Authority & Harm
ผบช.ภาค8จี้จับยิงดวลปืนงานแต่งสุราษฎร์เหิมท้ากฎหมาย

สุราษฎร์ธานี-ออกหมายจับ 1 วัยรุ่นนำปืนขุนแผนสุราษฎร์ ทิ้งอำพราง ผบช.ภาค 8 เต้นเร่งจี้จับยิงดวลปืนงานแต่งสุราษฎร์เหิมท้ากฎหมาย
ความคืบหน้ากรณีเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ยิงต่อสู้กันบนลานจอดรถในงานแต่งงานด้านหลังโรงแรมบรรจงบุรี ถนนเลี่ยงเมือง หมู่ 3 ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เมื่อคืนวันที่ 28 เมษายน ระหว่างนายภาณุพงศ์ หรือเดี่ยว หรือแผน สุวรรณสินธุ์ อายุ 35 ปี ชาว ต.คลองไทร อ.ท่าฉาง เซียนพระชื่อดังฉายา “ ขุนแผน สุราษฎร์ ” กับนายวิรัช หรือเจน สุดภักดี อายุ 39 ปี ชาว ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ เจ้าของสถานบันเทิงผับชื่อ “ ทองหล่อ ” อยู่ใน อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และเจ้าของกิจการรถยก “ เจน สไลออนด์ ” ปรากฎเสียชีวิตทั้งคู่และมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บอีก 2 ราย ชื่อน.ส.กานต์สิริ หรือแพท ติ้วต้ง(สุวรรณสินธุ์) อายุ 30 ปี อดีตภรรยานายภาณุพงศ์ ถูกยิงที่ขาขวากระดูกแตก และน.ส.ธนัยธร หรือบอลลูน ลื่อเท่ง อายุ 20 ปี แฟนใหม่นายภาณุพงศ์ ถูกยิงที่ขาซ้าย ซึ่งเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ที่มีการพกพาอาวุธปืนไปในงานที่มีผู้คนจำนวนมากและใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ในสถานที่ชุมชนอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย นั้น
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 29 เมษายน ที่ห้องประชุม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต. ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รอง ผบช.ภาค 8 เดินทางมาติดตามคดีและร่วมกับพล.ต.ต.ศรัญญู ชํานาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และพ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ประชุมตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนให้เร่งและรวบรวมพยานหลักฐานให้ดำเนินคดี เนื่องจากแต่ละฝ่ายมีอาวุธปืนและเป็นการก่อเหตุในลักษณะเหิมเกริมบ้านป่าเมืองเถื่อนท้าทายกฎหมายอย่างมาก โดยที่ประชุมใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รอง ผบช.ภาค 8 กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งรัดติดตามคดี ซึ่ง พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภาค 8 ได้มอบให้เร่งรัดติดตามสำนวนการสอบสวน ได้พยานมาเพิ่มเติมและมีแนวทางในการออกหมายจับเพิ่มในคดีนี้ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ
พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการสอบสวนพบว่าผู้เสียชีวิตทั้งคู่เป็นเพื่อนกันกันมาก่อนและมาขัดแย้งกันในเวลาต่อมา โดยมีการโต้ตอบไปมากันทางเฟซบุ๊คจนเมื่อมาเจอกันในงานแต่งงาน ซึ่งทั้ง 2 มาเจอกันเกิดเหตุร้ายขึ้นเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และสืบทราบว่ายังมีบุคคลที่อื่นที่ร่วมก่อเหตุด้วย ซึ่งขณะนี้สืบทราบแล้วเป็นใครที่ร่วมด้วยกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ จำนวน 2 ราย โดยบุคคลแรกเป็นผู้ที่หยิบอาวุธปืนของผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุไป จึงเสนอขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี
“ ซึ่งคนนี้ยอมรับว่าเอาอาวุธปืนของนายภาณุพงศ์ หรือเดี่ยว หรือแผน ไปทิ้ง โดยช่วงที่นำตัวนายภานุพงศ์ไปส่งที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ได้หยิบอาวุธปืนขนาด 11 มม.ไปด้วย จากนั้นก่อนที่จะกลับเข้ามาที่โรงแรมอีกครั้งได้โดยอาวุธปืนทิ้งไว้ข้างถนนหน้าโรงแรม ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 รายกำลังรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อไป ”พล.ต.ต.ศรัญญู กล่าว
วันเดียวกัน ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้นำตัวนายพงศกร หรือต๋อง ไกรทอง ชาว ต.บางกุ้ง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ไปค้นหาอาวุธปืนบริเวณพงหญ้าป่าละเมาะข้างถนนเลี่ยงเมือง ฝั่งไปแยกตาปาน ก่อนถึงทางเข้าโรงแรมบรรจงบุรี ประมาณ 70 เมตรโดยพบอาวุธปืนขนาด 11 มม.ของของนายภาณุพงศ์ หรือเดี่ยว หรือแผน อยู่ในพงหญ้า ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
นายพงศกร กล่าวว่า ตนนำอาวุธปืนมาทิ้งด้วยความตกใจ ตนก็ถูกยิงเหมือนกัน โดยฝั่งนายวิรัช หรือเจน เป็นคนยิงเข้ามาเหตุการณ์เมื่อคืนตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิงก่อน และตนไม่ใช่คนยิง เขาดวลกันและมีคนยิงเป็นมือที่ 3
ต่อมา การสืบสวนพบว่า กลุ่มที่ร่วมก่อเหตุของฝั่งนายวิรัช หรือเจน มากันหลายคนเป็นกลุ่มบ่อกรัง ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ด้วย ล่าสุดเวลา 18.00 น.ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้อนุมัติหมายจับที่ จ168/2566 ลงวันที่ 29 เม.ย.66 ให้จับกุมนายพงศกร หรือต๋อง ผู้ที่นำอาวุธปืนขนาด 11 มม.ของนายภาณุพงศ์ หรือเดี่ยว หรือแผน ไปทิ้ง ในข้อหากระทำผิดฐาน ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำผิด , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวนายพงศกร หรือต๋อง ไว้ได้ก่อนแล้ว