In Global
'เคลย์เดอโปโบเต้'ประสานมือกับยูนิเซฟ เดินหน้าช่วยเหลือเด็กหญิง5.7ล้านคน
โตเกียว--11 เมษายน 2566-เคลย์ เดอ โป โบเต้ (Clé de Peau Beauté) แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางสุดหรูระดับโลก จับมือกับยูนิเซฟ (UNICEF) ประกาศขยายความร่วมมือออกไปอีกสามปี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศผ่านโครงการสนับสนุนการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ หรือ สะเต็มศึกษา (STEM Education) รวมถึงการจ้างงาน และการเสริมสร้างศักยภาพของเด็กหญิง โดยพันธมิตรทั้งสองทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2562 เพื่อสนับสนุนงานของยูนิเซฟในการจัดการกับต้นตอของปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศ สำหรับการขยายความร่วมมือในครั้งนี้ตั้งเป้าที่จะเข้าถึงเด็กหญิงเพิ่มอีก 5.7 ล้านคนทั่วโลกในช่วงสามปีข้างหน้า เพื่อมอบเครื่องมือและทรัพยากรที่จำเป็นต่อการพัฒนาทักษะและเติมเต็มศักยภาพของเด็กหญิง ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของเป้าหมายโดยรวมของยูนิเซฟที่จะช่วยปลดล็อกศักยภาพของเด็กหญิง 11.5 ล้านคนภายใต้โครงการสกิลส์ฟอร์เกิร์ลส์ (Skills4Girls) ในกว่า 30 ประเทศทั่วโลกภายในปี 2568 โดยความก้าวหน้าในส่วนนี้มีความสำคัญมากกว่าที่เคยเมื่อโลกเข้าสู่ยุคหลังโควิด-19 ซึ่งเยาวชนหญิงต้องประสบกับภาวะเสียเปรียบและถูกทิ้งไว้ข้างหลังในสาขาที่สำคัญดังกล่าวในสัดส่วนที่เหลื่อมล้ำกันอย่างมากเมื่อเทียบกับเยาวชนชาย
เพื่อเป็นการสนับสนุนความพยายามร่วมกันในครั้งนี้ เคลย์ เดอ โป โบเต้ ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะมอบเงินสนับสนุน 8.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่โครงการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศของยูนิเซฟ ซึ่งเป็นการบริจาคของภาคเอกชนครั้งใหญ่ที่สุดในโลกในด้านนี้ เพื่อโครงการสกิลส์ฟอร์เกิร์ลส์โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาทักษะของเด็กหญิงในสาขาต่าง ๆ เช่น สะเต็ม เทคโนโลยีดิจิทัล และการเป็นผู้ประกอบการทางสังคม นอกเหนือไปจากทักษะชีวิต เช่น การแก้ปัญหา การเจรจา การเห็นคุณค่าในตนเอง และการสื่อสาร อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการเข้าถึงโอกาสในแวดวงสะเต็มที่เท่าเทียมกันมากขึ้น ตลอดจนเพิ่มบทบาทและความเป็นผู้นำของผู้หญิงในสาขาวิชาสะเต็มทั่วโลก
จนถึงปัจจุบัน ความร่วมมือระหว่างเคลย์ เดอ โป โบเต้ กับยูนิเซฟ เป็นประโยชน์กับเด็กหญิงมากกว่า 3.5 ล้านคน โครงการที่มีความสำคัญนี้มุ่งมั่นจัดการกับความท้าทายที่เฉพาะเจาะจงซึ่งแต่ละภูมิภาคกำลังเผชิญอยู่ ผ่านหลักสูตรการศึกษาและการฝึกอบรมที่อิงทักษะและคำนึงถึงเพศ เช่น โครงการการเรียนรู้ทางเลือก (Alternative Learning Program) ในบังกลาเทศ รวมถึงการพัฒนาทักษะสะเต็มและส่งเสริมการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยผ่านโครงการสะเต็มฟอร์เกิร์ลส์ (STEM4Girls) ในคีร์กีซสถาน ไปจนถึงโครงการฝึกอบรมวิชาชีพและให้คำปรึกษาเพื่อช่วยให้เยาวชนสามารถแข่งขันในตลาดงานได้มากขึ้นผ่านโครงการอัปชิฟต์ (UPSHIFT) ในประเทศไนเจอร์ และโครงการอื่น ๆ อีกมากมาย
