Think In Truth
เก็บตกมวลชนสาวหนุ่มคึกคัก!!รอต้อนรับ 'พิธา ก้าวไกล'ขึ้นปราศรัยเพียง10นาที
ฉะเชิงเทรา-มวลชนสาวหนุ่มคึกคัก มารอคอยต้อนรับ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่มาขึ้นปราศรัยช่วยผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่ 1 แปดริ้วหาเสียงบนรถแห่เพียงแค่ 10 นาที ในการการันตีตัวผู้สมัครว่าครั้งนี้จะไม่มีงูเห่า พร้อมรับช่อดอกไม้และมาลัยพวงมะม่วง ก่อนชูจะขับเคลื่อนสุราก้าวหน้าเป็นบรั่นดีมะม่วง จากนั้นร่วมถ่ายภาพกับแฟนคลับพร้อมแจกลายเซ็นอีกเป็นเวลานานกว่า 20 นาที ก่อนที่จะเดินทางไปช่วยผู้สมัครเขต 4 ใน อ.บางปะกง ปราศรัยหาเสียงต่อไป
วันที่ 5 พ.ค.66 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศของมวลชนที่มารอคอยต้อนรับและรับฟังการปราศรัยย่อย แบบจรยุทธ์เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ในพื้นที่มีความคาดหวังสูงว่าผู้สมัครในสังกัดจะได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.จากประชาชนของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่บริเวณด้านหน้าตลาดตุ้งโร่ฟู้ดมาร์เก็ต 8 ริ้ว ใกล้กับสามแยกเทศบาล 2 อ.เมืองฉะเชิงเทราว่า ได้มีมวลชนเดินทางทยอยมารวมตัวกันตั้งแต่ในเวลาประมาณ 15.00 น.เป็นต้นมา
ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวจำนวนประมาณเกือบ 1 พันคน โดยส่วนใหญ่นั้นเป็นคนที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวและเยาวชน ที่ยังคงสวมใส่ชุดนักเรียนนักคึกษา เดินทางเข้ามารอยคอยต้อนรับหัวหน้าพรรคก้าวไกลในครั้งนี้ด้วย ซึ่งระหว่างรอคอยนั้นได้มีแกนนำและผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัครได้ขึ้นกล่าวปราศรัยตั้งแต่ในเวลาประมาณ 15.50 น. ก่อนที่นายพิธา จะเดินทางมาถึง และขึ้นไปบนเวทีปราศรัยซึ่งอยู่บนรถแห่หาเสียงของ นายธนะชัย แสวงศิริผล ผู้สมัครหมายเลข 6 ของพรรคในเขตเลือกตั้งที่ 1 (อ.เมืองฉะเชิงเทรา และบ้านโพธิ์บางส่วน)
ซึ่งนายพิธา ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีโดยใช้เวลาเพียงประมาณ 10 นาที เกี่ยวกับการแนะนำตัวผู้สมัครในเขตนี้ ที่ทางพรรคได้ให้ความมั่นใจต่อประชาชนว่าจะไม่มี ส.ส.งูเห่าเกิดขึ้นอีกอีก และพร้อมจะเตรียมกระทะเครื่องแกงผัดเผ็ดงูเห่าไว้ในวันที่ 14 พ.ค.66 หลังจากพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เคยมีผู้สมัครได้รับการเลือกตั้งให้เป็น ส.ส.มาแล้ว จำนวน 2 เสียง และได้ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นจำนวน 1 เสียง
โดยระบุว่า เมื่อครั้งทำพรรคอนาคตใหม่นั้นมีเวลา 2 เดือน แต่เมื่อมาเป็นก้าวไกลมีเวลา 2 ปี ฉะนั้นใครจะมาเป็นผู้สมัครของพรรคต้องผ่าน 4 ด่านในการคัดเลือก โดยด่านที่ 1 ต้องตอบคำถามว่าทำไมอยากเล่นการเมือง และทำไมต้องมาก้าวไกล และทำไมต้องสมัครในสมัยนี้ ขณะด่านที่ 2 ต้องถูกคณะกรรมการสัมภาษณ์จำนวน 7-8 คน และด่านที่ 3 ต้องผ่านหลักสูตรการเมืองของพรรคก้าวไกล ที่ทดสอบอุดมการณ์และประสิทธิ์ภาพอย่างเข้มข้น
ส่วนด่านที่ 4 ให้มาเปิดตัวกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน ที่เปรียบเสมือนถูกนำเอาเข้าเครื่องเอกซเรย์ โดยให้คนในสังคมได้ตรวจสอบก่อนที่จะเข้าคูหาไปเลือกให้เป็น ส.ส.ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ส่วนเรื่องการบริหารจัดการภายในพรรคที่ผิดพลาดต้องขออภัยทุกท่าน และขอให้คำมั่นสัญญาว่า คราวนี้ไม่มีงูเห่าที่ฉะเชิงเทราอีก นายพิธา กล่าวบนเวทีรถแห่หาเสียง
ก่อนที่จะมีมวลชนนำช่อดอกไม้มามอบให้ และนำพวงมาลัยมะม่วงมามอบให้ พร้อมนำมาชูและพูดว่าเป็นความหวังว่าเศรษฐกิจจะโตได้ จะขายให้ได้ราคา เป็นมะม่วงแพงกลายเป็นบรั่นดีมะม่วง ด้วยนโยบายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล พร้อมระบุว่าสิ่งที่นายธนชัย จะทำนั้น ต้องการให้ฉะเชิงเทราเป็นเมืองอุตสาหกรรมของประชาชนที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมของนายทุนเพียงอย่างเดียว โดยแรงงานที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมใน จ.ฉะเชิงเทรา กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ต้องได้รับค่าแรงขันต่ำอย่างน้อย 450 บาททันที และจะทำได้ทันทีเมื่อตนเป็นนายกรัฐมนตรี
