ำ  คืนต้นไม้ให้แผ่นดิน  กล่าวว่า การจัดกิจกรรมของกลุ่มปีนี้  ทางกลุ่มมีกำไร ได้แบ่งปันกำไรส่วนหนึ่งช่วยเหลือสังคม  จึงได้มอบเงินจำนวน 3,000  บาท  ให้กับนายทิวา  รุ้งแก้ว  ประธานเครื่อข่ายกองทุนศรีสะเกษโมเดล เพื่อนำไปขับเคลื่อนโครงการบ้าน/วัด/โรงเรียน  ต่อไป

นายเกษมศานต์  ศรีโพนทอง  ตัวแทนสภาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ  เขตอำเภอขุนหาญ กล่าวว่า ตนจะนำเอาปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรจังหวัดศรีสเกษ  นำเสนอต่อสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ และเสนอผ่านไปยังสภาเกษตรกรแห่งชาติ  เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลใหม่ เพื่อหาแนวทางแก้ไขและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังต่อไป

บุญทัน-ปฐมพงษ์  ธุศรีวรรณ  / ศรีสะเกษ