In Bangkok
เห็นชอบตั้งกก.วิสามัญแก้ไขข้อบัญญัติ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพย์สิน
กรุงเทพฯ-สภากทม.เห็นชอบตั้งกรรมการวิสามัญแก้ไขข้อบัญญัติกทม. ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพย์สินที่ประชาชนทั่วไปใช้สอยร่วมกัน ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ในที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 3) ประจำปีพุทธศักราช 2566 : นางกนกนุช กลิ่นสังข์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตดอนเมือง เสนอญัตติขอให้สภากรุงเทพมหานครตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาเพื่อแก้ไขปรับปรุงข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพย์สินที่ประชาชนทั่วไปใช้สอยร่วมกัน พ.ศ. 2536 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพย์สินที่ประชาชนทั่วไปใช้สอยร่วมกัน พ.ศ. 2536 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 รวมถึงระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพย์สินที่ประชาชนทั่วไปใช้สอยร่วมกัน พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 ประกอบกับกรุงเทพมหานครให้ทุกหน่วยงานถือปฏิบัติตามแนวทางในการพัฒนาทรัพย์สินที่ประชาชนทั่วไปใช้สอยร่วมกัน และแนวทางการรับโอนสาธารณูปโภคที่ผู้จัดสรรที่ดินได้จัดให้มีขึ้นเพื่อการจัดสรรที่ดิน ตามมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 ทั้งนี้ กฎหมาย และระเบียบดังกล่าวใช้บังคับมาเป็นเวลานาน ซึ่งมีข้อกำหนดบางประการไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และแนวทางในการพัฒนาทรัพย์สินที่ให้หน่วยงานถือปฏิบัติในปัจจุบันยังคงให้คำนึงถึงหลักเกณฑ์ตามหนังสือสั่งการเมื่อปี พ.ศ.2558 ทำให้เกิดข้อขัดข้องในการพัฒนาทรัพย์สินที่ประชาชนใช้สอยร่วมกัน จึงขอให้สภากรุงเทพมหานครตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาเพื่อแก้ไขปรับปรุงข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพย์สินที่ประชาชนทั่วไปใช้สอยร่วมกัน พ.ศ.2536 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
“ในปัจจุบันพบว่าบางพื้นที่ถูกทิ้งร้างมานานกว่า 10-20 ปี ถนนพังจนถึงโครงสร้าง มีการร้องเรียนหลายครั้ง แต่กรุงเทพมหานครก็ไม่สามารถนำงบประมาณเข้าไปแก้ไขได้ โดยพบพื้นที่ลักษณะนี้จำนวนมากในเขตรอบนอก นอกจากปัญหาโครงสร้างก็ยังมีปัญหาเรื่องไฟฟ้าส่องสว่าง ซึ่งเป็นนโยบายหนึ่งของผู้ว่าฯกทม.ด้วย จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงกฎหมายให้เป็นปัจจุบัน ทันสมัย และเป็นประโยชน์กับประชาชน โดยไม่ขัดกับหลักกฎหมายที่ควรจะเป็น และทำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติติงานสามารถทำงานได้โดยสะดวก ไม่ต้องเสี่ยงกับการผิดกฎหมาย” ส.ก. กนกนุช กล่าว
ด้าน นางสาวรัตติกาล แก้วเกิดมี ส.ก.เขตสายไหม นายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย ส.ก.เขตบึงกุ่ม นายณรงค์ รัสมี ส.ก.เขตหนองจอก นายสมชาย เต็มไพบูลย์กุล ส.ก.เขตคลองสาน นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง นายเอกกวิน โชคประสพรวย ส.ก.เขตราชเทวี นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย นางสาวมธุรส เบนท์ ส.ก.เขตสะพานสูง นางสาวนฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ ส.ก.เขตคลองสามวา นายณรงค์ศักดิ์ ม่วงศิริ ส.ก.เขตบางบอน นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.เขตลาดกระบัง นายวิรัช คงคาเขตร ส.ก.เขตบางกอกใหญ่ และนายวิพุธ ศรีวะอุไร ส.ก.เขตบางรัก ได้ร่วมอภิปรายเพื่อสนับสนุนญัตติ โดยแสดงความคิดเห็นว่าพบปัญหานี้ในพื้นที่อื่นเช่นเดียวกัน บางชุมชนจัดตั้งถูกต้องตามกฎหมายหรือบางพื้นที่อยู่ในความรับผิดชอบของภาครัฐแต่กทม.ก็ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการปรับปรุงได้ ในขณะที่ประชาชนทุกคนเสียภาษีเช่นกัน การดูแลจึงต้องทั่วถึงและมีมาตรฐานเหมือนกัน ซึ่งการแก้ไขข้อบัญญัติจะก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนเป็นหลัก นอกจากนี้ยังได้ฝากถึงคณะกรรมการวิสามัญที่จะตั้งขึ้น ให้กำหนดแนวทางการรับโอนสาธารณูปโภค และใช้กระบวนการจัดเก็บภาษีที่ดินให้เป็นประโยชน์ เพื่อควบคุมเจ้าของที่ดินที่ปล่อยทิ้งพื้นที่ของตนเองด้วย
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับญัตตินี้และให้แต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาเพื่อแก้ไขปรับปรุงข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพย์สินที่ประชาชนทั่วไปใช้สอยร่วมกัน พ.ศ. 2536 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 17 ท่าน กำหนดระยะเวลาการศึกษา 90 วัน