ขณะที่เรื่องสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับปัญหาขยะในชุมชนที่ จ.ฉะเชิงเทรา นั้นมีมากที่สุด ที่ลงแม่น้ำบางปะกงและเป็นที่ 2 รองจากแม่น้ำเจ้าพระยา และมีปัญหาขยะไหลลงทะเลมากเป็นอันดับที่ 5 ของโลก โดยที่กรุงเทพมหานครให้งบประมาณมากำจัดขยะที่ขนมาเพียง 7 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่านาฬิกาบางคนอีก ฉะเชิงเทรามีปัญหาขยะมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย แต่ได้งบประมาณน้อยกว่านาฬิกาบางเรือน
หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ต้องการจะกระจายอำนาจ ต้องการให้ผู้ว่าเป็นคนฉะเชิงเทราจริงๆ และต้องได้งบประมาณ 200-300 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ เป็นการสนับสนุนให้ท้องถิ่นทำให้มีทรัพยากรมีเทคโนโลยี และนี่เป็นความตั้งใจในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยนายธนชัย จะเป็นหนึ่งใน 4 คนของชาว จ.ฉะเชิงเทรา หากได้รับความไว้วางใจให้เข้าสภาไปเลือก “พิธา” เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป และเชื่อว่าคราวนี้แลนด์สไลน์ที่ฉะเชิงเทราแน่นอน
โดยหลังการกล่าวปราศรัยเสร็จสิ้น นายพิธา ได้ร่วมถ่ายภาพกับบรรดาแฟนคลับ พร้อมแจกลายเซ็นต์บนหน้าจอทัชสกรีนของโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนให้แก่บรรดามวลชนที่ส่วนใหญ่เป็นหญิงสาว ที่พากันยื่นสมาร์ทโฟนให้แก่นายพิธาเซ็นชื่อไว้ให้บนหน้าจอเป็นที่ระลึกจำนวนมาก โดยใช้เวลานานถึงกว่า 20 นาที ก่อนที่จะขึ้นรถยนต์ตู้สีขาว เคลื่อนตัวออกไปเมื่อเวลาประมาณ 16.53 น. ท่ามกลางมวลชนที่ยังเข้าไม่ถึงและพยายามที่จะเข้าไปยื่นโทรศัพท์มือถือให้เซ็นชื่อ
โดยที่ทีมงานจัดเวทีปราศรัย ได้ให้มวลชนแสกนคิวอาร์โคดในการสมัครเป็นอาสาสมัครช่วยสอดส่องจับผิดการทุจริตเลือกตั้งไว้ด้วย เช่น การใช้เงินซื้อเสียง โดยที่นายพิธา ได้แจ้งก่อนออกเดินทางกลับไปว่า จะเดินทางไปขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อช่วย นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ผู้สมัครหมายเลข 2 เขต 4 (บางปะกง แปลงยาว และบ้านโพธิ์บางส่วน) ยังที่บริเวณโดมสนามฟุตซอลเทศบาลบางวัวคณารักษ์ ใน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และจะเดินทางไปช่วยผู้สมัครในเขตพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ปราศรัยหาเสียงเป็นลำดับต่อไปในวันเดียวกันนี้
ขณะเดียวกันหลังจากรถยนต์ตู้ของนายพิธา ได้เคลื่อนตัวออกไปไม่นาน ได้มีขบวนรถแห่ของนายเฉลิง จูจำรัส ผู้สมัครจากพรรคชาติไทยพัฒนา หมายเลข 8 ที่ขับเคลื่อนขบวนมานับ 10 คัน มุ่งหน้ามาตามเส้นทางบนถนนเทพคุณากรจากหน้าวัดโสธรฯ ซึ่งกำลังมีการจราจรแออัดอย่างหนัก หลังจากที่มวลชนกำลังเคลื่อนตัวทยอยเดินทางกลับออกไปจากบริเวณตลาดตุ้งโร่ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายเดียวกัน
โดยมีนายเฉลิง ได้ยืนกล่าวปราศรัยอยู่บนรถนำ ที่ด้านหน้าขบวนเพื่ออ้อนขอคะแนนจากมวลชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวจำนวนมากบนรถบรรทุกขนาด 6 ล้อพร้อมผู้ช่วยหาเสียงด้วยตนเองเพียง 2 คน ซึ่งถือเป็นโอกาสทองที่จะได้เข้ามาช่วงชิงฐานคะแนนเสียงจากมวลชนที่ยังคงอยู่ในบริเวณดังกล่าว ถือเป็นสีสันในช่วงโค้งสุดท้ายในการหาเสียงของผู้สมัครในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้พยายามที่จะหาโอกาสเข้ามาอ้อนขอคะแนนให้แก่ตนเองให้ได้รับเลือกตั้งไปเป็น ส.ส.ให้ได้มากที่สุด
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา