In Thailand

กลุ่มบริษัทแป้งมันสำปะหลังSMSจัดใหญ่เอาใจสมาชิกชาวไร่ที่ชัยภูมิ



ชัยภูมิ-กลุ่มบริษัทแป้งมันสำปะหลัง SMS จัดใหญ่ เอาใจสมาชิกชาวไร่ ที่ชัยภูมิ หลังราคาพุ่งสูงสุดในรอบ12ปี แจกรางวัลใหญ่รถอีแต๋น

สำหรับปีนี้กลุ่มบริษัทSMS โดยนายณัฐชัย  หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามควอลิตี้สตาร์ซ จำกัด จัดขึ้นที่บริษัท สยามควอลิตี้สตาร์ซ  จำกัด  อำเภอบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 มี ดร.วีรวัฒน์  เลิศวนวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท เอสเอ็มเอส คอปเปอร์เรอชั่น จำกัด เป็นประธานเปิดงาน  เป็นกิจกรรมใหญ่ที่จัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี เพื่อพบปะสมาชิกชาวไร่มันสำปะหลัง แลกเปลี่ยนประสบการณ์ รับรู้สถานการณ์ราคา สถานการณ์โลกระบาด ตลอดจนแนวทางพัฒนาปรับปรุงคุณภาพมันสำปะหลังให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูง ต้านทานโรค สร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสมาชิกชาวไร่ ซึ่งทางกลุ่ม SMSนำระบบสมาชิกมาใช้ เป็นระดับต้นๆของประเทศ  ในงานมีนิทรรศการด้านเทคโนโลยีการผลิต การพัฒนาสายพันธุ์มันสำปะหลัง การพัฒนาต่อยอดมันสำปะหลังในรูปแบบต่างๆ การสร้างโรงเรียนมัรนสำปะหลังแห่งแรกของโลกที่ชัยภูมิ การประกวดหัวมันสำปะหลังและกิจกรรมอื่นๆมากมาย นอกจากนี้ยังมีการจับหางบัตรลุ้นรางวัล พิเศษปีนี้รางวัลใหญ่เป็นรถอีแต๋น มูลค่า3 แสนกว่าบาท ที่ออกแบบสีสัน สร้างขึ้นมาเป็นออรินอล มีคันเดียวในโลก   

ดร.วีรวัฒน์  เลิศวนวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท เอสเอ็มเอส คอปเปอร์เรอชั่น จำกัด  เปิดเผยว่าธุรกิจมันสำปะหลังของไทย ปีที่แล้วยอดส่งออก 1แสน5หมื่นล้านบาท คิดเป็น 1%ของจีดีพี ถือว่าโตที่สุดในรอบที่ผ่านมา ใน1%ของ จีดีพี  นั้นเมื่อเทียบกับธุรกิจแป้งมันทั้งโลก ไทยเราอยู่อันดับ1 ถือเป็นโอกาสสูงสุดของไทย ทางกลุ่มบริษัท SMS จึงวางแนวทางในการพัฒนาให้ได้ผลผลิตมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ตลาดโลก ทั้งการปรับปรุงพันธุ์ การสร้างเกษตรกรคนรุ่นใหม่ การใช้เทคโนโลยีในการผลิต การปลูก การดูแล ขณะเดียวกันพืชมันสำปะหลัง เป็นพืชเศรษฐกิจที่ช่วยในการดูดซับกาซคาร์บอนไดออกไซด์ ต้นเหตุของภาวะเรือนกระจก ซึ่งมีผลให้เกิดภาวะโลกร้อน ถือว่าอยู่ในระดับสูงมากกว่าพืชเศรษฐกิจตัวอื่น  อยากจะฝากให้รัฐบาลชุดใหม่ ให้ความสำคัญกับมันสำปะหลังโดยกำหนดให้มีมูลค่าเพิ่มในเรื่องเครดิตคาร์บอน แล้วนำมูลค่าอันนั้นกลับมาช่วยชาวไร่ หรือผู้ที่มีส่วนทำให้โลกเย็นลง  

