In Bangkok

'ชัชชาติ'ปั้น33จนท.กทม.เป็นทูตสื่อสาร ให้เป็นผู้บอกต่อภารกิจ9ด้าน9ดีถึงปชช.



กรุงเทพฯ-กรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดพิธีแต่งตั้ง ทูตสื่อสาร กทม. BMA PR Ambassador เพื่อเปิดตัวข้าราชการและลูกจ้าง กทม. ที่ได้รับคัดเลือกเป็นทูตสื่อสาร กทม. รวม 33 คน โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแต่งตั้ง ในวันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2566 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายอำนาจ ปานเผือก รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่สอง (สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางแค) นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ของ กทม. และสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยาน 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า  การสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องไม่ง่าย เพราะต้องเข้าใจจิตใจคนที่เราจะสื่อสารด้วย โดยก่อนที่เราจะสื่อสารจะต้องฟังให้เยอะก่อน เพราะเมื่อสื่อสารออกไปแล้ว การสื่อสารจะเป็นนายเรา ฉะนั้น เราต้องมีความแม่นยำ ต้องมั่นใจว่าข้อมูลถูกต้อง หากเป็นสิ่งที่ไม่รู้ก็ยังไม่ควรพูดหรืออาจพูดว่ายังไม่รู้แล้วเร่งหาข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงหากพูดอะไรผิดต้องรีบแก้ไข เพื่อจะได้สื่อสารได้อย่างชัดเจนและถูกต้อง

“สิ่งสำคัญในการสื่อสารมี 3 ประการ ได้แก่ 1. Timing คือ จังหวะเวลาต้องเหมาะสม 2. Channel คือ ช่องทางต้องถูกต้องตามกลุ่มเป้าหมาย และ 3. เนื้อหาต้องแม่นยำ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทูตสื่อสาร กทม. มาจากบุคลากรหลากหลายสาขา เพราะมีความแม่นยำในข้อมูล มีความรู้ความสามารถในหลาย ๆ เรื่อง โดยหวังว่าทูตสื่อสาร กทม. จะขยายผลไปยังเพื่อน ๆ เพื่อให้บุคลากรทุกคนสามารถประชาสัมพันธ์ได้  โอกาสนี้ ขอแสดงความยินดีกับทุกท่าน ขอให้ร่วมเป็นกำลังสำคัญของ กทม. ในการเผยแพร่ทั้งสิ่งที่ดีหรือสิ่งไม่ดีเพื่อนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้น เราจะเดินไปด้วยกันเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนต่อไป” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวให้โอวาทแก่ทูตสื่อสาร กทม. ทั้ง 33 คน

กรุงเทพมหานคร ในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ได้เดินทางมาจนถึงปีที่ 50 แล้ว สิ่งที่สั่งสมมายาวนานถึงกึ่งศตวรรษ เป็นความภาคภูมิใจของ “คน กทม.” จากรุ่นสู่รุ่นที่ทำงานทุ่มเทเพื่อทำเมืองให้น่าอยู่ และดูแลประชาชนกว่า 10 ล้านคนให้มีความสุข ดังนั้น ในวาระ 50 ปี กทม. จึงเป็นเวลาของ “การสร้างบุคลากร” เพื่อทำหน้าที่สื่อสารนโยบาย ภารกิจ และผลงานของ กทม. ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะต้องมีความพร้อมและความตั้งใจที่จะเป็น “ตัวแทนขององค์กร” ในการสื่อสาร โดยปีนี้ กทม. ได้จัดให้มีการคัดเลือกทูตสื่อสาร กทม. เป็นปีแรก ซึ่งมีผู้สมัครเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้ผ่านการคัดเลือกรวม 33 คน ซึ่งถือได้ว่าเป็นบุคลากรคุณภาพ เป็นตัวแทนของข้าราชการและลูกจ้าง กทม. ที่มาจากสายงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ครู เทศกิจ หมอ พยาบาล  ธุรการ  นักดับเพลิง ช่าง  คนงานกวาด นักบัญชี หรือนักบริหาร ซึ่งล้วนเป็นบุคคลที่รู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับงานที่ทำมากที่สุด เพราะเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง เปรียบเสมือน “โซ่ข้อสุดท้าย” ที่อยู่ใกล้ชิดปัญหาและประชาชนผู้ใช้บริการมากที่สุด ทูตสื่อสารฯ รุ่นที่ 1 นี้ จึงเป็นความหวังของ กทม. ที่จะเป็นกระบอกเสียง นำเรื่องราวดี ๆ ของกรุงเทพมหานครในแง่มุมต่าง ๆ ที่หลายคนไม่เคยรู้ ไปบอกต่อเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน 

สำหรับกระบวนการคัดเลือกทูตสื่อสาร กทม. BMA PR Ambassador นั้น กทม. ได้เปิดรับสมัครจนถึงวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา โดยได้มีการประกาศเชิญชวนข้าราชการและลูกจ้าง กทม. ที่มีความรู้ ความสามารถ และรักในการสื่อสาร สามารถสมัครด้วยตนเองหรือหน่วยงานส่งเข้าร่วมคัดเลือก ซึ่งปรากฏว่ามีผู้ร่วมสมัครทั้งสิ้น 130 คน จากนั้นจึงทำการคัดเลือกรอบแรก ให้เหลือ 60 คน และคัดเลือกรอบที่ 2 จนเหลือเพียง 33 คน เพื่อเข้ามาทำหน้าที่ทูตสื่อสาร กทม. BMA PR Ambassador จากนั้นจึงจัดให้มีการอบรม “หลักสูตรผู้นำการสื่อสารของกรุงเทพมหานคร” ซึ่งเป็นการอบรมเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลิกภาพและการสื่อสาร เพื่อติดอาวุธให้กับทูตฯ ทุกคนให้สื่อสารได้อย่างโดนใจและมีประสิทธิภาพ จนถึงวันนี้ จึงได้มีการจัดพิธีแต่งตั้งขึ้น เพื่อประกาศอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชน 

โดยภายหลังจากการแต่งตั้งในวันนี้แล้ว ทูตสื่อสาร กทม. BMA PR Ambassador จะเข้ามามีบทบาทในการประชาสัมพันธ์และสื่อสารภารกิจต่าง ๆ ของ กทม. ไปยังประชาชน ตลอดจนนโยบาย 9 ด้าน 9 ดี ที่จะนำเสนอผ่านบุคลากรที่มีคุณภาพของ กทม. ซึ่งคาดว่าในปีต่อ ๆ ไป กทม. น่าจะมีการจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อต่อยอดและขยายบุคลากรที่จะมาทำงานนี้ให้มากขึ้น

ทั้งนี้ การแต่งตั้ง “BMA Brand Ambassador” ทั้ง 33 คน ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะเข้ามาร่วมขับเคลื่อนและพัฒนาการให้บริการของ กทม.  ในทุก ๆ ด้าน ให้สอดคล้องและตรงกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด โดยเป็นผู้ทำหน้าที่สื่อสารเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นตัวแทนในการสร้างความเข้าใจกับประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ถึงการทำงานและความก้าวหน้าในการพัฒนากรุงเทพมหานครในอนาคต