"เคลย์ เดอ โป โบเต้ เชื่อว่ากุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่โลกที่ดีกว่าเดิมนั้น อยู่ที่การปลดล็อกศักยภาพของเด็กหญิงผ่านการศึกษา และความเชื่อนี้คือรากฐานของเป้าหมายด้านการกุศลในระยะยาวของเรา อีกทั้งยังเป็นเหตุผลที่เราร่วมมือกับยูนิเซฟ" คุณมิซูกิ ฮาชิโมโตะ (Mizuki Hashimoto) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายแบรนด์ของเคลย์ เดอ โป โบเต้ กล่าว "ในการทำภารกิจที่สำคัญต่อไปอีกสามปีข้างหน้า เราตั้งเป้าที่จะผลักดันการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกต่อไปด้วยการเสริมสร้างศักยภาพของเด็กหญิงทั่วโลก เราทุกคนล้วนมีบทบาทในการทำให้วิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันนี้กลายเป็นความจริง และการทำงานร่วมกันจะช่วยให้เราสามารถสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน"
การขยายความร่วมมือระหว่างเคลย์ เดอ โป โบเต้ กับยูนิเซฟ ได้รับการสนับสนุนผ่านแคมเปญการตลาดอิงการกุศล (Cause-Related Marketing Campaign) โดยทุก ๆ การซื้อผลิตภัณฑ์เดอะ เซรั่ม (The Serum) ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุดของแบรนด์ ทางแบรนด์จะบริจาคเงิน 3 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของยูนิเซฟทั่วโลก โดยเงินทุนสนับสนุนนี้จะช่วยสานต่อภารกิจการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเยาวชนในบังกลาเทศ คีร์กีซสถาน จีน ไนเจอร์ เปรู เวียดนาม ฯลฯ และจะขยายโครงการที่ประสบความสำเร็จในลักษณะเดียวกันนี้ในอินโดนีเซียอีกด้วย โดยทั้งหมดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ปัญหาช่องว่างความเท่าเทียมทางเพศในแวดวงสะเต็มในยุคหลังโควิด-19
"ทั่วโลกนั้น 1 ใน 4 ของเด็กหญิงอายุ 15-19 ปีไม่ได้รับการศึกษา การฝึกอบรม หรือการจ้างงาน ในขณะที่เด็กชายวัยเดียวกันมีสัดส่วนไม่ถึง 1 ใน 10 ด้วยเหตุนี้ การลงทุนเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาศักยภาพของเด็กหญิงจึงมีความสำคัญมากที่สุดในตอนนี้ เนื่องจากเด็ก ๆ ล้วนเป็นผู้นำแห่งอนาคต ซึ่งความท้าทายระดับโลกเช่นนี้ต้องการทางออกระดับโลก และความร่วมมือก็เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยให้เราสร้างการเปลี่ยนแปลง เรามีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับเคลย์ เดอ โป โบเต้ ต่อไปอีกสามปี เพื่อสนับสนุนเด็กหญิงรุ่นใหม่ให้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ รวมทั้งช่วยเสริมสร้างทักษะและสนับสนุนเด็กหญิงด้วยโอกาสในการฝึกอบรมและการทำงาน" คุณคาร์ลา ฮัดดาด มาร์ดินี (Carla Haddad Mardini) ผู้อำนวยการฝ่ายระดมทุนและความร่วมมือภาคเอกชนของยูนิเซฟ กล่าว
เคลย์ เดอ โป โบเต้ และยูนิเซฟ มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะช่วยอุดช่องว่างความเท่าเทียมทางเพศ และช่วยให้เด็กหญิงและชุมชนทั่วโลกได้รับโอกาสด้านสะเต็มศึกษา การจ้างงาน และการเสริมสร้างศักยภาพที่จำเป็น เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับตนเองและโลกของเราในศตวรรษที่ 21
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เดอะ เซรั่ม มีวางจำหน่ายทั้งทางหน้าร้านและออนไลน์ โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2566 เคลย์ เดอ โป โบเต้ จะบริจาคเงิน 3 ดอลลาร์สหรัฐจากทุก ๆ การซื้อผลิตภัณฑ์เดอะ เซรั่ม ให้แก่ยูนิเซฟ พร้อมรับประกันยอดเงินบริจาคขั้นต่ำ 2.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ยูนิเซฟไม่ได้รับรองบริษัท แบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใด ๆ