"อยากจะบอกเกษตรกรปลูกมันสำปะหลัง ที่อยู่กับเรามานานถึง 30ปี โดยเฉพาะเด็กเยาชนคนรุ่นใหม่ ที่เคยรู้สึกว่าอยู่กับไร่กับนาชีวิตไม่หวือหวา ตรงนี้กลับมองว่าจะเป็นโอกาสให้ คนรุ่นใหม่กลับมาพัฒนาอาชีพใกล้ตัว ให้เป็นการปลูกพืชแบบสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ใช้เทคโนโลยีการการควบคุมแทนการใช้กำลังคน เพราะว่าอุตสาหกรรมแป้งเป็นอนาคตสำคัญระดับชาติจริงๆ ปีนี้ราคาสูงสุดในรอบ 20 ปีก็ว่าได้ กิโลละ -บาทกว่า ถึง - 3.90 บาท ตลาดโลกยังมีความต้องการต่อเนื่อง ซึ่งทางบริษัทได้ จัดตั้งโรงเรียนมันสำปะหลังแห่งแรกของประเทศ สอนเทคโนโลยีต่างๆให้เยาวชนตั้งแต่ระดับมัธยม ให้สามารถนำความรู้ ไปปรับใช้ในครอบครัวของตนเอง ไม่ต้องเดินทางไปรับจ้างทำงานในเมืองใหญ่  ขณะเดียวกันทาง  ในอนาคตยาวไกลยังคิดว่า ไทยเรายังสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆได้ ทางกลุ่มบริษัท SMS ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนวัตกรรม ศึกษา ทดลอง การแปรรูปผลผลิตจากมันสำปะหลัง ไปใช้งานหลากหลายรูปแบบ ล่าสุดใช้ใบมันสำปะหลังไปเลี้ยงตัวไหม ได้เส้นไหมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กลายเป็นอาชีพทางเลือกให้กับเกษตรกรได้อีกทางหนึ่งด้วย"

"อยากจะเสนอแนะ ถึงรัฐบาลที่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ ประเด็นเดียวคือเรื่องของสิ่งแวดล้อม คิดถึงเรื่องโลกที่มันร้อนขึ้นทุกๆปี สาเหตุก็คือการที่มีคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือนกระจกมากขึ้น  จริงๆแล้วชาวไร่มันสำปะหลังมีส่วนทำให้โลกเย็นลง ตรงนี้ขอยืนยันเพราะว่า ไร่มันสำปะหลังสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถึงปีละ 32 ล้านตัน (กรมวิชาการเกษตรประกาศเมื่อ6 มกราคม 666)  ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อมาสร้างเป็นหัวมัน ขณะเดียวก็ยอมรับว่าเราก็ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เข้าสู่บรรยากาศ โดยการผลิตโมดิไฟร์สตาร์ซ ผลิตแป้งดิบ รวมแล้ว 5 ล้านตัน/ปี  ถือว่าไร่มันสำปะหลังสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ได้เยอะมาก ตรงนี้ถือว่าชาวไร่มันเป็นกลไกสำคัญ ช่วยลดภาวะโลกร้อน ผู้ที่ทำให้โลกเย็นลงควรที่ได้คุณประโยชน์จากสิ่งนี้บ้าง หากรัฐบาลส่งเสริม หรือตั้งกฏเกณฑ์ เรื่องเครดิตคาร์บอน ให้มูลค่าสูงขึ้น  เช่น  เครดิตคาร์บอน1 ตันมีมูลค่าสัก 1.000บาท เมื่อชาวไร่มันสำปะหลัง สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถึงปีละ 32 ล้านตัน ก็จะมีมูลค่าถึง 3หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งมูลค่านี้น่าจะได้นำกลับมาสนับสนุน ช่วยเหลือชาวไร่ เพราะเขาเป็นคนทำจริงๆ เมื่อไปเทียบกับพืชอื่นๆ อ้อย ข้าว ข้าวโพด เทียบกันไม่ได้เลย อยากจะฝากประเด็นเดียวคับ"///////จบข่าว////////////