In Thailand

สนั่นวงการผ้าเหลืองหลวงพี่น้ำฝนลุยจัดระเบียบพระ



นครปฐม-สนั่นวงการผ้าเหลือง หลวงพี่น้ำฝนวัดไผ่ล้อมนำทีมลุยจัดระเบียบพระ อึ้งมี ผช.เจ้าอาวาสยืนรับบาตรหน้าร้านจำหน่ายอาหาร

หลวงพี่น้ำฝนจัดทีมคณะคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ลงพื้นที่จัดระเบียบพระภิกษุ ยืนบิณฑบาตหน้าร้านขายอาหารถุง หลังประชาชนร้องสื่อตรวจสอบพฤติกรรมหวั่นเสียภาพลักษณ์วงการสงฆ์ โดยพบมีพระปักหลักตามรับแจ้งพร้อมบุกวัดตรวจสอบประวัติ พบผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดดังแข็งข้อก่อน ออกอาการหมดแรงใส่ยอมรับการติติงจากคณะพระวินยาธิการสองฝ่าย

 

วันนี้ 21 เม.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในฐานะประธานคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 ได้เชิญนายยุทธนา โพธิวิหค นายอำเภอเมืองนครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม และคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 สนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ ตลาดเช้า ถนนเทศาซอย 2 หลังจากมีประชาชนส่งเรื่องร้องเรียนและมีสื่อนำเสนอเกี่ยวกับความไม่สบายใจที่ได้เห็น พระภิกษุสงฆ์บางรูปมีพฤติกรรรมไม่ยอมเดินแต่ใช้การยืนปักหลักบิณฑบาตบริเวณกลางสะพานและหน้าร้านจำหน่ายอาหารมัดถุงสำหรับใส่บาตรให้กับพระภิกษุ มีลักษณะคล้ายเวียนอาหารที่ใช้ใส่บาตรสำหรับญาติโยมที่มาตักบาตรในช่วงเช้า

โดยในการลงตรวจสอบเรื่องดังกล่าวพบมีพระภิกษุบางรูปมีลักษณะดังกล่าวตามที่มีการนำเสนอข่าวไปจริงซึ่งหลวงพี่น้ำฝน ประธานคณะทำงานฯ ได้ลงไปสอบถามถึงต้นสังกัดและเข้าทำความเข้าใจให้พระภิกษุที่มีพฤติกรรมดังกล่าวได้มีการเดินบิณฑบาตและให้กลับวัดเมื่อได้รับของเต็มบาตรแล้ว ซึ่งมีบางส่วนได้พยามเดินหลบหายไปและบางรูปแสดงความไม่พอใจ ซึ่งตรวจสอบพบว่าเป็นพระภิกษุทั้ง 2 นิกายคือสายมหานิกายและสายธรรมยุต ซึ่งขณะที่คณะทำงานได้ลงพื้นที่ได้มีประชาชนและแม่ค้าได้เข้ามาแจ้งถึงพฤติกรรมที่พบคือบางรูปทีท่าทีเกรี้ยวกราดไม่ยอมให้ใครเดินผ่านหรือไปอยู่ในจุดที่ยืนรับบาตรโดยมีการด่าทอและแสดงความเป็นเจ้าของพื้นที่ โดยพบว่าพระภิกษุที่ได้ทำการตรวจสอบที่ทั้งจากวัดห้วยจระเข้และวัดทุ่งน้อยสามัคคี

ต่อมาได้ลงตรวจพื้นที่บริเวณหน้าองค์พระปฐมเจดีย์ ปากทางเข้าถนนซอยกลางตลาดบน-ล่าง พบว่ามีร้านจำหน่ายอาหารถุงที่แบ่งจัดเป็นชุดโดยมีดอกไม้ธูปเทียนและเครื่องกรวดน้ำตั้งไว้บริการโดยพบว่ามีพระภิกษุ 2 รูปยืนรับบาตรไม่ยอมเดินออกจากบริเวณดังกล่าว โดยเมื่อหลวงพี่น้ำฝนและนายอำเภอเมืองนครปฐม รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปขอตรวจสอบ ได้แสดงท่าทีไม่พอใจและขัดขืนในการตรวจสอบ จึงได้มีการเข้าไปทำความเข้าใจและตักเตือนซึ่งทั้งคู่พยายามมีปากเสียงตลอดเวลา แต่มีอาการน่าพิรุธหลายอย่างขณะอยู่ในพื้นที่

โดยพระสรชัย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดทุ่งน้อยสามัคคี ได้ให้ข้อมูลกับสื่อที่ติดตามไปทำข่าวว่า ตนเองไม่เข้าใจว่าใครร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปและต้องการอะไรเป็นชาวพุทธหรือไม่ ซึ่งอยากจะพูดในฐานะฆราวาสว่า เรื่องนี้ได้ทำการแจ้งกับเจ้าอาวาสวัดทุ่งน้อยสามัคคี แล้วว่ามาทำอะไร รายงานพระผู้ใหญ่รวมถึงเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐมไปแล้ว