สำหรับทูตสื่อสาร กทม. ทั้ง 33 คน มีดังนี้
    1. นายพงษ์จักรินทร์ ถาวรพงษ์ ผู้อำนวยการเขต สำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
    2. นายสรรเสริญ เรืองฤทธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต สำนักงานเขตดุสิต
    3. นายกรณิศ บัวจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานนันทนาการและส่งเสริมการเรียนรู้ สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว
    4. นายชิษณุพงศ์ นันทะศิริวัฒน์กุล เจ้าพนักงานสาธารณสุขอาวุโส ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตภาษีเจริญ
    5. นางโชติกา ยุภิญโญ พนักงานทั่วไป (กวาด) ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตยานนาวา
    6. จ่าสิบตรีอภิชาติ พรหมพงษ์ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยชำนาญการ สถานีดับเพลิงและกู้ภัพหลโยธิน กองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 1 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
    7. นางสาวนฤมล เพชรปลูก นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ ศูนย์บริการสาธารณสุข 2 วัดมักกะสัน สำนักอนามัย 
    8. นายณัฐพล ชำนิธุรการ นักวิชาการสุขาภิบาลชำนาญการ ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตปทุมวัน 
    9. นางสาวสุธิรา ธีรโรจนวงศ์ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ ศูนย์บริการสาธารณสุข 16 ลุมพินี สำนักอนามัย 
    10. สิบเอกจาโรจน์ จันทร์กระจ่าง พนักงานเทศกิจปฏิบัติงาน ฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตพระนคร 
    11. นายนิพิฐพนธ์ จิรเมธาธร นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ ส่วนเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 
    12. นางสาวปัญญรัตน์ ตันติยวุฒิ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ กลุ่มงานพัฒนาระบบเทคโนโลยีการศึกษา กองเทคโนโลยีการศึกษา สำนักการศึกษา 
    13. นายพงศกุนต์ ธารไชย นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ กลุ่มงานสรรหาบุคคล ส่วนการสรรหาและข้อมูลบุคคล สำนักงานการเจ้าหน้าที่ สำนักการศึกษา 
    14. นางสาวทอฝัน วสุธนโภคิน นักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ กองบำเหน็จบำนาญ สำนักการคลัง 
    15. นายนิรันดร์ บุตรโท วิทยากรส่งเสริมอาชีพ โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (ดินแดง 1) สำนักพัฒนาสังคม 
    16. นางสาวประภัสสิณี บุญญาสถิต ครู คศ.1 โรงเรียนวัดประดู่บางจาก (พ่วงอุทิศ) สำนักงานเขตภาษีเจริญ 
    17. นางสาวนุษรา โพธิ์พัฒนชัย ครู โรงเรียนวัดหนองแขม (สหราษฎร์บูรณะ) สำนักงานเขตหนองแขม 
    18. นายสดายุ เหมทานนท์ นักโภชนาการปฏิบัติการ กองสร้างเสริมสุขภาพ สำนักอนามัย 
    19. ว่าที่ร้อยตรีหญิงนิตยา ศรีวะรมย์ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) สำนักการแพทย์ 
    20. นายกันตพัฒน์ สุวรรณเรือง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนวัดปทุมวนาราม ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สำนักงานเขตปทุมวัน 
    21. จ่าสิบตรีทิวัตร์ ศรีคง เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยชำนาญการพิเศษ สถานีดับเพลิงและกู้ภัยดอนเมือง กองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 
    22. นางสาวพลอยไพลิน ศิริสม ครู คศ.1 โรงเรียนวัดโพธิ์เรียง สำนักงานเขตบางกอกน้อย 
    23. นายอภิวัฒน์ เอี่ยมวัฒนานันท์ เจ้าพนักงานปกครองปฏิบัติการ ฝ่ายปกครอง สำนักงานเขตบางขุนเทียน 
    24. นางสาวภูวเรศ กันทะ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปฏิบัติการ สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางโพ กองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 
    25. นางณัฏฐนิช กีรติภาสน์กุล เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ หัวหน้าฝ่ายทะเบียน ฝ่ายทะเบียน สำนักงานเขตสวนหลวง 
    26. นายสมภพ ศิรินุกูลชร นายช่างเครื่องกลชำนาญงาน กลุ่มงานอาคารบังคับน้ำ ส่วนระบบควบคุมน้ำธนบุรี สำนักงานระบบควบคุม สำนักการระบายน้ำ 
    27. นายปรีชา ชาลีทำ นักเทคนิคการแพทย์ชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานชันสูตรโรคกลางและธนาคารเลือด โรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร สำนักการแพทย์ 
    28. นางสาวศศิประภา รินแก้ว นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ ฝ่ายการศึกษา สำนักงานเขตบางแค 
    29. ว่าที่ร้อยตรีกฤษฎิ์ พชรการัณยภาส ครู โรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ สำนักงานเขตบางกะปิ 
    30. ว่าที่ร้อยตรีสิทธิเดช ฉวีวรรณ นักวิเคราะห์งบประมาณชำนาญการพิเศษ กองวิเคราะห์งบประมาณ 4 สำนักงบประมาณกรุงเทพมหานคร 
    31. นายประกาศิษฐ์ คะระวานิช นายแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลตากสิน สำนักการแพทย์ 
    32. นางสาวปวีณา วีระบุรุษ เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้อาวุโส ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตบึงกุ่ม 
    33. นางสาวเขมรัตน์ เทพกัลยา เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ 

“ที่ผ่านมาการประชาสัมพันธ์อยู่ในระดับที่ดี แต่เรายังสามารถทำให้ดีขึ้นได้ ซึ่งทุกอย่าง อาทิ การให้บริการประชาชน การเปิดเผยข้อมูล ความโปร่งใส ฯลฯ หากเราคิดว่าทำดีอยู่แล้ว สุดท้ายก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่หากเราคิดว่ายังไม่ดีพอ ก็จะเป็นแรงผลักดันในการปรับปรุงให้ดีขึ้นได้” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ในช่วงท้าย