“อาตมามาบิณฑบาตที่หน้าร้านนี้ตั้งแต่ 6 โมงเช้าซึ่งที่มายืนตรงนี้เพราะมีโยมบางส่วนนิมนต์มาเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายใจในการใส่บาตร เช่นโยมที่จะมาใส่บาตรพระ 7 รูปก็สะดวกและหากจะยึดหลักการของพระพุทธเจ้าว่าต้องเดินบิณฑบาตเท่านั้นก็ไม่ได้เพราะสังคมทุกวันนี้คนต้องการความสะดวกและยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด”

จากนั้น คณะทำงานฯ ได้จัดกำลังสนธิลงพื้นที่ วัดทุ่งน้อยสามัคคี ต.ทุ่งน้อย อ.เมืองนครปฐม โดยได้ประสานกับ พ.ต.อ.ยงลิต ศุภผล ผกก.สภ.สามควายเผือกในการนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมฝ่ายปกครองอำเภอเมืองนครปฐม เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ในการเข้าตรวจสอบบุคคลในวัดเนื่องจากไม่มั่นใจว่าพระภิกษุที่ได้อ้างว่ามีการแจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่และตรวจสอบบุคคลต่างๆ ที่อาจจะมาแฝงตัวหาผลประโยชน์ภายในวัด

โดยเมื่อคณะทำงานไปถึงได้พบ พระครูสมุห์สมนึก ทีปธโร เจ้าอาวาสวัดทุ่งน้อยสามัคคี ซึ่งอาพาธนั่งอยู่บนเตียงในกุฏิ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเรื่องขอตรวจสอบบุคคลในวัด และได้เชิญคณะสงฆ์ 14 รูป แบ่งเป็นสายมหานิกายและสายธรรมยุต จึงได้ประสาน พระมานิส ปภธฺลโร เลขาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม(ธ) เข้ามาตรวจสอบร่วมกันซึ่งมีการตรวจปัสสาวะบุคคลที่อยู่ภายในวัดและคณะสงฆ์ รวมถึงตรวจสอบเอกสารทั้งหมด รวมถึงความสะอาดเรียบร้อยภายในพื้นที่วัด

แต่ขณะทำจะขอทำการตรวจปัสสาวะ พระสรชัย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดทุ่งน้อยสามัคคีได้เกิดมีอาการอาพาธและมีท่าทีจะเป็นลมหลังเก็บตัวอย่างปัสสาวะและมีท่าทีเคร่งเครียดกับการถูกตรวจสอบดังกล่าว สุดท้ายได้เปลี่ยนท่าทีทันทีหลังคณะทำงานรุกเข้มการตรวจจอย่างหนัก และการตรวจปัสสาวะพบว่าไม่มีใครที่มีปัสสาวะสีม่วง แต่ตรวจพบเอกสารหลายรายไม่ถูกต้องจึงต้องทำบันทึกให้มีการย้ายออกจากวัดและบางรายต้องสึกออกไปเนื่องจากไม่สามารถยืนหลักฐานได้

นายยุทธนา โพธิวิหค นายอำเภอเมืองนครปฐม กล่าวว่า การตรวจลงพื้นที่ดังกล่าวสืบเนื่องจากการประสานจากหลวงพี่น้ำฝน ว่ามีการร้องเรียนในเรื่องดังกล่าว ซึ่งทราบมาว่ามีลักษณะเวียนอาหารด้วยซึ่งดูแล้วไม่เหมาะสมวันนี้ลงมาในฐานะเจ้าของพื้นที่และตรวจดูสภาพการไปก่อน ซึ่งกรณีบิณฑบาตคือเพื่อไปโปรดโยมไม่ใช่ยืนเพื่อรับบาตร และเรื่องนี้มี 2 มุมมองคือหากมองเป็นธุรกิจอาจจะไม่เหมาะนักและหากมองเป็นเรื่อของการอำนวยความสะดวกก็แล้วแต่มุมมอง ซึ่งจากนี้คณะสงฆ์คงจะมีมาตรการในการปรับให้เหมาะสมต่อไป

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในฐานะประธานคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 กล่าวว่า วันนี้จากการได้ลงมาตรวจสอบก็พบว่ามีการการยืนอยู่หน้าร้านซึ่งการร้องเรียนแจ้งเหมือนว่าจะมีการวนเป็นการรีไซเคิ้ลอาหาร โดยจากนี้จะมีการตรวจทุกวัน เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย

นอกจากนี้พบว่ามีพระภิกษุสงฆ์ที่มายืนหน้าร้านค้าก็มีทั้งสายมหานิกายและสายธรรมยุต ซึ่งก็ได้มีการเชิญคณะสงฆ์สายธรรมยุตมาดำเนินการร่วมกันเพื่อเป็นการจัดระเบียบและจากนี้จะร่วมกันทำงานเพื่อปรับปรุงและแก้ไข โดยจะมีการดำเนินการในภาค 14 คือ จังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรีและสมุทรสาคร โดยจะมีคณะทำงานจังหวัดละ 20 รูปทำงานร่วมกันกับหลายภาคส่วนเพื่อทำให้การภาพที่ไม่สร้างความอึดอัดใจกับพระพุทธศาสนิกชน ซึ่งวันนี้ก็ได้รับเรื่องร้องเรียนจากแม่ค้าในพื้นที่ว่าพระที่มายืนบางรูปมีพฤติกรรมหวงที่ และยึดพื้นที่มีการด่าทอญาติโยมที่มายืนบังจุดรับบาตรด้วย